เวียงกุมกาม เมืองโบราณ

เวียงกุมกาม เมืองโบราณ

เวียงกุมกาม เมืองโบราณ
Rating: 3.5/5 (8 votes)
แผนที่ แผนที่ แผนที่ มีแผนที่ มีแผนที่ ไม่มีแผนที่ ไม่มีแผนที่

สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

วันเปิดทำการ: ทุกวัน 
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 
 
เวียงกุมกาม เมืองโบราณ เที่ยวเชียงใหม่ เที่ยวภาคเหนือ ประวัติเวียงกุมกามเป็นเมืองโบราณที่พญามังราย (พ่อขุนเม็งราย) ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1829 โดยให้ขุดคูเวียงทั้ง 4 ด้านเพื่อไขน้ำแม่ปิงให้ขังไว้ในคูเวียง โบราณสถานที่ปรากฎอยู่ในเวียงกุมกาม และใกล้เคียง จากการสำรวจพบว่ามีอยู่ 20 แห่ง ทั้งที่เป็นซากโบราณสถาน และเป็นวัดที่มีพระสงฆ์อยู่ แต่ละแห่งอยู่กระจัดกระจายกัน มีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 21-22 
 
เวียงกุมกาม นั้นล่มสลายลงเพราะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2101 – พ.ศ. 2317 ซึ่งตรงกับสมัยพม่าปกครองล้านนา โดยพม่าปกครองล้านนาเป็นเวลาสองร้อยกว่าปี แต่ไม่ปรากฏหลักฐานที่กล่าวถึงเวียงกุมกามทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่นั้นเป็นเรื่องร้ายแรงมาก โดยผลของการเกิดน้ำท่วมนี้ทำให้เวียงกุมกามถูกฝังจมลงอยู่ใต้ตะกอนดินจนยากที่จะฟื้นฟูกลับมา ซึ่งสภาพวัดต่าง ๆ และโบราณสถานที่สำคัญเหลือเพียงซากวิหารและเจดีย์ร้างที่จมอยู่ใต้ดินในระดับความลึกจากพื้นดินลงไปประมาณ 1.50 -2.00 เมตร โดยวัดที่จมดินลึกที่สุดคือวัดอีค่าง และรองลงมาคือ วัดปู่เปี้ย และวัดกู่ป่าด้อม
 
ในปี พ.ศ. 2527 โดยเรื่องราวของเวียงกุมกามก็เริ่มเป็นที่สนใจของนักวิชาการและประชาชนทั่วไป ทำให้หน่วยศิลปากรที่ 4 ขุดแต่งบูรณะวัดร้าง(ขุดแต่งวิหารกานโถม ณ วัดช้างค้ำ) และบริเวณโดยรอบเวียงกุมกามอย่างต่อเนื่องจนถึง พ.ศ. 2545 ซึ่งปัจจุบันเวียงกุมกามก็ได้รับการพัฒนาให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ แต่เพราะเห็นว่าเวียงกุมกามมีความสมบูรณ์และเป็นแหล่งความรู้การศึกษาในแบบของเรื่องราวทางสถาปัตยกรรม และศิลปกรรมตลอดจนวัฒนธรรมล้านาต่าง ๆ โดยศูนย์กลางของการนำเที่ยวชมโบราณสถานต่าง ๆ อยู่ในเขตเวียงกุมกามอยู่ที่วัดช้างค้ำ
 
เวียงกุมกาม
 
ปัจจุบันเวียงกุมกาม นั้นอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเชียงใหม่ ประมาณกิโลเมตรที่ 3-4 ถนนเชียงใหม่-ลำพูน ตั้งอยุ่ในเขตตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี และอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำปิงด้านทิศตะวันออก การเดินทาง นั้นเข้าทางตู้ยามหนองหอยและตรงมาจนทะลุแยกเกาะกลางป่ากล้วยตรงต่อไปจนถึงตู้ยามเจดีย์เหลี่ยม
 
เวียงกุมกาม นั้นเป็นพื้นที่ในพื้นที่วัฒนธรรมหริภุญชัย โดยหลังจากพญามังรายขึ้นครองเมือง และยึดเมืองได้ ซึ่งยกระดับจากหมู่บ้าน เป็นเมืองขนาดใหญ่ โดยจะสะท้อนผ่านข้อมูลการขุดทางโบราณคดี และโบราณวัตถุ ที่ขุดค้นพบ
 
เวียงกุมกาม ปัจจุบันนั้นได้พัฒนาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางมรดกวัฒนธรรม มีคุณค่าความจริงแท้ที่ใกล้เมือง อยู่เป็นกลุ่มชัดเจน โดยทุกวันนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่บริหารจัดการจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลายภาคส่วน เช่น การบริหารท่องเที่ยว มีรถม้า รถราง ดูแลโดย อำเภอสารภี ส่วนบริการท่องเที่ยวชาวบ้านรวมตัวกันนำชมเวียงกุมกาม
 
หลังจากที่หน่วยกรมศิลปากรที่ 4 จังหวัดเชียงใหม่ได้ไปทำการขุดค้นหาซากเมือง และโบราณสถานเพิ่มเติม โดยได้ค้นพบเจอวัดต่าง ๆ ที่จมอยู่ใต้พื้นดินเป็นจำนวนหลายวัดอีกดังต่อไปนี้
 
วัดช้างค้ำ
 
1. วัดกานโถม (ช้างค้ำ) โดยพญามังรายเป็นผู้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1833 ประกอบด้วยฐานเจดีย์ฐานกว้าง 12 เมตร สูง 18 เมตร มีซุ้มคูหาสี่ทิศ ซึ่งมีการใช้พระพุทธรูปซ้อนเป็น 2 ชั้น (ชั้นล่าง-มีพระพุทธรูปนั่ง 4 องค์ ชั้นบน-มีพระพุทธรูปยืน 2 องค์) โดยวิหาร และเจดีย์ทรงมณฑปบนฐานลานประทักษิณเตี้ย บริเวณฐานวิหารพบพระพิมพ์ดินเผาแบบหริภุญไชยฝังไว้โดยรอบ นอกจากนี้นั้นยังมีเจดีย์อีก 1 องค์ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงมณฑปยอดระฆัง ในบริเวณวัดกานโถมยังมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ได้อัญเชิญเมล็ดจากเมืองลังกามาไว้ด้วย
 
วัดปู่เปี้ย
 
2. วัดปู่เปี้ย ถือเป็นวัดที่มีความงดงามแห่งหนึ่งในเวียงกุมกาม รูปแบบผังการสร้างวัด และรูปแบบเจดีย์ประธานมณฑปมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ โบราณสถานประกอบด้วยวิหารสร้างยกพื้นสูง เจดีย์, อุโบสถ, ศาลผีเสื้อ และแท่นบูชา พร้อมทั้งมีลวดลายปูนปั้นประดับเจดีย์ที่สวยงามมาก
 
วัดเจดีย์เหลี่ยม
 
3. วัดเจดีย์เหลี่ยม (วัดกู่คำ) แต่เดิมวัดนี้ชื่อวัดกู่คำ โดยคำว่า กู่ หมายถึง พระเจดีย์ คำ หมายถึง ทองคำ พญามังรายนั้นได้โปรดให้ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1831 ซึ่งเป็นโบราณวัตถุที่สำคัญของวัดคือ โดยที่องค์พระเจดีย์ประธานรูปทรงมณฑปปลด 5 ชั้น วัดนี้นั้นมีความโดดเด่นคือ เป็นวัดที่กษัตริย์สร้าง และมีรูปแบบเจดีย์ที่แสดงถึงอิทธิพลรูปแบบของรัฐหริภุญไชย โดยพญามังรายโปรดให้เอามาก่อสร้างไว้ในเวียงกุมกามระยะแรก ๆ
 
วัดอีก้าง
 
4. วัดอีก้าง (วัดอีค่าง) โดยส่วนใหญ่จะเรียกว่าวัดอีค่างหรืออีก้างนั้นเพราะเดิมบริเวณนั้นวัดเป็นป่ารกร้าง และมีฝูงลิงฝูงค่างใช้ซากวัดแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งค่างในภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “อีก้าง” โบราณสถานประกอบด้วยวิหาร และเจดีย์ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน โดยวิหารมีขนาดใหญ่ 20 × 13.50 เมตร โดยเจดีย์เป็นแบบองค์ระฆังทรงกลม
 
วัดพระธาตุขาว
 
5. วัดพระธาตุขาว (วัดธาตุขาว) ที่เรียกกันว่าวัดธาตุขาวแต่เนื่องมาจากเดิมนั้นตัวเจดีย์ยังคงปรากฏผิวฉาบปูนสีขาวนั่นเอง โดยโบราณสถานประกอบด้วยวิหาร เจดีย์, อุโบสถ และมณฑป โดยมีการก่อสร้างขึ้นมา 2 ระยะคือ ระยะแรกก่อสร้างเพียงเจดีย์, วิหาร และอุโบสถ แต่ต่อมาเกิดการชำรุดจึงต่อเติมฐานเจดีย์ให้ใหญ่ขึ้น โดยระยะที่สองมีการก่อสร้างมณฑปสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป
 
วัดพญามังราย
 
6. วัดพญามังราย นั้นตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับวัดพระเจ้าองค์ดำทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ โดยชื่อวัดพญามังรายนั้นเป็นชื่อเรียกที่ตั้งขึ้นมาใหม่โดยกรมศิลปากร แต่เนื่องจากไม่ปรากฏหลักฐานกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของวัดนี้ โดยเมื่อพิจารณาจากการที่เห็นว่าตั้งอยู่ใกล้วัดพระเจ้าองค์ดำมากที่สุดจนดูเหมือนเป็นวัดเดียวกัน ซึ่งเอกลักษณ์ของวัดนี้อยู่ที่การสร้างพระวิหารที่ไม่มีทางขึ้นลงหลักไว้ที่ด้านหน้า แต่สร้างไว้ที่ด้านซ้าย (กรณีที่หันหน้าไปทางหน้าวัด) โยในส่วนพระเจดีย์พบร่องรอยการตกแต่งปูนปั้นลายช่องกระจกสอดไส้
 
วัดหัวหนอง
 
7. วัดหัวหนอง นั้นตั้งอยู่ภายในเวียงกุมกามใกล้กับกำแพงเมืองทางด้านเหนือ ซึ่งภายในนั้นจะประกอบด้วยซุ้มโขงประตูใหญ่, อุโบสถ, มณฑป, วิหาร และเจดีย์ โดยมีลวดลายปูนปั้นประดับซุ้มประตูวัดเป็นรูปกิเลน, สิงห์ และหงส์ที่มีความงดงาม
 
วัดกุมกาม
 
8. วัดกุมกาม นั้นตั้งอยู่ภายในเวียงกุมกามด้านทิศเหนือของวัดกานโถม โดยสิ่งก่อสร้างภายในวัดประกอบด้วยวิหารพร้อมห้องมูลคันธกุฏี และเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม
 
วัดน้อย
 
9. วัดน้อย (วัดธาตุน้อย) นั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของวัดกานโถม ก่อนการขุดแต่งเป็นเนินดินสองแห่ง มีชาวบ้านเข้ามาปลูกบ้านอาศัยบนโบราณสถานแห่งนี้ และยังพบร่องรอยกสารขุดหาทรัพย์สินด้วย โดยโบราณสถานประกอบด้วยวิหารและเจดีย์ วิหารตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งมีบันไดทางขึ้นด้านหน้าและด้านข้าง 1 แห่ง พื้นวิหารปูอิฐ ด้านหลังวิหารเป็นซุ้มประดิษฐานพระประธานปูนปั้น เจดีย์มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 13.35 × 13.35 เมตร สูง 1.64 เมตร และต่อขึ้นไปเป็นองค์เจดีย์ เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 6.20 × 6.20 เมตร ลักษณะเจดีย์นั้นมีฐานใหญ่แต่องค์เจดีย์เล็ก
 
วัดไม้ซ้ง
 
10. วัดไม้ซ้ง นั้นตั้งอยู่มุมตะวันออกเฉียงใต้ภายในเวียงกุมกาม บริเวณรอบวัดเป็นทุ่งนา โดยสถาพก่อนการขุดแต่งเป็นเนินดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีต้นไม้ใหญ่ที่ชาวบ้านเรียกว่าไม้ซ้งอยู่ (เป็นที่มาของชื่อวัด) แต่เดิมโบราณสถาน ประกอบด้วยวิหารเจดีย์แปดเหลี่ยม และฐานซุ้มประตูโขงพร้อมกำแพง
 
วัดกู่ขาว
 
11. วัดกู่ขาว นั้นตั้งอยู่ริมถนนเชียงใหม่-ลำพูน ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยสภาพรอบ ๆ วัดก่อนการขุดนั้นพบเจดีย์มีความสูงประมาณ 5 เมตร และรอบ ๆ ซึ่งองค์เจดีย์เป็นเนินดิน โดยหลังจากขุดลอกดินที่ทับถมอยู่ได้พบโบราณสถาน 3 แห่งคือ กำแพงแก้วและซุ้มประตูอยู่หลังเจดีย์, เจดีย์ประธานเป็นศิลปะล้านนา โดยเรือนธาตุมีลักษณะสูงก่อทึบตันทั้ง 4 ด้าน (ไม่ทำซุ้มพระ) ส่วนยอดเจดีย์เป็นฐานบัวแปดเหลี่ยมรองรับองค์ระฆัง และวิหารที่มีมุมฐานบัวลูกแก้ว ฐานชุกชีเดิม และลายกลีบบัว
 
วัดกู่ป่าด้อม
 
12. วัดกู่ป่าด้อม นั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้นอกเวียงกุมกาม ชื่อของวัดนี้ได้ตั้งชื่อตามเจ้าของที่ดิน โดยโบราณสถานของวัดมีขนาดใหญ่ประกอบด้วย วิหารฐานใหญ่ มีบันไดทางขึ้นวิหาร และมีราวบันไดด้านปลายเป็นรูปตัวเหงา ส่วนเจดีย์เหลือเพียงฐานเท่านั้น ซึ่งจะมีกำแพงแก้วก่อล้อมรอบโบราณสถาน กำแพงแก้วด้านหน้าทางเข้าวิหารมีซุ้มโขง วัดแห่งนี้มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 21-22
 
วัดโบสถ์
 
13. วัดโบสถ์ นั้นตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกนอกเวียงกุมกาม โดยโบราณสถานประกอบด้วยวิหารซึ่งเหลือเพียงฐาน และเจดีย์มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
 
วัดกู่อ้ายหลาน
 
14. วัดกู่อ้ายหลาน นั้นเป็นวัดขนาดเล็กตั้งอยู่ทางด้านเหนือของเวียงกุมกาม ได้ชื่อวัดเรียกตามเจ้าของที่ที่ชื่ออ้ายหลาน โดยโบราณสถานประกอบด้วยวิหารที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เจดีย์ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส, แท่นบูชา กำแพงแก้ว และซุ้มประตูทางเข้าด้านทิศตะวันออก
 
วัดกู่อ้ายสี
 
15. วัดกู่อ้ายสี นั้นเป็นวัดขนาดเล็ก โดยโบราณสถานนั้นจะประกอบด้วย วิหาร และเจดีย์ ซึ่งเหลือเพียงฐาน และแท่นบูชา
 
วัดกู่มะเกลือ
 
16. วัดกู่มะเกลือ นั้นตั้งอยู่ภายในเวียงกุมกามด้านทิศตะวันออก โดยเรียกชื่อวัดตามชื่อต้นไม้ที่ขึ้นบนโบราณสถาน หลังจากทำการขุดลอกดินออกแล้ว จากนั้นพบเจดีย์ และวิหารตั้งอยู่บนฐานเดียวกันและหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
 
วัดกู่ลิดไม้
 
17. วัดกู่ลิดไม้ นั้นตั้งอยู่ภายในเวียงกุมกามด้านใต้ โดยวัดนี้เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรีกกันเนื่องจากมีต้นเพกา (ต้นลิดไม้) ขึ้นอยู่บนเนินวัด ซึ่งเป็นโบราณสถานประกอบด้วยวิหารหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เจดีย์ด้านหลังวิหารเหลือเพียงฐาน และเจดีย์รูปแปดเหลี่ยม มีซุ้มประตูโขง และกำแพงแก้ว
 
วัดกู่จ๊อกป๊อก
 
18. วัดกู่จ๊อกป๊อก นั้นตั้งอยู่นอกกำแพงเวียงกุมกามทางทิศตะวันออกฉียงใต้ โดยโบราณสถานประกอบด้วยวิหารและเจดีย์ ซึ่งเหลือเพียงฐาน
 
วัดหนานช้าง
 
19. วัดหนานช้าง ตั้งตามชื่อเจ้าของที่ดิน ด้านหน้าของวัดอยู่ใกล้แม่น้ำปิง จะมีซุ้มโขงมีลายปูนปั้นประดับเล็กน้อย ถัดจากซุ้มโขงลงไปมีทางเดิน และมีวิหาร โดยที่ฐานพระประธานมีลายปูนปั้น ด้านหลังวิหารมีเจดีย์ฐานทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อนกันสองชั้น โดยเรือนธาตุได้พังเสียหายไปแล้ว เยื้องกับเจดีย์เป็นมณฑป ถัดไปเป็นอุโบสถ
 
วัดเสาหิน
 
20. วัดเสาหิน นั้นตั้งอยู่เขตท้องที่ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ แต่ในปัจจุบันยังไม่พบหลักฐานที่บันทึกทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงเรื่องราวของวัดนี้ในอดีต
 
วัดหนองผึ้ง
 
21. วัดหนองผึ้ง นั้นจะตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกถนนเชียงใหม่-ลำพูน ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ แต่เดิมนั้นเป็นวัดในสมัยเวียงกุมกาม-เชียงใหม่ หรือบางทีอาจจะมีสภาพเป็นโดยวัดดั้งเดิมอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่สมัยหริภุญไชย มีการค้นพบหลักฐานทางโบราณวัตถุประเภทพิมพ์แบบลำพูน โดยสิ่งก่อสร้างที่สำคัญของวัดนี้คือ วิหารพระนอน นั้นเป็นองค์พระนอนหรือพระพุทธไสยาสน์ขนาดยาว 38 ศอก (39 เมตร)
 
วัดศรีบุญเรือง
 
22. วัดศรีบุญเรือง นั้นตั้งอยู่เขตตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดที่ได้รับการฟื้นฟูบูรณะขึ้นมาใหม่ในสมัยหลัง ปัจจุบันวัดนี้มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่
 
วัดข่อยสามต้น
 
23. วัดข่อยสามต้น นั้นอยู่ในบริเวณด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเขตเวียงกุมกาม แต่ชื่อวัดนั้นตั้งตามจุดสังเกตที่เป็นต้นข่อยจำนวน 3 ต้น ที่ขึ้นเจริญเติบโตในพื้นที่บริเวณวัด โดยจะไม่ปรากฏความเป็นมาในเอกสารและตัวแทนทางประวัติศาสตร์
 
วัดพันเลา
 
24. วัดพันเลา อยู่ในท้องที่ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เดิมเป็นวัดร้างขื่อดั้งเดิมที่ชุมชนเรียกสืบทอดต่อกันมา คาดว่ามาจากชื่อวัดที่มีคำนำหน้าว่า “พัน” นำหน้านั้น น่าจะหมายถึง ยศทางทหาร หรือขุนนาง โดยที่เดิมวัดนี้อาจเป็นวัดอุปถัมภ์ของนายทหารหรือขุนนางชื่อ “เลา” แต่เดิมตั้งอยู่ริมถนนท่าวังตาลซึ่งอยู่นอกเวียงกุมกามทางด้านทิศเหนือ ซึ่งสภาพโบราณสถานมีการก่ออิฐกระจายหลายแห่ง พบชิ้นส่วนของพระพุทธรูป และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นอะไร และยังคงคาดว่ามีอีกหลายวัดที่จมอยู่ใต้พื้นดิน และบ้านเรือนของชาวบ้านที่กำลังรอการบูรณะขึ้นมา
 
วัดพระเจ้าองค์ดำ
 
25. วัดพระเจ้าองค์ดำ นั้นตั้งอยู่ภายในเวียงกุมกาม โดยอยู่ใกล้กับกำแพงเมืองทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แต่ก่อนมีการขุดแต่งนั้นเป็นสวนลำไย มีพื้นที่เป็นเนินดิน 2 แห่ง ชาวบ้านเรียกว่า เนินพญามังราย และเนินพระเจ้าดำ และสันนิษฐานว่าที่เรียกวัดพระเจ้าองค์ดำนี้ เพราะวัดแห่งนี้เคยมีพระพุทธรูปสีดำประดิษฐานอยู่ โดยโบราณสถานที่พบส่วนใหญ่เป็นวิหารหลายหลัง มีซุ้มประตูโขงและแนวกำแพง ถัดจากซุ้มโขงเข้ามามีวิหารและเจดีย์
 
ชื่อสถานที่ เวียงกุมกาม เมืองโบราณ และกลุ่มโบราณสถานเวียงกุมกาม อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
ที่ตั้ง ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 3–4 กิโลเมตร ใกล้ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง และเชื่อมกับถนนสายเชียงใหม่–ลำพูน (ทางหลวงหมายเลข 106)
ลักษณะเด่น เมืองโบราณล้อมรอบด้วยคูเมืองและกำแพงดินเดิม มีผังเมืองรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดประมาณ 500 × 700 เมตร ภายในกระจายตัวไปด้วยกลุ่มโบราณสถานกว่า 20 แห่ง ทั้งวัดเก่า เจดีย์ และแนวกำแพงเมือง หลายแห่งถูกตะกอนดินทับถมลึกราว 1.5–2 เมตรก่อนการขุดแต่ง ปัจจุบันจัดเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องสถาปัตยกรรม–ศิลปกรรมหริภุญไชยและล้านนา มีบริการรถราง รถม้า รถสองแถว และมัคคุเทศก์ท้องถิ่นพาชมรอบเวียง
ยุคสมัย / ความเป็นมา เวียงกุมกามสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวปลายสมัยหริภุญไชย–ต้นล้านนา โดยพญามังรายโปรดให้สร้างเมืองขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 1829 หลังพิชิตแคว้นหริภุญไชย และใช้เป็นราชธานีก่อนสร้างเมืองเชียงใหม่ ต่อมาถูกน้ำท่วมครั้งใหญ่และถูกทิ้งร้างในช่วงล้านนาถูกพม่าปกครอง (ราว พ.ศ. 2101–2317) เมืองจมอยู่ใต้ตะกอนดินนานหลายร้อยปี จนกรมศิลปากรเริ่มขุดแต่งและบูรณะตั้งแต่ พ.ศ. 2527 เป็นต้นมา และขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2543 ปัจจุบันพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวมรดกวัฒนธรรมสำคัญของเชียงใหม่
ที่มาของชื่อ “เวียงกุมกาม” คำว่า “เวียง” ในภาคเหนือหมายถึงเมืองมีกำแพงและคูเมือง ส่วนคำว่า “กุมกาม” เชื่อมาจากคำเขียน “คุมคาม” โดย “คุม” หมายถึงการป้องกันรักษา และ “คาม” หมายถึงบ้านเมือง รวมความว่า “เมืองที่มีการคุ้มครองป้องกัน” อีกสันนิษฐานหนึ่งเชื่อมโยงกับคำว่า “คุมคาม” หรือ “คุมคุม” ในความหมายเมืองหลวง/เขตพระราชฐานที่ล้อมรอบด้วยคูน้ำและกำแพงดินอย่างมั่นคง
หลักฐานสำคัญ / สิ่งที่น่าสังเกต แนวคูเมืองและคันดินโบราณที่ยังพอมองเห็นโครงร่างเมือง, กลุ่มโบราณสถานสำคัญ เช่น วัดช้างค้ำ (วัดกานโถม), วัดเจดีย์เหลี่ยม (วัดกู่คำ), วัดปู่เปี้ย, วัดอีก้าง, วัดนานช้าง, วัดธาตุขาว, วัดกู่ขาว และวัดพระเจ้าองค์ดำ ฯลฯ รวมทั้งโบราณวัตถุอย่างพระพุทธรูปหินทราย–ดินเผา พระพิมพ์แบบหริภุญไชย ไหเคลือบสีน้ำตาลบรรจุกระดูก เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน และหลักฐานตะกอนน้ำท่วมที่ทับถมโบราณสถานลึกเกือบ 2 เมตรในบางจุด
การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ถนนสายเชียงใหม่–ลำพูน (ทางหลวง 106) ผ่านย่านหนองหอย มุ่งหน้าไปทางอำเภอสารภี ระยะทางจากคูเมืองเชียงใหม่ประมาณ 8–10 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวเข้าทางตำบลท่าวังตาล ตามป้าย “เวียงกุมกาม” และ “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเวียงกุมกาม” อีกประมาณ 1–2 กิโลเมตร จะถึงลานจอดรถและจุดซื้อตั๋วรถราง มีบริการทั้งรถสองแถวท้องถิ่น รถเช่าเหมาคัน และรถม้า–รถรางนำเที่ยวภายในเวียง เหมาะที่สุดหากมีรถส่วนตัวหรือเช่ารถจากตัวเมือง
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง พร้อมระยะทาง (โดยประมาณ) - กลุ่มโบราณสถานวัดช้างค้ำ, วัดเจดีย์เหลี่ยม, วัดปู่เปี้ย, วัดอีก้าง, วัดนานช้าง, วัดธาตุขาว และวัดพระเจ้าองค์ดำ ภายในเขตเวียงกุมกาม ระยะทาง 0.2–2 กม. ตามเส้นทางรถราง/รถม้า
- วัดกู่ขาว (นอกคูเมืองเวียงกุมกาม ใกล้ถนนเชียงใหม่–ลำพูน) ระยะทางประมาณ 2–3 กม.
- ย่านหนองหอย–ตลาดหนองหอย แหล่งร้านอาหารและตลาดท้องถิ่น ระยะทางประมาณ 3–4 กม.
- เขตคูเมืองเชียงใหม่และวัดสำคัญในเมืองเก่า (วัดพระสิงห์ วัดเจดีย์หลวง ฯลฯ) ระยะทางประมาณ 6–8 กม. จากเวียงกุมกาม
- เชียงใหม่ไนท์บาซาร์และย่านช้างคลาน ระยะทางประมาณ 5–6 กม. เหมาะสำหรับต่อทริปกิน–ช้อปในตัวเมือง
ร้านอาหารแนะนำใกล้เคียง (ระยะทาง & เบอร์โทร) - เฮือนใจ๋ยอง (Huen Jai Yong) ร้านอาหารเหนือชื่อดัง อำเภอสันกำแพง ห่างจากเวียงกุมกามประมาณ 12–15 กม. โทร. 086-671-8710
- Paak Dang Riverside Dining ร้านอาหารริมแม่น้ำปิงใกล้สะพานนวรัฐ–ช้างคลาน ห่างจากเวียงกุมกามประมาณ 5–7 กม. โทร. 094-994-9353
- Parc Thai Eatery ร้านอาหารไทยในโรงแรม Parkborom City Resort แถวถนนมหิดล–สี่แยกสนามบิน ห่างจากเวียงกุมกามประมาณ 5–6 กม. โทร. 062-309-8222
- Freshtime Chiang Mai ร้านอาหารและคาเฟ่ย่านช้างคลาน–ไนท์บาซาร์ ห่างจากเวียงกุมกามประมาณ 5–6 กม. โทร. 096-246-6266
- ร้านอาหารท้องถิ่น และร้านข้าวแกง–ก๋วยเตี๋ยวตลอดแนวถนนเชียงใหม่–ลำพูน และย่านหนองหอย–ท่าวังตาล สามารถเลือกตามช่วงเวลาและรีวิวล่าสุด
ที่พักแนะนำใกล้เคียง (ระยะทาง & เบอร์โทร) - Wiang Kum Kam Resort ที่พักบรรยากาศสวนเงียบสงบใกล้โบราณสถาน ระยะทางประมาณ 0.5–1 กม. จากกลุ่มวัดหลักในเวียงกุมกาม โทร. 097-949-4227
- Maraya Hotel & Resort โรงแรมริมแม่น้ำปิง วิวเมืองเก่าและดอยสุเทพ ห่างจากเวียงกุมกามประมาณ 3–4 กม. โทร. 053-812-121
- De Wiang Kum Kam บูทีคโฮเทลขนาดเล็กในย่านเวียงกุมกาม ระยะห่างจากโบราณสถานเพียงไม่กี่ร้อยเมตร (แนะนำตรวจสอบเบอร์โทรและสถานะล่าสุดจากแพลตฟอร์มจองที่พักก่อนเดินทาง)
- เกสต์เฮาส์–รีสอร์ตขนาดเล็กย่านหนองหอย, ถนนเชียงใหม่–ลำพูน และโซนใกล้สนามบินเชียงใหม่ ซึ่งเดินทางต่อมายังเวียงกุมกามได้ภายใน 10–20 นาที
สิ่งอำนวยความสะดวก ลานจอดรถบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเวียงกุมกาม, จุดจำหน่ายบัตรรถราง/รถม้า, มัคคุเทศก์ท้องถิ่นให้ข้อมูล, ห้องน้ำสาธารณะ, ร้านค้าชุมชนจำหน่ายเครื่องดื่ม–ของที่ระลึก และเส้นทางเดิน–เส้นทางปั่นจักรยานรอบโบราณสถานบางช่วง (ควรสอบถามสภาพบริการล่าสุดก่อนเดินทาง)
ค่าธรรมเนียมเข้า ไม่มีค่าธรรมเนียมเข้าเขตโบราณสถานเวียงกุมกามโดยรอบ แต่มีค่าใช้บริการรถราง รถม้า หรือแพ็กเกจทัวร์ชมโบราณสถาน (ราคาเปลี่ยนแปลงตามรอบและจำนวนผู้โดยสาร) แนะนำตรวจสอบอัตราล่าสุดที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
ติดต่อ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเวียงกุมกาม ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 053-277-322, 053-277-344 (สอบถามรอบรถราง เส้นทางนำชม และข้อมูลโบราณสถาน)
 
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: เวียงกุมกามตั้งอยู่ตรงไหนของเชียงใหม่ และเดินทางอย่างไร?
ตอบ: เวียงกุมกามตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของตัวเมืองเชียงใหม่ ในเขตตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี ใกล้ถนนเชียงใหม่–ลำพูนและริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง หากออกจากคูเมืองให้มุ่งหน้ามาทางหนองหอย ตามป้ายถนนสายเชียงใหม่–ลำพูน จากนั้นเลี้ยวเข้าตำบลท่าวังตาลตามป้าย “เวียงกุมกาม” อีกประมาณ 1–2 กิโลเมตร จะถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและลานจอดรถ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทัวร์ชมโบราณสถาน
 
ถาม: เวียงกุมกามเปิดให้เข้าชมกี่โมง–กี่โมง และมีค่าเข้าชมหรือไม่?
ตอบ: พื้นที่โบราณสถานเวียงกุมกามสามารถเข้าชมได้ทุกวัน โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมคือราว 08.00–17.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่มีบริการรถราง–รถม้า และมัคคุเทศก์ท้องถิ่น รอบสุดท้ายมักไม่เกินช่วงบ่ายแก่ ๆ การเข้าชมเขตโบราณสถานโดยรอบไม่เสียค่าเข้า แต่จะมีค่าใช้บริการรถราง รถม้า หรือรถสองแถวที่จัดเป็นแพ็กเกจนำชม ขึ้นอยู่กับระยะทางและจำนวนคน ควรถามราคาจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อนใช้บริการทุกครั้ง
 
ถาม: ถ้าจะเที่ยวเวียงกุมกามให้คุ้มควรใช้เวลาประมาณเท่าไร และควรเดิน–นั่งรถแบบไหน?
ตอบ: โดยทั่วไปการเที่ยวชมเวียงกุมกามแบบรอบสั้นใช้เวลาประมาณ 1–1.5 ชั่วโมง แต่ถ้าต้องการลงชมโบราณสถานหลายวัดอย่างละเอียด ควรเผื่อเวลา 2–3 ชั่วโมงขึ้นไป นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการรถรางหรือรถม้าให้เจ้าหน้าที่ขับพาชมและบรรยายประวัติแต่ละจุด พร้อมแวะลงถ่ายรูปเป็นช่วง ๆ หากต้องการชมแบบอิสระ สามารถใช้จักรยานหรือรถส่วนตัวขับวนตามแผนที่ได้ แต่ควรศึกษาเส้นทางก่อน เพราะโบราณสถานกระจายอยู่หลายจุดในชุมชน
 
ถาม: เวียงกุมกามมีโบราณสถานสำคัญอะไรบ้างที่ไม่ควรพลาด?
ตอบ: จุดยอดฮิตที่มักอยู่ในทุกเส้นทางทัวร์ ได้แก่ วัดช้างค้ำ (หรือวัดกานโถม) ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางเมือง, วัดเจดีย์เหลี่ยม (วัดกู่คำ) ที่มีเจดีย์ทรงมณฑปหริภุญไชย, วัดปู่เปี้ยที่ยังเห็นลวดลายปูนปั้นและผังวัดค่อนข้างสมบูรณ์, วัดอีก้างที่เคยจมอยู่ใต้ดินลึกเกือบ 2 เมตร, วัดนานช้างที่แสดงหลักฐานน้ำท่วมโบราณ และวัดพระเจ้าองค์ดำ–วัดพญามังรายซึ่งเชื่อมโยงกับประวัติของกษัตริย์ผู้สร้างเมือง นอกจากนี้ยังมีวัดกู่ขาวและวัดหนองผึ้งที่สะท้อนพัฒนาการของชุมชนในสมัยต่อมา
 
ถาม: เวียงกุมกามเหมาะกับการพาเด็กและผู้สูงอายุมาหรือไม่?
ตอบ: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาเป็นครอบครัว เพราะเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์กลางแจ้ง เด็ก ๆ สามารถเห็นโบราณสถานจริงและฟังเรื่องเล่าจากมัคคุเทศก์ ส่วนผู้สูงอายุสามารถนั่งรถรางหรือรถม้าชมโดยไม่ต้องเดินไกลมาก แต่ควรระมัดระวังพื้นดินต่างระดับและอิฐเก่าในบางจุด รวมทั้งเลือกช่วงอากาศไม่ร้อนจัด และเตรียมหมวก–ร่ม–น้ำดื่มให้พร้อม จะช่วยให้เที่ยวได้สบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น
 
ถาม: หากไม่มีรถส่วนตัว สามารถเดินทางมาเวียงกุมกามได้อย่างไร?
ตอบ: หากไม่มีรถส่วนตัวสามารถนั่งรถสองแถว/รถประจำทางที่วิ่งผ่านถนนเชียงใหม่–ลำพูน มาลงบริเวณหนองหอยหรือปากทางท่าวังตาล จากนั้นต่อรถสองแถวท้องถิ่น มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือแท็กซี่/แกร็บเข้าไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเวียงกุมกาม โดยควรตกลงค่าโดยสารและจุดรับ–ส่งให้ชัดเจนก่อนออกเดินทาง เพื่อความสะดวกในการเดินทางกลับ
โทรโทร: 0861935049, 0810279513
แผนที่ เวียงกุมกาม เมืองโบราณ แผนที่เวียงกุมกาม เมืองโบราณ
คำค้นคำค้น: เวียงกุมกาม เมืองโบราณเวียงกุมกาม เชียงใหม่ เมืองโบราณเวียงกุมกาม โบราณสถานสารภี เที่ยวเชียงใหม่ภาควัฒนธรรม ประวัติเวียงกุมกาม โบราณสถานเชียงใหม่ เมืองโบราณลำพูนล้านนา ที่เที่ยวสารภี เมืองเก่าพญามังราย เที่ยวภาคเหนือเชียงใหม่
ปรับปรุงล่าสุดปรับปรุงล่าสุด: 1 สัปดาห์ที่แล้ว


แสดงความเห็น

แสดงความเห็น




คำค้น (ขั้นสูง)
   
Email :
  รหัสผ่าน :
  สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 

Facebook Fanpage Facebook Fanpage

 

ภูมิภาค ภูมิภาคhttps://www.lovethailand.org/

ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(8)

แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(5)

พระราชวัง พระราชวัง(2)

ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(43)

พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์(24)

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ

พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา(2)

ไร่ สวนเพื่อการศึกษา ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(5)

ศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์ฝึกอบรม(1)

มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์

วัด วัด(79/1269)

มัสยิด มัสยิด(2)

สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(17)

โครงการในพระราชดำริ โครงการในพระราชดำริ

โครงการหลวง โครงการหลวง(44)

วิถีชีวิต วิถีชีวิต

หมู่บ้าน ชุมชน หมู่บ้าน ชุมชน(41)

ตลาดท้องถิ่น ตลาดท้องถิ่น(14)

ธรรมชาติ และสัตว์ป่า ธรรมชาติ และสัตว์ป่า

อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(16)

ดอย และภูเขา ดอย และภูเขา(21)

เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(26)

น้ำตก น้ำตก(43)

น้ำพุร้อน น้ำพุร้อน(13)

ถ้ำ ถ้ำ(11)

แม่น้ำลำคลอง แม่น้ำลำคลอง(6)

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(14)

บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(2)

แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์ แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(3)

สนามกีฬา สนามกีฬา(1)

ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(19)

สวนน้ำ สวนน้ำ(2)

โรงละคร โรงละคร(1)

กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(10)

ช้อปปิ้ง ช้อปปิ้ง

ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(6)

ร้านอาหาร ร้านอาหาร

มิชลินสตาร์ มิชลินสตาร์(1)

มิชลิน ไกด์ มิชลิน ไกด์(23)

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว(1)

บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร

รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร(15)

เมนูอาหารเหนือ, สูตรอาหารเหนือ เมนูอาหารเหนือ, สูตรอาหารเหนือ(30)

ขนมไทยภาคเหนือ, สูตรอาหารเหนือ ขนมไทยภาคเหนือ, สูตรอาหารเหนือ(17)