
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

Rating: 4.4/5 (5 votes)




สถานที่ท่องเที่ยวพิษณุโลก
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 06.00 - 18.00 น.
เวลาเปิดทำการ: 06.00 - 18.00 น.
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ถือเป็นอุทยานแห่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอย่างแท้จริง พื้นที่อุทยานครอบคลุมทั้งจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยเฉพาะบริเวณอำเภอชาติตระการและอำเภอน้ำปาดซึ่งเป็นเขตติดต่อชายแดนไทย–ลาว ทำให้ภูมิประเทศของที่นี่มีลักษณะเป็นแนวเขาสูงทอดตัวยาวสลับซับซ้อน บางช่วงเป็นหน้าผาสูงตระหง่านทอดยาวดุจเป็นกำแพงธรรมชาติที่ปกป้องผืนป่าเอาไว้ บางพื้นที่เป็นสันเขาเรียงรายที่สามารถเดินตามแนวสันเพื่อชมทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา และยังมีพื้นที่ราบสูงที่กลายเป็นทุ่งหญ้า ทุ่งดอกไม้ รวมถึงป่าสนกว้างใหญ่ที่งดงามไม่แพ้ที่ใดในโลก
ประวัติของพื้นที่ภูสอยดาวเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของชาวม้งที่เคยใช้พื้นที่สูงเป็นที่ทำกินมาเป็นเวลานาน เมื่อยังไม่ได้มีการประกาศเขตป่าอนุรักษ์ ชาวม้งได้ถางพื้นที่เพื่อทำไร่เลื่อนลอย ซึ่งทำให้ผืนป่าบางส่วนถูกทำลาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทางการได้เข้ามาดูแลและประกาศให้พื้นที่นี้เป็นอุทยานแห่งชาติ การฟื้นฟูของธรรมชาติจึงเกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ดินแดนที่เคยเป็นไร่ถูกปกคลุมด้วยหญ้าและดอกไม้หลากชนิด กลายเป็นทุ่งกว้างที่ปัจจุบันเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วประเทศและต่างชาติที่ใฝ่ฝันอยากจะได้มาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต
ความสูงของยอดภูสอยดาวที่ 2,102 เมตร ทำให้สภาพอากาศที่นี่แตกต่างจากพื้นที่โดยรอบอย่างชัดเจน อุณหภูมิเฉลี่ยเย็นสบายเกือบทั้งปี ในฤดูฝนทุ่งหญ้าและป่าสนจะเต็มไปด้วยสีเขียวชอุ่มสดใส ตัดกับดอกไม้ป่าที่บานสะพรั่งสร้างสีสันให้กับทิวทัศน์ ในฤดูหนาวอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างมาก โดยเฉพาะในยามเช้าที่บางครั้งอาจมีแม่คะนิ้งหรือเกล็ดน้ำแข็งเกาะตามใบหญ้าและยอดไม้ ถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ ขณะที่ฤดูร้อนอากาศก็ยังคงเย็นกว่าพื้นราบ และเหมาะแก่การมาพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศสงบเงียบ
ความโดดเด่นที่สุดของภูสอยดาวคงหนีไม่พ้นป่าสนสามใบที่กว้างใหญ่สุดสายตา ต้นสนสูงเสียดฟ้าเรียงรายอย่างเป็นระเบียบตามธรรมชาติ ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัว นักท่องเที่ยวจำนวนมากชื่นชอบการมาเดินชมป่าสนในยามเช้าที่หมอกขาวลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือยอดไม้ แสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านเรือนยอดสนตกกระทบลงมาบนทุ่งหญ้ากลายเป็นภาพที่สวยงามประทับใจ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ถ่ายภาพยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างบันทึกเก็บไว้เป็นความทรงจำ
ทุ่งดอกไม้ป่าของภูสอยดาวก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนเดินทางไกลขึ้นมาถึงยอดเขา โดยเฉพาะดอกหงอนนาคที่ขึ้นอยู่ทั่วไปในพื้นที่โล่ง ดอกไม้ชนิดนี้มีลักษณะกลีบดอกสีม่วงอมฟ้า เมื่อผลิบานพร้อมกันเต็มทุ่งจะทำให้พื้นที่กลายเป็นทะเลสีม่วงที่สวยงามจับตา ฤดูที่เหมาะสมในการชมดอกหงอนนาคคือช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ซึ่งตรงกับช่วงฤดูฝนที่ดินชุ่มชื้นและอากาศเย็น นอกจากนั้นยังมีกล้วยไม้ป่าหลายสายพันธุ์ที่ขึ้นตามคาคบไม้ใหญ่ รวมถึงดอกไม้นานาชนิดที่ช่วยสร้างสีสันและเพิ่มความน่าสนใจให้กับพื้นที่
เสน่ห์ของภูสอยดาวยังอยู่ที่การได้เฝ้ามองทะเลหมอกในยามเช้า เมื่อตื่นขึ้นจากการนอนกางเต็นท์บนลานกว้างท่ามกลางป่าสน สิ่งแรกที่ได้เห็นคือทะเลหมอกสีขาวนวลที่ลอยอ้อยอิ่งเหนือหุบเขาเบื้องล่าง แสงแรกของดวงอาทิตย์ที่โผล่พ้นขอบฟ้าค่อย ๆ ส่องกระทบทะเลหมอกจนเปลี่ยนเป็นสีทองอ่อน ๆ สร้างภาพทิวทัศน์ที่ยากจะลืมเลือน สำหรับนักเดินทางหลายคน การได้ยืนเงียบ ๆ แล้วสูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมชมทะเลหมอกถือเป็นรางวัลอันล้ำค่าหลังจากการเดินเท้าขึ้นเขาที่เหน็ดเหนื่อย
นอกจากนี้ยังมีน้ำตกที่งดงามหลายแห่งในเขตอุทยาน น้ำตกภูสอยดาวเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุด ด้วยความสูงหลายชั้น น้ำไหลแรงตลอดปีจากต้นน้ำบนยอดเขา เมื่อลงไปยืนบริเวณเชิงน้ำตกจะสัมผัสได้ถึงละอองน้ำเย็นสดชื่นที่กระจายอยู่ทั่วไป ขณะเดียวกันน้ำตกสายทิพย์ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่สวยงามไม่แพ้กัน ลักษณะน้ำตกไหลลดหลั่นลงมาตามหน้าผาหินสูงท่ามกลางป่าเขียวขจี เสียงน้ำตกที่ดังก้องผสมผสานกับเสียงนกป่าและเสียงลมพัดใบไม้กลายเป็นท่วงทำนองธรรมชาติที่ช่วยให้ผู้มาเยือนรู้สึกสงบและสดชื่น
การเดินทางขึ้นภูสอยดาวมีเสน่ห์ตรงความท้าทายของเส้นทางเดินป่า ระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตรจากเชิงเขาสู่พื้นที่กางเต็นท์ด้านบนอาจดูไม่ไกลนัก แต่ความชันในหลายช่วงทำให้ต้องอาศัยแรงกายและความอดทน เส้นทางเดินผ่านทั้งลำห้วย แนวป่าแน่นทึบ และเนินสูงชัน แต่ละก้าวที่เดินเต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติที่ทำให้ลืมความเหนื่อยล้า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้เวลา 4 ถึง 5 ชั่วโมงในการเดินทางขึ้นไปถึงยอด แต่เมื่อไปถึงแล้วทุกคนต่างยืนยันว่าคุ้มค่ากับความพยายาม
พื้นที่ด้านบนมีลานกางเต็นท์กว้างขวางและสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานอย่างห้องสุขา แม้จะไม่มีความสะดวกสบายมากนักแต่ก็เพียงพอสำหรับการพักแรมท่ามกลางธรรมชาติ ความเรียบง่ายนี้ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับความงามแท้จริงของธรรมชาติ ในยามค่ำคืนเมื่อท้องฟ้าเปิด นักท่องเที่ยวสามารถนอนชมดวงดาวนับพันนับหมื่นที่ส่องแสงระยิบระยับ สร้างบรรยากาศโรแมนติกและทำให้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของจักรวาล
ในด้านนิเวศวิทยา ภูสอยดาวถือเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก เนื่องจากตั้งอยู่ในแนวเขาที่เชื่อมต่อระหว่างเทือกเขาเพชรบูรณ์และเทือกเขาหลวงพระบางในประเทศลาว ทำให้มีทั้งป่าดิบเขา ป่าสน ป่าเบญจพรรณ และทุ่งหญ้า สัตว์ป่าหลายชนิดยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก และสัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ภูสอยดาวยังเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำหลายสายที่หล่อเลี้ยงผู้คนในพื้นที่ลุ่มน้ำด้านล่าง ถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญต่อทั้งระบบนิเวศและชีวิตมนุษย์
ความพิเศษอีกประการคือภูสอยดาวไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ นักเรียน นักวิจัย และผู้สนใจด้านธรรมชาติจำนวนมากเลือกมาศึกษาที่นี่ ทั้งในแง่ของพืชพรรณ ดอกไม้ป่า กล้วยไม้หายาก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศในพื้นที่สูง การได้สัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติยังช่วยปลูกฝังให้ผู้มาเยือนตระหนักถึงคุณค่าของการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
เมื่อเปรียบเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวภูเขาอื่น ๆ เช่น ภูกระดึงหรือดอยอินทนนท์ ภูสอยดาวมีเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างออกไป ภูกระดึงมีชื่อเสียงด้านหน้าผาและทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ส่วนดอยอินทนนท์คือยอดเขาที่สูงที่สุดของไทย แต่ภูสอยดาวโดดเด่นด้วยความงามของป่าสนและทุ่งดอกหงอนนาค ซึ่งหาชมไม่ได้ง่าย ๆ ในที่อื่น การเดินทางขึ้นภูสอยดาวอาจท้าทายกว่าที่อื่น แต่ความคุ้มค่าของประสบการณ์ที่ได้รับทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อพิชิตยอดเขาแห่งนี้
ทุกย่างก้าวที่เดินบนเส้นทางของภูสอยดาวคือการสัมผัสกับความงามและความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอย่างแท้จริง ทั้งป่าสนที่เงียบสงบ ทุ่งดอกไม้ที่เปลี่ยนสีสันตามฤดูกาล ทะเลหมอกที่ลอยเหนือหุบเขา น้ำตกที่ไหลแรงก้องกังวาน และท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว ประสบการณ์ทั้งหมดนี้ทำให้ภูสอยดาวไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวธรรมดา แต่คือสถานที่ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ สร้างความประทับใจ และสอนให้ผู้คนตระหนักถึงคุณค่าของธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง





แสดงความเห็น

อัลบั้มรูป(12) 

● ช่างภาพ: Maytgorn Thongkaobua ● ลิงค์: saphipae.com ● ที่มา: pixpros.net |

![]() | ● ช่างภาพ: Jaybingo ● ลิงค์: Jaybingo.multiply.com ● ที่มา: pixpros.net |
● ลิขสิทธิ์ภาพเป็นของช่างภาพ (800*500)
● ดูภาพขนาดเต็มได้จากแฟนเพจของช่างภาพ
● ดูภาพขนาดเต็มได้จากแฟนเพจของช่างภาพ
คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage