ขนมดอกจอก วิธีทำขนมไทยชาววัง สูตรขนมโบราณ

Rating: 2.2/5 (6 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
ขนมดอกจอก วิธีทำขนมไทยชาววัง สูตรขนมโบราณ ขนมดอกจอกนั้นเป็นขนมไทยที่มีมาแต่โบราณที่มีรสชาติ กรุบ ๆ กรอบ ๆ หอมหวาน รสชาติมันอร่อย แต่เด็กสมัยปัจจุบันมักจะไม่ค่อยรู้จักกันแล้ว เพราะนับวันจะหาคนทำขนมดอกจอกขายก็ยากเต็มที แต่ไม่ใช่ว่าปัจจุบันจะไม่มีคนทานขนมดอกจอก ยังมีคนทำ และคนชอบรับประทานอยู่เรื่อย ๆ
ขนมดอกจอก ขนมไทย นั้นเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่สังเกตธรรมชาติของพืชน้ำ และพวกจอก แหน โดยนำมาสร้างสรรค์เป็นรูปทรงขนมขึ้นมา หรืออีกนัยก็คือ ขนมดอกจอกเป็นขนมที่มีรูปทรงคล้ายดอกจอกที่มีเเหล่งกำเนิดอยู่ในน้ำ ในสมัยก่อนเป็นที่นิยมมาก เป็นหนึ่งในขนมที่จัดขึ้นในงาน เเละพิธีการสำคัญต่าง ๆ เช่น งานเเต่งงาน, งานบวช และงานขึ่นบ้านใหม่ เป็นต้น โดยความนิยมไม่เเพ้ขนมไทยอย่างทองหยิบ ทองหยอด หรือฝอยทองที่เป็นที่นิยมทั่งในอดีต และปัจจุบัน ซึ่งที่มาน่าจะมาจากขนมชาววัง
สูตรขนมดอกจอกนี้มีขั้นตอนการทำไม่ยาก รสชาติหวานกำลังดี หอมเนื้อแป้ง จากนั้นชุบแล้วร่อนออกจากพิมพ์ทองเหลืองง่าย ซึ่งก่อนที่เราจะทำขนมดอกจอกไปขายกันกัน โดยอุปกรณ์ในการทำขนมไทยชนิดนี้นั้น จะต้องอาศัยพิมพ์ขนมในการทำให้ขนมเป็นรูปร่างอย่างที่ต้องการ ซึ่งพิมพ์ขนมดอกจอก
ขนมไทย ขนมโบราณ ขนมหวานไทย นั้นมีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทย คือ จะมีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน โดยมีสีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีที่ประณีตบรรจง ขนมไทยดั้งเดิม ขนมโบราณ นั้นจะมีส่วนผสมคือ แป้ง, กะทิ และน้ำตาล เท่านั้น
โดยในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่า งานทำบุญ งานแต่ง เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร โดยส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาสวยงาม และมีความประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม
ส่วนผสม ขนมดอกจอก
- แป้งมัน 50 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 350 กรัม
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- งาดำคั่ว
- น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
- เกลือป่น (เล็กน้อย)
- น้ำปูนใส 1 ถ้วย
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- พิมพ์สำหรับทำขนมดอกจอก
วิธีทำขนมไทย ขนมดอกจอก (สูตรขนมไทย)
1. ขั้นตอนแรกต้องผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาลทราย และเกลือ ให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำปูนใสและหัวกะทิลงไป ตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ไข่ลงไป ตีผสมจนเข้ากันอีกครั้ง จากนั้นเติมงาดำลงไป พักแป้งไว้สักครู่
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ (กะพอให้สูงท่วมพิมพ์ขนมดอกจอก) เปิดไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อนนำพิมพ์ลงไปแช่ในน้ำมัน พอจนพิมพ์ร้อนจัด ให้ยกขึ้นมาวางลงบนกระดาษซับน้ำมัน
3. พอน้ำมันแห้งแล้วนำพิมพ์ลงไปจุ่มลงในส่วนผสมแป้ง โดยเว้นให้เหลือขอบเล็กน้อยจะได้ถอดพิมพ์ได้ง่าย จากนั้นยกพิมพ์ลงไปทอดในน้ำมัน ทอดจนแป้งเริ่มสุกและขนมเริ่มล่อนออกจากพิมพ์ ค่อย ๆ เขย่าพิมพ์ให้หลุดจากตัวแป้ง ทอดต่อจนสุกเหลืองกรอบทั้งสองด้าน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
4. ขึ้นตอนสุดท้ายนำขนมไปวางบนก้นแก้วหรือชามคว่ำ (ขนาดพอ ๆ กับชิ้นขนมแล้ว) แล้วค่อย ๆ ดัดกลีบขนมลง พักทิ้งไว้จนเย็น จัดเสิร์ฟ พร้อมรับประทาน
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage














หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
บ้านโบราณ และเมืองโบราณ(
อาร์ตแกลเลอรี่(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา(
ห้องสมุด(
มหาวิทยาลัย
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด(
โบสถ์(
มัสยิด(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ตลาดน้ำ(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
แม่น้ำลำคลอง(
อ่าว และชายหาด(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(
แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(
สนามกีฬา(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
สวนสนุก(
สวนน้ำ(
โรงละคร(
โรงภาพยนตร์(
ช้อปปิ้ง
ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(
ห้างสรรพสินค้า(
สปาเพื่อสุขภาพ
สปาเพื่อสุขภาพ(
ร้านอาหาร
มิชลินสตาร์(
ที่พัก
โรงแรม(
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว(
รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร(