วัดบุพพาราม

Rating: 3.1/5 (7 votes)

วันเปิดทำการ: ทุกวัน

เวลาเปิดทำการ: 08.00–17.00 น.

 

วัดบุพพาราม หรือที่คนเชียงใหม่จำนวนไม่น้อยคุ้นชื่อว่า “วัดบุปผาราม” เป็นวัดคู่เมืองอีกแห่งที่ซ่อนเสน่ห์ไว้แบบไม่เสียงดัง ตั้งอยู่บนถนนท่าแพ ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ ทำเลนี้ดีตรงที่เดินทางง่าย อยู่ใกล้โซนท่องเที่ยวหลัก แต่พอเดินผ่านซุ้มประตูเข้าไป บรรยากาศจะเปลี่ยนเป็นความสงบแบบวัดในเมืองเก่าที่พาใจให้ช้าลงเอง วัดแห่งนี้ถูกเล่าต่อกันว่าเกี่ยวข้องกับพระเมืองแก้วผู้โปรดให้สร้างราว พ.ศ. 2039 และได้รับการบูรณะครั้งสำคัญใน พ.ศ. 2362 ก่อนจะมีการต่อเติมอาคารสำคัญหลายช่วงตามยุคสมัย ทำให้วัดบุพพารามมีทั้ง “กลิ่นล้านนา” และ “รอยพม่า” อยู่ร่วมกันอย่างน่ามอง

 

สิ่งที่ทำให้วัดบุพพารามโดดเด่น คือศิลปกรรมที่ผสมผสานหลายชั้นของเวลา ด้านหนึ่งคุณจะได้เห็นวิหารเครื่องไม้แบบล้านนาในสเกลที่กำลังพอดี ไม่ใหญ่จนหลงทาง แต่มีรายละเอียดให้หยุดดูได้เรื่อย ๆ โดยเฉพาะหน้าบันที่ตกแต่งด้วยปูนปั้นและกระจกแบบงานช่างท้องถิ่นที่เล่นแสงได้สวยเวลามีแดดอ่อน ๆ ขณะเดียวกัน วิหารอีกหลังหนึ่งมีหน้าบันลวดลายแกะสลักแบบพม่า ซึ่งเป็น “ลายเส้นคนละวัฒนธรรม” แต่กลับเข้ากับบรรยากาศเมืองเชียงใหม่ได้อย่างนุ่มนวล ยิ่งถ้ามาแบบตั้งใจดูงานไม้ คุณจะเห็นความละเอียดของการเข้าเดือย การวางสัดส่วน และจังหวะของลวดลายที่ทำให้ภาพรวมดูสง่างามโดยไม่ต้องพยายามข่มใคร

 

อีกจุดที่คนรักประวัติศาสตร์ชอบคือพระพุทธรูปสำคัญภายในวัด มีการกล่าวถึงพระพุทธรูปหล่อด้วยทองแดงที่มีน้ำหนัก “1 โกฏิ” และมีอายุหลายร้อยปี รวมถึงพระพุทธรูปเชียงแสนหล่อด้วยสำริดที่ประดิษฐานคู่กันทางซ้ายขวา ซึ่งสะท้อนรสนิยมทางพุทธศิลป์ของล้านนาและเส้นทางการอุปถัมภ์วัดในแต่ละยุคได้ดี นอกจากนี้ ภายใน “หอมณเฑียรธรรม” ยังมีพระพุทธรูปไม้สักขนาดใหญ่ (หน้าตักกว้างราว 1 วาเศษ) ที่เล่าต่อกันว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งช่วยเติมมิติให้วัดนี้ไม่ได้มีแค่ความงาม แต่มี “เรื่องเล่า” ที่ทำให้การเดินชมมีความหมายขึ้น

 

ถ้ามองวัดบุพพารามในฐานะที่เที่ยวเชียงใหม่ วัดนี้เหมาะกับคนที่อยากได้วัดสวยที่ไม่ต้องเบียดกับคนเยอะตลอดเวลา และยังเดินต่อไปย่านท่าแพ/คูเมือง/ตลาดดัง ๆ ได้สบาย จุดถ่ายภาพที่ออกมาดีมักเป็นมุมหน้าบันไม้ มุมกระจกประดับปูนปั้น และแนวอาคารที่มีโทนเก่าอบอุ่น แต่สิ่งสำคัญคือควรแต่งกายสุภาพ และรักษาความสงบ เพราะวัดยังเป็นพื้นที่ศรัทธาของชุมชนจริง ๆ ไม่ใช่แค่โลเคชันท่องเที่ยว

 

ถ้าคุณตั้งใจมาไหว้พระ “ให้ครบอารมณ์วัดเมือง” แนะนำให้เผื่อเวลาสัก 30–60 นาที เดินชมศิลปกรรมทีละจุด จะสนุกกว่าการรีบเดินผ่าน และถ้ามาเช้าหน่อยหรือช่วงบ่ายแก่ ๆ แสงจะสวยและอากาศไม่ร้อนจัด เหมาะกับการเดินดูรายละเอียดงานช่างมากกว่า

 

ประเพณีและกิจกรรมที่พบเป็นประจำ แม้วัดบุพพารามจะไม่ได้มีงานใหญ่ที่ดังเท่าวัดบางแห่งในเชียงใหม่ แต่โดยธรรมเนียมวัดในเขตเมืองมักมีการทำบุญวันสำคัญทางพุทธศาสนาเป็นประจำ เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ซึ่งมักมีกิจกรรมทำบุญตักบาตร ฟังธรรม และเวียนเทียนในช่วงค่ำ หากตั้งใจไปช่วงวันสำคัญ แนะนำเช็กประกาศของวัด/เพจของวัดก่อนเพื่อความชัวร์และวางแผนเวลาให้เหมาะ

 

การเดินทาง หากเริ่มจากประตูท่าแพ ให้ขับหรือเดินตามถนนท่าแพมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก (ออกจากคูเมือง) วัดบุพพารามจะอยู่บนแนวถนนท่าแพในระยะไม่ไกล สามารถสังเกตป้ายวัดและรั้ววัดริมถนนได้ กรณีเริ่มจากไนท์บาซาร์ ให้มุ่งหน้าไปทางถนนท่าแพ แล้วเลี้ยวเข้าถนนท่าแพตรงยาวตามแนวเดียวกันจนถึงวัด

 

ถ้าเดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถใช้รถแดง/แท็กซี่/แอปเรียกรถ แล้วแจ้งว่า “วัดบุพพาราม ถนนท่าแพ” คนขับส่วนใหญ่รู้พิกัด เพราะอยู่ในโซนท่องเที่ยวหลักของเมือง

 

 

ตอบ: วัดตั้งอยู่บนถนนท่าแพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เดินทางสะดวก ใกล้ย่านท่าแพและโซนท่องเที่ยวหลักของเมือง

 

ตอบ: เด่นเรื่องศิลปกรรมล้านนาผสมพม่า โดยเฉพาะงานหน้าบันไม้แกะสลักและงานปูนปั้นประดับกระจก รวมถึงอาคารเครื่องไม้ที่ให้บรรยากาศวัดเมืองเก่าแบบสงบ

 

ตอบ: จัดทริปต่อเนื่องได้กับประตูท่าแพ ไนท์บาซาร์ ตลาดวโรรส วัดเจดีย์หลวง และแหล่งเที่ยวในคูเมือง เพราะอยู่ไม่ไกลกัน

 

ตอบ: โดยทั่วไปวัดในเขตเมืองมักมีกิจกรรมทำบุญ ฟังธรรม และเวียนเทียนในวันสำคัญ เช่น มาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา แนะนำเช็กประกาศของวัดก่อนเพื่อความชัวร์

 

ตอบ: โทร 053-275-142