
วัดสามเรือน

Rating: 4.5/5 (4 votes)




สถานที่ท่องเที่ยวพิษณุโลก
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
วัดสามเรือน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำวังทอง บนทางหลวงชนบทหมายเลข 4029 บ้านสามเรือน ตำบลนครป่าหมาก อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2450 โดยมีนายบุญ บุญถึง เป็นผู้บริจาคที่ดินจำนวนกว่า 6 ไร่เศษ และมีนางจีนเสี้ยวกับนางเม้า ซึ่งเป็นแม่ค้าในชุมชน ร่วมกันเป็นผู้นำในการดำเนินการก่อสร้างวัดแห่งนี้ เดิมทีมีชื่อว่าวัดโพธาราม ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดสามเรือนตามชื่อของหมู่บ้าน และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อราว พ.ศ. 2453 นับเป็นหลักฐานทางศาสนาและวัฒนธรรมที่แสดงถึงความร่วมแรงร่วมใจของชุมชนในการสร้างศาสนสถานเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในพื้นที่
ในช่วงปี พ.ศ. 2470 พระอุปัชฌาย์บาง เกสรํสี เจ้าอาวาสในสมัยนั้นได้ปฏิสังขรณ์อุโบสถหลังเก่าจนแล้วเสร็จ โดยมีพระอินทร์ติสวโรเป็นผู้ช่วยดูแล เมื่อพระอุปัชฌาย์บางมรณภาพในปี พ.ศ. 2477 การสืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสได้ตกแก่หลวงพ่อหรั่ง ยสวนฺโต ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาวัดสามเรือน ทั้งการบูรณะจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนพุทธประวัติและวิถีชีวิตของชาวนครป่าหมากภายในและภายนอกอุโบสถ จนเกิดเป็นงานศิลปกรรมพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่นในจังหวัดพิษณุโลก โดยผลงานเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและเพื่อบูชาคุณพระอุปัชฌาย์บางในปี พ.ศ. 2490 นับเป็นงานช่างท้องถิ่นที่สะท้อนทั้งความศรัทธาและความงดงามของศิลปวัฒนธรรมไทยได้อย่างลงตัว ต่อมา วัดยังได้สร้างอุโบสถใหม่เพิ่มเติมขึ้นเพื่อรองรับการทำสังฆกรรมและกิจกรรมทางศาสนา
จิตรกรรมฝาผนังที่วัดสามเรือนมีความน่าสนใจอย่างยิ่ง แบ่งได้เป็นสองส่วนคืออุโบสถเก่าและอุโบสถใหม่ ภายในอุโบสถเก่า ผนังด้านนอกมีการเขียนภาพไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยด้านหน้าเป็นภาพพุทธประวัติบริเวณซ้ายและขวาของประตู ส่วนตรงกลางเขียนพระพุทธเจ้าปางรำพึง และด้านบนเขียนภาพพระมาลัยขึ้นไปไหว้พระเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ ส่วนด้านหลังยังคงเหลือภาพอยู่เพียงสามภาพ โดยภาพใหญ่ด้านบนเป็นภาพพุทธประวัติช่วงตรัสรู้ ขณะที่ภาพเล็กด้านล่างเป็นภาพสนามมวย และยังมีภาพขนาดเล็กซึ่งคาดว่าอาจเป็นรูปเหมือนของผู้วาดเอง สำหรับผนังด้านในนั้นเดิมเขียนพุทธประวัติครบทั้งสี่ด้าน แต่ปัจจุบันยังหลงเหลือเพียงด้านขวาพระและด้านหลังพระประธานที่สมบูรณ์ ส่วนด้านซ้ายพระเหลือเพียงบางส่วน โดยเรื่องราวขาดหายตั้งแต่ตอนพระเจ้าพิมพิสารถวายเวฬุวันไป จนปรากฏอีกครั้งที่ฉากปรินิพพานใกล้ประตูทางเข้า
ส่วนอุโบสถใหม่มีการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังที่แตกต่างออกไป โดยผนังเหนือหน้าต่างและประตูเป็นภาพทศชาติ โดยเฉพาะเวสสันดรชาดกทั้ง 13 กัณฑ์ และยังมีการเขียนพุทธประวัติตามพระพุทธชัยมงคลคาถา หรือคาถาพาหุง ที่บรรยายถึงชัยชนะของพระพุทธเจ้าต่ออุปสรรคและมารทั้งหลาย ขณะที่ผนังระหว่างประตูหน้าต่างตกแต่งด้วยภาพทวารบาลที่มีความงดงาม เป็นการผสมผสานศิลปกรรมแบบดั้งเดิมเข้ากับคติความเชื่อทางศาสนาได้อย่างกลมกลืน
วัดสามเรือนจึงถือเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวบ้านสามเรือนและชุมชนใกล้เคียง ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่ทรงคุณค่า จิตรกรรมฝาผนังที่ยังคงปรากฏอยู่ทั้งในอุโบสถเก่าและใหม่ไม่เพียงสะท้อนความเชื่อทางพระพุทธศาสนา แต่ยังเป็นหลักฐานทางศิลปะพื้นบ้านที่ถ่ายทอดวิถีชีวิต ความศรัทธา และภูมิปัญญาของชุมชนได้อย่างชัดเจน วัดแห่งนี้จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมที่ผู้สนใจในประวัติศาสตร์และศิลปะไม่ควรพลาดในการมาเยือนพิษณุโลก




แสดงความเห็น
คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|