เวียงท่ากาน เมืองโบราณ

Rating: 4.2/5 (10 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 06.00–18.00 น. (เขตโบราณสถานกลางแจ้ง)
เวียงท่ากาน เมืองโบราณยุคหริภุญชัยที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางทุ่งนาและชุมชนบ้านท่ากาน ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในแหล่งโบราณคดีสำคัญของภาคเหนือที่ยังคงบรรยากาศเงียบสงบ เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสทั้งร่องรอยอดีตของเมืองโบราณ และวิถีชีวิตของชุมชนชาวยองที่ช่วยกันอนุรักษ์แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมแห่งนี้อย่างแข็งแรง
จากหลักฐานทางโบราณคดีและตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ เชื่อกันว่าเวียงท่ากานเริ่มก่อตั้งขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 13 ในสมัยอาณาจักรหริภุญชัย โดยมีสถานะเป็นเมืองหน้าด่านหรือเมืองบริวารทางตอนเหนือของลำพูน ต่อมาเมื่อพญามังรายขยายอำนาจเข้ามาในลุ่มน้ำปิงและสถาปนาอาณาจักรล้านนา เวียงท่ากานก็ปรับบทบาทเป็นเมืองเสบียง เป็นแหล่งสะสมกำลังพลและอาหารให้กองทัพ เพราะพื้นที่รอบ ๆ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยที่นาและแหล่งน้ำ
ชื่อของเวียงท่ากานมักจะปรากฏในเอกสารพื้นเมืองในลักษณะ “เวียงพันนาทะการ” ซึ่งคำว่า “พันนา” ในภาษาไทยเหนือมีนัยถึง “ตำบล” หรือเขตพื้นที่กว้างใหญ่ นั่นสะท้อนให้เห็นว่าเวียงท่ากานน่าจะเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในยุคล้านนา โดยเฉพาะในสมัยพญามังรายและพระเจ้าติโลกนาถที่มีการกล่าวถึงการยกทัพผ่านเวียงพันนาทะการ และการนำต้นโพธิ์จากลังกาทวีปมาปลูกไว้ที่เมืองนี้ เป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนาและความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง
เวียงท่ากานตั้งอยู่ในที่ราบลุ่มใกล้แม่น้ำปิง มีผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้างประมาณ 500 เมตร ยาวราว 700 เมตร มีกำแพงเมืองและคูเมืองล้อมรอบ ในปัจจุบันกำแพงเมืองหลายส่วนแปรสภาพเป็นคันดิน บางตอนถูกปรับเป็นถนนและพื้นที่ใช้ประโยชน์ของชุมชน แต่ด้วยการอนุรักษ์อย่างต่อเนื่องทำให้เรายังสามารถมองเห็นแนวคูเมืองและคันดินเดิมได้ค่อนข้างชัด พื้นที่โบราณสถานกินอาณาบริเวณราว 60 ไร่ อยู่ท่ามกลางหมู่บ้าน ชุมชน วัด และสวนเกษตรของชาวบ้าน
ภายในเวียงท่ากานมีโบราณสถานสำคัญกระจายตัวอยู่หลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มเจดีย์กลางเมือง แถววัดท่ากาน วัดต้นกอก วัดอุโบสถ วัดต้นโพธิ์ วัดป่าเป้า วัดไผ่รวก และวัดกู่ไม้แดง ซึ่งแต่ละแห่งสะท้อนรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานอิทธิพลหริภุญชัยและล้านนาเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นฐานเจดีย์แบบแปดเหลี่ยมซ้อนชั้น องค์ระฆังทรงระฆังคว่ำ หรือโบราณสถานที่เหลือเพียงฐานอิฐให้จินตนาการถึงความใหญ่โตในอดีต นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมร่องรอยเหล่านี้ได้ตามทางเดินที่ชุมชนจัดไว้ พร้อมป้ายให้ข้อมูลประกอบ
ในแง่โบราณวัตถุ เวียงท่ากานถือเป็นขุมทรัพย์ของนักโบราณคดี จากการสำรวจและขุดค้นในช่วงราวทศวรรษ 2500–2520 พบทั้งพระพุทธรูปหินทราย พระพุทธรูปดินเผา พระพิมพ์จำนวนมาก ไหกระดูกเคลือบสีน้ำตาล ถ้วยชามเคลือบสีน้ำตาล เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน ตลอดจนวัตถุโลหะและเศษภาชนะต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ช่วยยืนยันว่าเวียงท่ากานเคยเป็นศูนย์กลางชุมชนที่มีการติดต่อค้าขายกับดินแดนอื่น และมีความรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนาไม่น้อยไปกว่าเมืองใหญ่รอบข้าง
เมื่ออำนาจทางการเมืองเปลี่ยนมือ เวียงท่ากานก็เปลี่ยนสถานะตามยุคสมัย หลังจากที่พม่ายกทัพเข้ายึดครองเมืองเชียงใหม่ในสมัยพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง เมืองในลุ่มน้ำปิงหลายแห่ง รวมทั้งเวียงท่ากาน ก็อยู่ภายใต้อำนาจของพม่าด้วย กระทั่งเชียงใหม่และหัวเมืองเหนือถูกทิ้งร้างไประยะหนึ่งในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 24 ร่องรอยของชุมชนเดิมที่เวียงท่ากานก็เงียบเหงาเหลือเพียงโบราณสถานกลางป่าและทุ่งนา
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2339 พระเจ้ากาวิละแห่งราชวงศ์ทิพย์จักรินได้ตีเมืองเชียงใหม่กลับคืนจากพม่า แล้วกวาดต้อนกลุ่มชนชาวไทยองหรือชาวยองจากเมืองยอง (ในเขตประเทศพม่า) เข้ามาตั้งถิ่นฐานในหลายพื้นที่ของเชียงใหม่ หนึ่งในนั้นคือบริเวณเวียงท่ากาน ชุมชนบ้านท่ากานจึงกลายเป็นแหล่งอยู่อาศัยของชาวยองที่สืบทอดวัฒนธรรม ภาษา และประเพณีดั้งเดิมของตนไว้ได้อย่างเหนียวแน่นมานานกว่า 200 ปี
ด้วยความรักท้องถิ่นและความตระหนักในคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม ชาวบ้านท่ากานได้รวมกลุ่มกันอนุรักษ์โบราณสถานภายในเวียงท่ากานอย่างจริงจัง มีทั้งการร่วมมือกับหน่วยงานรัฐอย่างกรมศิลปากรและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากานเพื่อเก็บรวบรวมโบราณวัตถุและเรื่องเล่าของชุมชน ตลอดจนการก่อตั้งกลุ่มมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่ช่วยนำชมและบรรยายประวัติศาสตร์ให้กับผู้สนใจ จนได้รับโล่พระราชทานในฐานะชุมชนผู้สนับสนุนการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมดีเด่น เมื่อปี พ.ศ. 2531
บรรยากาศการท่องเที่ยวในเวียงท่ากานจึงแตกต่างจากแหล่งท่องเที่ยวที่เน้นความคึกคัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินเล่นช้า ๆ ไปตามแนวคูเมือง คันดิน และกลุ่มเจดีย์ ท่ามกลางเงาไม้และทุ่งนา สามารถแวะชมพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากานที่จัดแสดงโบราณวัตถุและแบบจำลองผังเมืองโบราณ รวมถึงรับฟังคำอธิบายจากมัคคุเทศก์ชุมชนที่ถ่ายทอดข้อมูลด้วยภาษาง่าย ๆ แฝงอารมณ์ขันและความภูมิใจในบ้านเกิด
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาเยือนเวียงท่ากานมากที่สุดคือช่วงเช้าและบ่ายแก่ ๆ เพราะแดดไม่แรงเกินไป สามารถเดินชมโบราณสถานกลางแจ้งได้สบาย โดยเฉพาะในฤดูทำนา ภาพของกำแพงเมืองเก่าที่โผล่ขึ้นมาจากแนวต้นไผ่และคันดินท่ามกลางทุ่งสีเขียวช่วยทำให้บรรยากาศของเมืองโบราณแห่งนี้ดูมีชีวิตชีวา นักท่องเที่ยวที่รักการถ่ายภาพมักใช้เวียงท่ากานเป็นฉากสำหรับทั้งภาพวิวโบราณสถาน ภาพแฟชั่นเรียบง่าย และภาพแนวสารคดีเกี่ยวกับวิถีชนบทล้านนา
นอกจากมิติทางประวัติศาสตร์แล้ว เวียงท่ากานยังเป็นพื้นที่ที่ช่วยให้เราเข้าใจวิถีชุมชนในปัจจุบันได้ดีขึ้น ชาวบ้านส่วนใหญ่สืบเชื้อสายชาวยอง มีการรักษาวัฒนธรรมประเพณีอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการฟ้อนผี การทำบุญประเพณีประจำปี หรือการแต่งกายพื้นเมืองในงานสำคัญ นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสไปเยือนในช่วงจัดกิจกรรมพิเศษของชุมชนจะได้เห็นทั้งขบวนแห่ การทำอาหารพื้นบ้าน และการแสดงฟ้อนรำที่เชื่อมร้อยอดีตกับปัจจุบันเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน
การเดินทาง ไปยังเวียงท่ากานสามารถทำได้สะดวกจากตัวเมืองเชียงใหม่ โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 108 สายเชียงใหม่–ฮอด ผ่านอำเภอหางดงไปจนถึงอำเภอสันป่าตอง ระยะทางรวมราว 34 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่บริเวณบ้านทุ่งเสี้ยวเข้าทางบ้านท่ากาน แล้วขับต่อเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรก็จะถึงเขตเมืองโบราณ บริเวณรอบเวียงมีป้ายบอกทางตั้งแต่ถนนใหญ่ไปจนถึงลานจอดรถ นักท่องเที่ยวที่ไม่มีรถส่วนตัวสามารถนั่งรถสองแถวสายเชียงใหม่–สันป่าตองหรือรถประจำทางสายเชียงใหม่–ฮอด แล้วลงที่ตัวอำเภอสันป่าตอง จากนั้นเหมารถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าไปยังบ้านท่ากานได้ แต่หากต้องการเดินชมโบราณสถานหลายจุดให้ทั่วถึง การมีรถยนต์ส่วนตัวหรือรถเช่าจะสะดวกที่สุด
| ชื่อสถานที่ | เวียงท่ากาน เมืองโบราณ และพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน บ้านท่ากาน ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ |
| ที่ตั้ง | บ้านท่ากาน หมู่ 5 ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 34 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่–ฮอด) แล้วเลี้ยวเข้าทางบ้านทุ่งเสี้ยวสู่บ้านท่ากาน |
| ลักษณะเด่น | เมืองโบราณล้อมรอบด้วยกำแพงดินและคูเมืองผังสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดประมาณ 500 × 700 เมตร ภายในมีโบราณสถานหลายกลุ่ม ทั้งเจดีย์กลางเมือง วัดท่ากาน วัดต้นกอก วัดอุโบสถ วัดต้นโพธิ์ ฯลฯ บรรยากาศเงียบสงบท่ามกลางทุ่งนาและสวนเกษตร มีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นรวบรวมโบราณวัตถุและข้อมูลประวัติศาสตร์ พร้อมบริการนำชมโดยมัคคุเทศก์ชุมชน |
| ยุคสมัย / ความเป็นมา | เชื่อว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 13 ในสมัยอาณาจักรหริภุญชัย ต่อมาขึ้นตรงต่ออาณาจักรล้านนาในยุคพญามังราย ทำหน้าที่เป็นเมืองหน้าด่านและเมืองเสบียงสำคัญของเชียงใหม่ ภายหลังตกอยู่ใต้อำนาจพม่าและร้างไประยะหนึ่งในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 24 ก่อนที่พระเจ้ากาวิละจะกวาดต้อนชาวไทยองเข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณเวียงท่ากานเมื่อราว พ.ศ. 2339 จนเกิดเป็นชุมชนบ้านท่ากานในปัจจุบัน |
| หลักฐานสำคัญ / สิ่งที่น่าสังเกต | แนวคูเมืองและกำแพงดินที่ยังเห็นรูปร่างชัดเจน กลุ่มเจดีย์และฐานอาคารอิฐหลายแห่งกลางเวียง โบราณวัตถุที่ค้นพบ เช่น พระพุทธรูปหินทราย พระพิมพ์ดินเผา ไหกระดูกเคลือบ เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน รวมถึงข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน ซึ่งช่วยเล่าเรื่องราวการพัฒนาของเมืองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน |
| การเดินทาง | จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 สายเชียงใหม่–ฮอด มุ่งหน้าอำเภอสันป่าตอง ระยะทางประมาณ 34 กม. เมื่อผ่านตัวอำเภอสันป่าตองให้สังเกตทางแยกเข้าบ้านท่ากานบริเวณบ้านทุ่งเสี้ยว เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกราว 2 กม. จะพบแนวคูเมืองและทางเข้าเวียงท่ากาน มีลานจอดรถและป้ายแนะนำภายในพื้นที่ การเดินทางสะดวกที่สุดคือรถยนต์ส่วนตัวหรือรถเช่า หากใช้รถโดยสารให้ลงที่ตัวอำเภอสันป่าตองแล้วเหมารถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อเข้าไป |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง พร้อมระยะทาง (โดยประมาณ) | - วัดท่ากาน และกลุ่มโบราณสถานภายในเวียงท่ากาน ระยะทางไม่ถึง 1 กม. (เดินถึงได้) - วัดและชุมชนรอบบ้านท่ากาน–บ้านทุ่งเสี้ยว ระยะทางราว 1–3 กม. - คาเฟ่โรงบ่ม และเก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท (ชุมชนฟาร์มทุ่งเสี้ยว) ระยะทางประมาณ 2–3 กม. - ลานหลองข้าว Lan Long Khao Cafe & Resort ระยะทางประมาณ 2 กม. จากเวียงท่ากาน - แหล่งท่องเที่ยวโซนหางดง–แกรนด์แคนยอนเชียงใหม่ และชุมชนกาดฝรั่ง ระยะทางประมาณ 12–15 กม. ตามเส้นทางเชียงใหม่–ฮอด |
| ร้านอาหารแนะนำใกล้เคียง (ระยะทาง & เบอร์โทร) | - คาเฟ่โรงบ่ม เก๊าไม้ล้านนา สันป่าตอง คาเฟ่และร้านอาหารในบรรยากาศโรงบ่มใบยาสูบเก่า ระยะทางประมาณ 2–3 กม. โทร. 053-481201, 086-428-7481 - สวนอาหารปลาสาละวิน ร้านอาหารไทยและปลาแม่น้ำชื่อดังย่านท่าวังพร้าว ระยะทางประมาณ 2.5–3 กม. จากเวียงท่ากาน โทร. 085-107-8557, 086-919-3851 - Anda Peka คาเฟ่และร้านอาหารในตัวอำเภอสันป่าตอง ระยะทางประมาณ 2 กม. จากเวียงท่ากาน (แนะนำตรวจสอบเวลาเปิด–ปิดและเบอร์โทรล่าสุดก่อนเดินทาง) - Cafe Vintage1980 คาเฟ่สไตล์วินเทจริมถนนสันป่าตอง–ทุ่งเสี้ยว ระยะทางประมาณ 2–3 กม. โทร. 096-084-0462 - ร้านกาแฟและอาหารท้องถิ่นอื่น ๆ รอบตัวอำเภอสันป่าตอง สามารถเลือกตามรีวิวออนไลน์และความสะดวกของเวลาเดินทาง |
| ที่พักแนะนำใกล้เคียง (ระยะทาง & เบอร์โทร) | - เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท ที่พักสไตล์ล้านนาท่ามกลางอาคารโรงบ่มใบยาสูบเก่า ระยะทางประมาณ 2–3 กม. จากเวียงท่ากาน โทร. 053-266-550, 053-266-551, 053-266-552, 053-266-555 - ลานหลองข้าว Lan Long Khao Cafe & Resort รีสอร์ทบรรยากาศทุ่งนาและลานนวดข้าวเก่า ระยะทางประมาณ 1.5–2 กม. โทร. 093-571-5888 - Tai Resort (ไทรีสอร์ต) ที่พักสไตล์โมเดิร์นล้านนาในอำเภอสันป่าตอง ระยะทางราว 6–8 กม. จากเวียงท่ากาน โทร. 063-096-7000 - รีสอร์ทและโฮมสเตย์ขนาดเล็กอื่น ๆ รอบสันป่าตองและหางดง สามารถเลือกจากแพลตฟอร์มจองที่พักออนไลน์โดยค้นหาที่พักในรัศมี 10–15 กม. จากเวียงท่ากาน |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | ลานจอดรถบริเวณทางเข้าเวียงท่ากาน ทางเดินและลานชมโบราณสถานกลางแจ้ง ศาลาพักผ่อนบางจุด ป้ายข้อมูลโบราณสถาน พิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน (เปิดวันจันทร์–ศุกร์ ช่วงเวลาราชการ) ห้องน้ำบริการตามอาคารของหน่วยงานท้องถิ่นและวัดใกล้เคียง |
| ค่าธรรมเนียมเข้า | เขตโบราณสถานเวียงท่ากานและพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากานไม่เก็บค่าธรรมเนียมเข้าชม (อาจมีการรับบริจาคเพื่อสนับสนุนการดูแลโบราณสถานและกิจกรรมชุมชนตามความศรัทธา) |
| ติดต่อ | พิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน บ้านท่ากาน หมู่ 5 ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ 50120 โทร. 0-5348-1176, 0-9952-2650 องค์การบริหารส่วนตำบลเวียงท่ากาน 1 หมู่ 8 ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ 50120 โทร. 053-481-420-1, โทรสาร 053-481-052 |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: เวียงท่ากานตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณเท่าไร และควรเผื่อเวลาเดินทางกี่ชั่วโมง?
ตอบ: เวียงท่ากานตั้งอยู่ที่อำเภอสันป่าตอง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่–ฮอด) ประมาณ 34 กิโลเมตร โดยทั่วไปใช้เวลาเดินทางราว 40–50 นาที หากมีแผนแวะคาเฟ่หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นในย่านสันป่าตอง ควรเผื่อเวลาเดินทางไป–กลับอย่างน้อยครึ่งวัน
ถาม: เวียงท่ากานเปิดให้เข้าชมทุกวันหรือไม่ และมีเวลาปิด–เปิดชัดเจนหรือเปล่า?
ตอบ: เขตโบราณสถานกลางแจ้งของเวียงท่ากานเปิดให้เข้าชมทุกวันในช่วงเช้าไปจนถึงเย็น โดยทั่วไปแนะนำเวลา 06.00–18.00 น. ส่วนพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากานมักเปิดในวันจันทร์–ศุกร์ ช่วงเวลาราชการ หากต้องการเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หรือใช้บริการมัคคุเทศก์ชุมชน แนะนำให้ติดต่อสอบถามล่วงหน้ากับพิพิธภัณฑ์หรือองค์การบริหารส่วนตำบลเวียงท่ากาน
ถาม: ในเวียงท่ากานมีบริการไกด์นำเที่ยวหรือไม่ เหมาะกับการไปแบบครอบครัวหรือกลุ่มนักเรียนหรือเปล่า?
ตอบ: เวียงท่ากานมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและกลุ่มคนในชุมชนที่ช่วยนำชมโบราณสถาน และเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองโบราณและชุมชนชาวยอง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกรุ๊ปทัวร์เล็ก ๆ ครอบครัว หรือคณะนักเรียนที่ต้องการเรียนรู้เชิงลึก หากต้องการใช้บริการไกด์ แนะนำให้ประสานงานกับพิพิธภัณฑ์หรือ อบต. เวียงท่ากานล่วงหน้าเพื่อจัดเตรียมข้อมูลและเวลาให้พร้อม
ถาม: เวียงท่ากานเหมาะกับผู้สูงอายุหรือเด็กเล็กไหม ต้องเดินเยอะหรือเปล่า?
ตอบ: ภายในเวียงท่ากานส่วนใหญ่เป็นพื้นดินและทางเดินกลางแจ้ง มีโบราณสถานกระจายหลายจุด หากต้องการเดินชมครบทุกกลุ่มอาจใช้เวลาและระยะทางพอสมควร แต่ก็สามารถเลือกชมเฉพาะจุดสำคัญที่อยู่ใกล้ลานจอดรถ เช่น กลุ่มเจดีย์กลางเมืองและบริเวณพิพิธภัณฑ์ได้ สำหรับผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก แนะนำให้เตรียมหมวก รองเท้าเดินสบาย และน้ำดื่ม รวมทั้งพักเป็นระยะเพื่อไม่ให้เหนื่อยจนเกินไป
ถาม: หากไปเที่ยวเวียงท่ากาน ควรจัดโปรแกรมเที่ยวคู่กับที่ไหนใกล้ ๆ ได้บ้าง?
ตอบ: สามารถจัดโปรแกรมแบบครึ่งวันหรือหนึ่งวันที่ผสมผสานทั้งโบราณสถานและคาเฟ่–ที่พักสวย ๆ ได้ เช่น เที่ยวเวียงท่ากานและพิพิธภัณฑ์ในช่วงเช้า จากนั้นแวะจิบกาแฟและทานอาหารที่คาเฟ่โรงบ่ม เก๊าไม้ล้านนา หรือลานหลองข้าว Lan Long Khao Cafe & Resort แล้วต่อโปรแกรมไปยังแหล่งท่องเที่ยวโซนหางดงและกาดฝรั่ง หรือแกรนด์แคนยอนเชียงใหม่ในช่วงบ่าย จะได้ทั้งบรรยากาศเมืองโบราณ วิถีชุมชน และธรรมชาติในทริปเดียว
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|







หมวดหมู่:
กลุ่ม: