มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทย

Rating: 5/5 (1 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทย เป็นส่วนสำคัญที่สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ การสร้างสรรค์ และวิถีชีวิตของมนุษย์ที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น โดยไม่จำกัดเฉพาะสิ่งที่เป็นวัตถุ แต่รวมถึงความรู้ ทักษะ ประเพณี และความเชื่อที่มีความสำคัญต่อการสร้างอัตลักษณ์ของชุมชนและชาติ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทยมีความหลากหลายและลึกซึ้ง ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้เราเข้าใจในอดีต แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์และพัฒนาสังคมในปัจจุบันและอนาคต

ประเทศไทย มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายและลึกซึ้ง ซึ่งสะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีตและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ยุคก่อนประวัติศาสตร์: ในช่วงเวลานี้ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทยเริ่มต้นจากการสร้างภาพเขียนที่ผนังถ้ำ เช่น ภาพเขียนที่อุทยานประวัติศาสตร์บ้านเชียง ซึ่งแสดงถึงการทำงานศิลปะและวรรณกรรมพื้นฐาน
อาณาจักรโบราณ: ในช่วงอาณาจักรทวารวดีและสุโขทัย วัฒนธรรมและศิลปะการสร้างอาคารได้รับการพัฒนาอย่างก้าวหน้า อาทิเช่น วัดพระศรีรัตนศาสดารามในกรุงเทพฯ และพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม

ราชวงศ์จักรี: ภายใต้ราชวงศ์จักรี วัฒนธรรมไทยได้รับการพัฒนาในหลายด้าน เช่น การสร้างสถาปัตยกรรมและการสนับสนุนศิลปะการแสดง
การศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศเปิดเผยถึงวิถีชีวิตของบรรพบุรุษที่มีการพัฒนาทั้งด้านศิลปะและวรรณกรรม การค้าและความเชื่อทางศาสนา ในช่วงเวลาต่างๆ ของประวัติศาสตร์ ไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงและการสืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญ เพื่อรักษาและส่งต่อความรู้และค่านิยมที่ดีให้กับรุ่นต่อไป
ประเภทของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
1. มรดกวัตถุ (Tangible Heritage)
สถาปัตยกรรมและโบราณสถาน: ประเทศไทยมีสถาปัตยกรรมและโบราณสถานที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งสะท้อนถึงศิลปะและวิถีชีวิตของบรรพบุรุษ

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม: วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "วัดพระแก้ว" ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร เป็นวัดที่มีความสำคัญทางศาสนาและสถาปัตยกรรม มีการออกแบบที่ซับซ้อนและงดงาม มีพระมหามงกุฎที่เป็นที่เคารพของชาวไทย

เมืองโบราณสุโขทัย: เมืองโบราณสุโขทัยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรสุโขทัยในศตวรรษที่ 13 มีโบราณสถานที่สำคัญ เช่น วัดศรีชุม วัดมหาธาตุ และวัดพระแก้ว

ปราสาทหินพิมาย: ตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา เป็นหนึ่งในปราสาทหินที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยและสะท้อนถึงอิทธิพลของศิลปะขอมในสมัยโบราณ

พระบรมมหาราชวัง: พระบรมมหาราชวังตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ไทย เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและศิลปะของราชวงศ์จักรี
ศิลปะและหัตถกรรม: การทอผ้าไหมที่มีเอกลักษณ์, การทำเครื่องปั้นดินเผา, การทำเครื่องเงิน และงานหัตถกรรมอื่นๆ ที่แสดงถึงความชำนาญและความคิดสร้างสรรค์ของชาวไทย

การทอผ้าไหม: ผ้าไหมไทยมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพและลวดลายที่สวยงาม การทอผ้าไหมในจังหวัดต่างๆ เช่น จังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นตัวอย่างของศิลปะการทอผ้าที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต

เครื่องปั้นดินเผา: การทำเครื่องปั้นดินเผาในจังหวัดลำปางมีชื่อเสียง เนื่องจากการผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่มีความละเอียดและทนทาน เช่น เครื่องปั้นดินเผาเซรามิคและโถน้ำ

การทำเครื่องเงิน: การทำเครื่องเงินในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหัตถกรรมที่มีความละเอียดและทักษะที่สูง เช่น การทำเครื่องประดับเงินและของใช้ในบ้านที่ทำจากเงิน

การทำผ้าไหมแพรวา: ผ้าไหมแพรวาเป็นงานหัตถกรรมที่มีความซับซ้อนและวิจิตร ชาวบ้านในภาคอีสานของประเทศไทยมีการทอผ้าไหมแพรวาเพื่อใช้ในพิธีกรรมสำคัญ
2. มรดกที่มิใช่วัตถุ (Intangible Heritage)
ประเพณีและพิธีกรรม: การจัดงานประเพณีสงกรานต์, ประเพณีเข้ากรรม และพิธีกรรมอื่นๆ ที่มีความสำคัญต่อการรักษาความเชื่อและความเป็นมาของชุมชน

สงกรานต์: เป็นประเพณีที่มีการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ไทย ด้วยการรดน้ำและสาดน้ำ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการชำระล้างและการเริ่มต้นใหม่ งานสงกรานต์มีความสำคัญในหลายจังหวัดของไทย เช่น จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดสุโขทัย

ประเพณีเข้ากรรม: เป็นพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการชำระล้างจิตใจและกายของพระสงฆ์ โดยมีขั้นตอนและพิธีกรรมที่เข้มงวด เช่น การนั่งสมาธิ การเดินจงกรม และการสวดมนต์ภาวนา

ประเพณีจุดไฟตูมกาออกพรรษา: เป็นประเพณีที่จัดขึ้นในจังหวัดยโสธรเพื่อเป็นการสิ้นสุดฤดูฝนและเริ่มต้นฤดูหนาว โดยการจุดไฟตูมกา ซึ่งเป็นการแสดงความเชื่อและความศรัทธาของชาวบ้านในเรื่องการเก็บเกี่ยวและความอุดมสมบูรณ์
ศิลปะการแสดงและดนตรีพื้นบ้าน: การฟ้อนรำ เช่น ฟ้อนเทียน ฟ้อนผี และเพลงพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ฟ้อนเทียน: การฟ้อนเทียนเป็นการแสดงทางศิลปะที่ใช้เทียนเป็นเครื่องมือในการเต้นรำ และมีความสำคัญในงานประเพณีต่างๆ เช่น งานประเพณีลอยกระทง

ฟ้อนผี: การฟ้อนผีเป็นการแสดงศิลปะพื้นบ้านที่มีต้นกำเนิดในภาคเหนือของไทย โดยมีการเต้นรำในชุดเครื่องแต่งกายที่มีลักษณะพิเศษ และการแสดงนี้สะท้อนถึงความเชื่อทางจิตวิญญาณของชาวล้านนา

เพลงพื้นบ้าน: เพลงพื้นบ้านในภาคต่างๆ ของไทย เช่น เพลงลำตัดและเพลงลูกทุ่ง เป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมท้องถิ่น และสะท้อนถึงความรู้สึกและวิถีชีวิตของชาวบ้าน

ภาษาและภาษาถิ่น: ภาษาไท ภาษาเหนือ และภาษาถิ่นอื่นๆ ที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประเทศไทย
ภาษาเหนือ: ภาษาเหนือเป็นภาษาถิ่นที่ใช้ในภาคเหนือของไทย โดยมีความแตกต่างจากภาษาไทยกลางในด้านการออกเสียงและคำศัพท์
ภาษาไท: ภาษาไทเป็นภาษาที่ใช้ในภาคอีสาน โดยมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากภาษาไทยกลาง และเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารและการอนุรักษ์วัฒนธรรม
การฟื้นฟูการทอผ้าไหมในจังหวัดต่างๆ ของไทย ชุมชนท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญในการรักษาความรู้และประเพณี เช่น การจัดการฝึกอบรมการทอผ้าไหมและการสืบทอดศิลปะพื้นบ้าน ชุมชนในจังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดบุรีรัมย์ได้ฟื้นฟูและรักษาความรู้การทอผ้าไหมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสร้างศูนย์การเรียนรู้และส่งเสริมการตลาดสำหรับผ้าไหม
องค์กรภาครัฐ เช่น กระทรวงวัฒนธรรม ได้มีบทบาทในการกำหนดนโยบายและสนับสนุนการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม โดยการจัดตั้งโครงการและทุนสนับสนุนสำหรับการฟื้นฟูศิลปะการทอผ้าไหม
สถาปัตยกรรมและโบราณสถาน
การอนุรักษ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม: การอนุรักษ์วัดพระศรีรัตนศาสดารามมีความสำคัญในการรักษาสถาปัตยกรรมและศิลปะที่เกี่ยวข้องกับศาสนา
การบูรณะเมืองโบราณสุโขทัย: โครงการบูรณะเมืองโบราณสุโขทัยได้ดำเนินการเพื่อฟื้นฟูและรักษาโบราณสถานที่สำคัญ เช่น วัดศรีชุม และวัดมหาธาตุ
การอนุรักษ์ปราสาทหินพิมาย: การอนุรักษ์ปราสาทหินพิมายได้ดำเนินการเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของโบราณสถานและรักษาศิลปะขอมที่สำคัญ
ศิลปะและหัตถกรรม
การส่งเสริมการทอผ้าไหม: โครงการสนับสนุนการทอผ้าไหม เช่น การจัดงานแสดงสินค้าผ้าไหมและการสร้างตลาดออนไลน์สำหรับผ้าไหม
การอนุรักษ์การทำเครื่องปั้นดินเผา: การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้และการจัดงานแสดงสินค้าช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาเครื่องปั้นดินเผา
การอนุรักษ์การทำเครื่องเงิน: การส่งเสริมการทำเครื่องเงินโดยการสร้างความร่วมมือกับศิลปินและการตลาด
การรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเป็นเรื่องสำคัญในการรักษาเอกลักษณ์และค่านิยมของชาติ การอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมต้องได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและชุมชน เพื่อให้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทยยังคงมีความสำคัญและอยู่รอดต่อไป การร่วมมือกันระหว่างชุมชนท้องถิ่น องค์กรภาครัฐ และองค์กรเอกชนมีความสำคัญในการสร้างความเข้าใจและการส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมไทย
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทยในบัญชีมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ประเทศไทยมีความภูมิใจในการเป็นเจ้าของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายและลึกซึ้ง ซึ่งได้รับการยอมรับจากยูเนสโกในระดับสากล โดยเฉพาะในประเภทของมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage) ที่มีความสำคัญและสะท้อนถึงอัตลักษณ์ของชุมชนและชาติ ปัจจุบัน ประเทศไทยได้ขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในบัญชีของยูเนสโกแล้วทั้งสิ้น 4 รายการ ดังนี้:

1. โขน (Khon) - ขึ้นทะเบียนในปี 2561 (2018) โขนเป็นการแสดงศิลปะการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย ซึ่งผสมผสานการเต้นรำ, การแสดงละคร, และการสวมใส่หน้ากากที่มีความวิจิตร โขนมีความสำคัญในการถ่ายทอดเรื่องราวจากวรรณกรรมไทยคลาสสิก เช่น "รามเกียรติ์" ซึ่งเป็นการแสดงที่มีความละเอียดในการทำหน้ากากและเครื่องแต่งกาย รวมถึงการใช้เสียงเพลงและเครื่องดนตรีไทยในการบรรเลง โขนได้รับการยอมรับจากยูเนสโกในปี 2561 (2018) เนื่องจากมีคุณค่าทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และศิลปะการแสดงของไทย

2. นวดไทย (Thai Traditional Massage) - ขึ้นทะเบียนในปี 2562 (2019) นวดไทยเป็นศิลปะการรักษาที่มีรากฐานมาจากประเพณีการแพทย์โบราณของประเทศไทย โดยมีการใช้เทคนิคการนวดและการยืดเหยียดเพื่อบำบัดร่างกายและจิตใจ นวดไทยมีความโดดเด่นในการใช้มือและแขนในการบีบ, คลึง, และดัดให้กับร่างกาย การได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 2562 (2019) จากยูเนสโกเป็นการรับรองถึงความสำคัญของการนวดไทยในการรักษาสุขภาพและการส่งเสริมสุขภาพทางเลือกในระดับโลก

3. โนรา (Nora) - ขึ้นทะเบียนในปี 2564 (2021) โนราเป็นการแสดงศิลปะพื้นบ้านที่มีต้นกำเนิดในภาคใต้ของประเทศไทย โดยมีการผสมผสานระหว่างการเต้นรำ, การร้องเพลง, และการแสดงบทละครที่มีลักษณะเฉพาะ โนราเป็นศิลปะที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสะท้อนถึงความเชื่อและความคิดสร้างสรรค์ของชุมชนในภาคใต้ การได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 2564 (2021) เป็นการยอมรับถึงความสำคัญและความหลากหลายของการแสดงโนราในวัฒนธรรมไทย

4. สงกรานต์ (Songkran Festival) - ขึ้นทะเบียนในปี 2566 (2023) สงกรานต์เป็นประเพณีปีใหม่ไทยที่มีความสำคัญในการเฉลิมฉลองและการทำบุญ การรดน้ำและสาดน้ำในช่วงสงกรานต์เป็นการแสดงถึงการชำระล้างและการเริ่มต้นใหม่ในปีใหม่ ประเพณีนี้มีการจัดงานที่สนุกสนานและมีความเป็นเอกลักษณ์ในหลายจังหวัดของประเทศไทย การได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 2566 (2023) เป็นการรับรองถึงความสำคัญของสงกรานต์ในฐานะที่เป็นประเพณีที่เชื่อมโยงความรู้สึกของชุมชนและสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของชาติ
การที่ประเทศไทยมีมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกถือเป็นการรับรองถึงความสำคัญของวัฒนธรรมไทยในระดับสากล มรดกเหล่านี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความหลากหลายและความเป็นเอกลักษณ์ของไทย แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการรักษาและส่งเสริมวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต การได้รับการยอมรับจากยูเนสโกเป็นการสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจในความสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของประเทศไทยและส่งเสริมการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage














หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
บ้านโบราณ และเมืองโบราณ(
อาร์ตแกลเลอรี่(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา(
ห้องสมุด(
มหาวิทยาลัย
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด(
โบสถ์(
มัสยิด(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ตลาดน้ำ(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
แม่น้ำลำคลอง(
อ่าว และชายหาด(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(
แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(
สนามกีฬา(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
สวนสนุก(
สวนน้ำ(
โรงละคร(
โรงภาพยนตร์(
ช้อปปิ้ง
ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(
ห้างสรรพสินค้า(
สปาเพื่อสุขภาพ
สปาเพื่อสุขภาพ(
ร้านอาหาร
มิชลินสตาร์(
ที่พัก
โรงแรม(
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว(
ขนมไทยชาววัง, ขนมโบราณ, สูตรขนมไทย(