ศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนาตำบลน้ำแพร่

Rating: 4.6/5 (5 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00–17.00 น.
ศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนาตำบลน้ำแพร่ หมู่ที่ 3 บ้านแพะขวาง เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมของชุมชนเล็ก ๆ ในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจของคนในพื้นที่ที่จะรักษาศิลปะการแสดงล้านนาให้ยังคงมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่แค่ในหนังสือหรือพิพิธภัณฑ์ แต่ในวิถีชีวิตประจำวันของเด็ก เยาวชน และคนทุกวัยในหมู่บ้าน ศูนย์แห่งนี้เปิดสอนแบบไม่เก็บค่าใช้จ่าย มุ่งเน้นการเรียนฟรีในบรรยากาศสบาย ๆ แต่เต็มไปด้วยความหมายและหัวใจของการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น
ศูนย์ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 3 บ้านแพะขวาง ตำบลน้ำแพร่ ซึ่งเป็นชุมชนชนบทที่โอบล้อมด้วยทุ่งนา บ้านเรือน และวัดท้องถิ่น วิถีชีวิตยังคงกลิ่นอายล้านนาแบบดั้งเดิมอยู่มาก ท่ามกลางการเติบโตของเมืองเชียงใหม่และกระแสสมัยใหม่ที่ไหลบ่าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนาแห่งนี้จึงทำหน้าที่คล้ายสมุดบันทึกที่มีชีวิต เป็นที่รวมความทรงจำของคนรุ่นก่อน และเป็นห้องเรียนสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากรู้ว่ารากเหง้าของตัวเองหน้าตาเป็นอย่างไร
ความโดดเด่นของศูนย์น้ำแพร่อยู่ที่แนวคิดการทำงานแบบไม่หวังผลกำไร ทุกกิจกรรมเน้นให้เด็กและเยาวชนเข้าร่วมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่เน้นความหรูหราของสถานที่ แต่เน้นคุณค่าของเนื้อหาและการลงมือปฏิบัติจริง ศิลปะการแสดงล้านนาที่เคยเป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานบุญหรืองานประเพณี ถูกดึงกลับมาให้เป็น “เครื่องมือในการเรียนรู้ชีวิต” ของคนในชุมชนอีกครั้ง
เบื้องหลังของศูนย์แห่งนี้คือเรื่องราวของพ่อครูคำ กาไวย์ ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง ผู้มีชื่อเสียงด้านการแสดงพื้นบ้านและการช่างฟ้อน พ่อครูเป็นทั้งครูภูมิปัญญาและเสาหลักด้านศิลปวัฒนธรรมของตำบลน้ำแพร่ เมื่อท่านถึงแก่อนิจกรรม บ้านที่เคยใช้เป็นพื้นที่สอนตีกลองสะบัดชัยและฟ้อนดาบจึงถูกพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็น “ศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนาตำบลน้ำแพร่” เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของท่านในการอนุรักษ์และถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมล้านนาให้คงอยู่
ภายหลังการจากไปของพ่อครูคำ ลูกหลานและคนใกล้ชิดจึงลุกขึ้นมารับช่วงต่อ โดยเฉพาะป้อหลวงไพรินทร์ กาไวย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านแพะขวาง ซึ่งเป็นทายาทโดยตรง ได้ช่วยกันปรับปรุงพื้นที่บ้านเดิมให้กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้บ้านกลองสะบัดชัย รองรับการจัดกิจกรรมสืบสานศิลปวัฒนธรรมในระดับชุมชน เด็ก ๆ และเยาวชนจากหมู่บ้านใกล้เคียงเริ่มเข้ามาเรียนรู้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ได้รับการยอมรับจากทั้งชุมชนและหน่วยงานท้องถิ่น
การพัฒนาศูนย์ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวแล้วจบ แต่ค่อย ๆ เติบโตผ่านโครงการต่อเนื่องหลายปี ช่วงหนึ่งตำบลน้ำแพร่ต้องเผชิญปัญหาเด็กและเยาวชนติดเกมและเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงมองเห็นว่า “ศิลปวัฒนธรรม” สามารถเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยดึงเด็กกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ดี จึงสนับสนุนให้ใช้บ้านของพ่อครูคำเป็นจุดศูนย์กลางในการถ่ายทอดศิลปะล้านนา ทั้งการตีกลอง การฟ้อน และกิจกรรมวัฒนธรรมอื่น ๆ
เมื่อโครงการดำเนินต่อเนื่อง ศูนย์ก็ยิ่งมีความพร้อมมากขึ้น ทั้งด้านอุปกรณ์การเรียน สถานที่ และจำนวนครูภูมิปัญญาที่มาร่วมกันถ่ายทอดความรู้ เด็กและเยาวชนรุ่นแล้วรุ่นเล่าหมุนเวียนกันเข้ามาเรียน ทำให้ทักษะเช่นการตีกลองสะบัดชัยและการฟ้อนดาบไม่ขาดช่วง เมื่อมีงานประเพณีสำคัญของตำบล ชุดการแสดงจากศูนย์สืบสานฯ จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของพิธีการแทบทุกครั้ง
กิจกรรมหลักของศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนา ตำบลน้ำแพร่ คือการสอนศิลปะการแสดงล้านนาในหลายแขนง โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับ “กลอง” และ “การฟ้อน” ซึ่งเป็นหัวใจของการแสดงพื้นบ้านเหนือ เด็ก ๆ ที่เข้ามาเรียนไม่ได้เพียงเรียนเพื่อ “ขึ้นเวที” แต่ได้เรียนความหมายเบื้องหลังทุกจังหวะและทุกท่วงท่าที่สืบทอดกันมา
การตีกลองสะบัดชัยเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในศูนย์ เสียงกลองที่ดังสลับประสานกันอย่างพร้อมเพรียง ช่วยปลุกพลังทั้งผู้ตีและผู้ฟัง ในอดีตกลองสะบัดชัยถูกใช้เพื่อประกาศชัยชนะหรือปลุกขวัญในยามศึก ปัจจุบันถูกนำมาบรรเลงในงานมงคลต่าง ๆ เช่น งานรื่นเริงของชุมชน งานแห่ขบวน งานต้อนรับแขกสำคัญ การเรียนกลองสะบัดชัยจึงไม่ใช่แค่เรียนดนตรี แต่เป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณของคนล้านนาไปพร้อมกัน
สำหรับการฟ้อนดาบ ศูนย์ให้ความสำคัญอย่างมากทั้งในเชิงเทคนิคและจิตใจ การฟ้อนดาบเป็นศิลปะที่ผสานความกล้าหาญกับความสง่างาม ผู้ฟ้อนต้องควบคุมทั้งร่างกาย น้ำหนักมือ และสมาธิในเวลาเดียวกัน ครูภูมิปัญญาจะเริ่มสอนตั้งแต่การจับดาบอย่างถูกต้อง การก้าวเท้า การหมุนตัว การยกดาบ และการประคองสายตาให้สัมพันธ์กับจังหวะดนตรี ทุกท่วงท่ามีความหมาย ไม่ใช่เพียงการหวือหวาเพื่อความตื่นตา แต่คือบทเรียนเรื่องวินัย ความรับผิดชอบ และการเคารพบูรพาจารย์
ฟ้อนเชิงเป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่สอนกันในศูนย์อย่างจริงจัง จุดเด่นของฟ้อนเชิงคือความอ่อนช้อย นุ่มนวล แต่แฝงด้วยพลังทางจิตวิญญาณ การฟ้อนเชิงมักใช้ในพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับความศรัทธา การบูชาครู หรือการแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้เรียนฟ้อนเชิงจึงไม่ได้เพียงเรียนท่าทาง หากแต่ได้ฝึกให้ใจนิ่ง รู้จักเคลื่อนไหวไปกับดนตรีอย่างมีสมาธิ หลายคนบอกว่าการได้ฟ้อนเชิงช่วยให้พวกเขา “กลับมาอยู่กับตัวเอง” มากขึ้น
ด้านการตีกลองชัยมงคล ศูนย์ใช้กลองประเภทนี้ในงานที่ต้องการเสริมสิริมงคล เช่น งานขึ้นบ้านใหม่ งานบวช หรืองานมงคลสมรส เสียงกลองที่หนักแน่นแต่ละจังหวะเปรียบเสมือนคำอวยพร ผู้เรียนจะได้ฝึกตั้งแต่พื้นฐานจังหวะไปจนถึงการตีร่วมกับวงกลองอื่น ๆ การเรียนรู้ในลักษณะนี้ทำให้เด็กและเยาวชนเข้าใจว่า “เสียงดนตรี” มีความหมายมากกว่าเสียงที่ไพเราะ แต่เกี่ยวข้องกับความเชื่อและพิธีกรรมของชุมชนอย่างลึกซึ้ง
บรรยากาศการเรียนในศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนา ตำบลน้ำแพร่ เป็นไปอย่างเรียบง่าย เด็ก ๆ มักมาพร้อมเพื่อนบ้านหรือคนในครอบครัว ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านก็เข้ามาช่วยดูแลหรือร่วมฝึกซ้อมด้วยเป็นบางครั้ง เมื่อครูตีกลองนำ ทุกคนจะค่อย ๆ ทำตาม เรียนรู้จากการสังเกตและการลงมือทำซ้ำ ๆ มากกว่าการนั่งฟังบรรยาย ทักษะจึงค่อย ๆ ซึมเข้าไปในร่างกายและความทรงจำของผู้เรียนอย่างเป็นธรรมชาติ
ความน่าสนใจอีกอย่างคือศูนย์ไม่ได้จำกัดผู้เรียนเฉพาะเด็กหรือเยาวชนเท่านั้น หากผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุอยากมาเรียนรู้เพิ่มก็สามารถเข้าร่วมได้ ทำให้ศูนย์กลายเป็นพื้นที่ที่คนหลายวัยมาเจอกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ คนรุ่นใหม่เล่าเรื่องโรงเรียน ชีวิตประจำวัน ส่วนคนรุ่นเก่าก็เล่าความทรงจำสมัยก่อนเกี่ยวกับขบวนแห่ งานบุญ และครูฟ้อนในยุคของตนเอง บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความผูกพันมากกว่าจะเป็นเพียง “ห้องเรียน” ทั่วไป
ศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนา ตำบลน้ำแพร่ ยังมีบทบาทสำคัญในงานประเพณีสำคัญของท้องถิ่น เช่น ประเพณียี่เป็ง ประเพณีปี๋ใหม่เมือง งานลอยกระทง งานรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ งานต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง หรือแม้แต่งานของหน่วยงานภาครัฐในระดับอำเภอและจังหวัด ลูกศิษย์จากศูนย์มักได้รับเชิญให้ไปตีกลองสะบัดชัย นำขบวนแห่ หรือฟ้อนประกอบพิธี ทำให้ทั้งผู้แสดงและผู้ชมได้เห็นว่าศิลปะล้านนาที่เรียนในศูนย์ไม่ใช่เพียงการซ้อมในสนาม แต่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงของชุมชนอย่างแท้จริง
ในระยะยาว ศูนย์ลักษณะนี้ช่วยสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนในชุมชน เด็กที่เติบโตมาพร้อมเสียงกลองและการฟ้อนย่อมมีจุดยืนในใจชัดเจนขึ้นว่าตนเองมาจากวัฒนธรรมแบบใด ผู้ปกครองก็สบายใจที่ลูกหลานใช้เวลาว่างไปกับกิจกรรมสร้างสรรค์มากกว่าการหมกมุ่นอยู่กับหน้าจอมือถือ ชุมชนโดยรวมก็ได้พื้นที่พบปะ พูดคุย และร่วมกันทำกิจกรรมเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง
ในแง่ของการบริหารจัดการ ศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนา ตำบลน้ำแพร่ มีคณะกรรมการจากคนในชุมชนมาช่วยกันดูแล ทั้งด้านกิจกรรม การประสานงานกับหน่วยงานรัฐ และการพัฒนาพื้นที่ให้เหมาะกับการเรียนรู้ องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำแพร่เองก็มีบทบาทในการสนับสนุนงบประมาณและประสานเครือข่าย ทำให้ศูนย์ไม่ใช่โครงการชั่วคราว แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
การเดินทางไปยังศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนาตำบลน้ำแพร่ ทำได้ไม่ยาก หากออกเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่สามารถใช้ถนนเชียงใหม่–หางดง (ทางหลวงสาย 108) มุ่งหน้าไปทางอำเภอหางดง จากนั้นขับต่อไปจนถึงบริเวณกาดฝรั่งหรือจุดตัดสำคัญของชุมชน แล้วเลี้ยวเข้าทางตำบลน้ำแพร่ เมื่อเข้าสู่เขตหมู่บ้านให้ขับตามเส้นทางภายในชุมชนไปยังหมู่ที่ 3 บ้านแพะขวาง ศูนย์ตั้งอยู่ใกล้บ้านเรือนของชาวบ้านและวัดในพื้นที่ บรรยากาศร่มรื่นสไตล์ชนบท หากใช้รถสองแถวหรือขนส่งสาธารณะ สามารถลงบริเวณถนนใหญ่ในหางดงแล้วต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือรถรับจ้างเข้ามายังหมู่บ้านได้เช่นกัน
บริเวณรอบตำบลน้ำแพร่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมกลางแจ้งหลายแห่ง โดยเฉพาะโซนสวนน้ำ แกรนด์แคนยอน วอเตอร์ปาร์ค สนามกอล์ฟ และวัดเก่าแก่สไตล์ล้านนา ถ้านักเดินทางวางแผนเที่ยวทั้งวัน สามารถจัดเส้นทางให้แวะเรียนรู้วัฒนธรรมที่ศูนย์สืบสานฯ แล้วต่อด้วยกิจกรรมเล่นน้ำหรือเที่ยววัดใกล้เคียงได้อย่างลงตัว ถือเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของย่านหางดงที่ผสมทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และกิจกรรมร่วมสมัยเข้าไว้ด้วยกัน
เมื่อมองภาพรวม ศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนาตำบลน้ำแพร่จึงไม่ใช่เพียงสถานที่สอนตีกลองหรือฟ้อนรำ แต่ทำหน้าที่เหมือนหัวใจดวงเล็กของชุมชนที่เต้นอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่มีเสียงกลองสะบัดชัยดังขึ้น หรือทุกครั้งที่เด็ก ๆ ก้าวเท้าออกฟ้อนในงานบุญ คือสัญญาณว่า “วัฒนธรรมล้านนาในหมู่บ้านนี้ยังหายใจอยู่” และยังถูกส่งต่อจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นอย่างไม่ขาดสาย
สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องศิลปวัฒนธรรม การมาเยี่ยมศูนย์แห่งนี้จะช่วยให้เข้าใจว่าการอนุรักษ์ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์หรืออาคารใหญ่โตเสมอไป แต่อาจอยู่ในบ้านไม้หลังเดิมของครูภูมิปัญญา ที่เต็มไปด้วยเสียงกลอง การหัวเราะของเด็ก ๆ และรอยยิ้มของผู้ใหญ่ที่เห็นต่อหน้าว่าสิ่งที่บรรพบุรุษส่งต่อมานั้นไม่ได้สูญหายไปกับกาลเวลา
| ชื่อสถานที่ | ศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนาตำบลน้ำแพร่ (บ้านกลองสะบัดชัย) |
| ที่ตั้ง | เลขที่ 125 หมู่ที่ 3 บ้านแพะขวาง ตำบลน้ำแพร่ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ 50230 ประเทศไทย |
| ลักษณะสำคัญ | ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนด้านศิลปวัฒนธรรมล้านนา เรียนฟรี ไม่หวังผลกำไร เน้นการสอนการตีกลองสะบัดชัย ฟ้อนดาบ ฟ้อนเชิง ตีกลองชัยมงคล และกิจกรรมวัฒนธรรมสำหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป |
| สมัย/ยุค | ก่อตั้งและพัฒนาในยุคร่วมสมัยต่อเนื่องจากการทำงานของพ่อครูคำ กาไวย์ ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง เพื่อสืบสานศิลปะการแสดงพื้นบ้านล้านนาในชุมชนน้ำแพร่ |
| หลักฐานสำคัญ | บ้านเดิมของพ่อครูคำ กาไวย์ที่ปรับเป็นศูนย์เรียนรู้ เอกสารโครงการสืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนาของตำบลน้ำแพร่ กลองสะบัดชัย ชุดฟ้อนดาบ ฟ้อนเชิง และบันทึกกิจกรรมการแสดงในงานประเพณีต่าง ๆ ของชุมชน |
| ที่มาของชื่อ | ใช้ชื่อให้ตรงกับบทบาทของแหล่งเรียนรู้ที่เน้นการสืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนาในตำบลน้ำแพร่ และมักเรียกกันในอีกชื่อว่า “บ้านกลองสะบัดชัย” ตามความโดดเด่นด้านการตีกลองสะบัดชัยของศูนย์ฯ |
| การเดินทาง | จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ถนนเชียงใหม่–หางดง (ทางหลวงหมายเลข 108) มุ่งหน้าอำเภอหางดง จากนั้นเลี้ยวเข้าทางตำบลน้ำแพร่ แล้วขับตามทางภายในหมู่บ้านไปยังหมู่ที่ 3 บ้านแพะขวาง ศูนย์ตั้งอยู่ใกล้ชุมชนและวัดในพื้นที่ หากใช้รถสองแถวหรือขนส่งสาธารณะ แนะนำให้ลงที่ถนนใหญ่ในหางดงแล้วต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าตำบลน้ำแพร่ |
| สถานะปัจจุบัน | เปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ของชุมชนอย่างต่อเนื่อง ใช้เป็นพื้นที่ฝึกซ้อมกลอง ฟ้อน และจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมสำหรับงานประเพณีต่าง ๆ ของตำบลน้ำแพร่และอำเภอหางดง |
| เบอร์ติดต่อ | ตรวจสอบล่าสุดเมื่อ 2025-12-11: 083-5825046, 081-3666905 (ผู้ประสานศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนาตำบลน้ำแพร่); 053-296600-1 (องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำแพร่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม) |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง พร้อมระยะทาง | ตัวอย่างสถานที่ใกล้เคียง: แกรนด์แคนยอน วอเตอร์ปาร์ค (Grand Canyon Water Park) ประมาณ 3–4 กม.; วัดน้ำแพร่ (Wat Nam Phrae) ประมาณ 2 กม.; เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ประมาณ 8–10 กม.; สนามกอล์ฟนอร์ทฮิลล์ เชียงใหม่ (North Hill Golf Club) ประมาณ 8 กม.; วัดต้นเกว๋น (วัดอินทราวาส) อำเภอหางดง ประมาณ 10 กม. จากพื้นที่ตำบลน้ำแพร่ |
| ร้านอาหารยอดนิยมใกล้เคียง | บริเวณน้ำแพร่และแกรนด์แคนยอนมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้เลือกหลายแห่ง เช่น Tuang Thong Canyon View ประมาณ 3–4 กม.; Phufinn Doi และ Phu Finn Cafe ประมาณ 3–5 กม.; ร้านอาหารและคาเฟ่ในโซนหางดงและรอบ ๆ แกรนด์แคนยอน เหมาะสำหรับแวะทานอาหารและชมวิวหลังจากเยี่ยมชมศูนย์ฯ (ระยะทางเป็นการประมาณจากโซนน้ำแพร่) |
| ที่พักยอดนิยมใกล้เคียง | พื้นที่อำเภอหางดงและน้ำแพร่มีที่พักสไตล์โฮมสเตย์และรีสอร์ตหลายแห่ง เช่น Hoshihana Village, Rice Barn and Rooms, The Heritage House & Garden, The Luna Compass และที่พักสไตล์โฮมสเตย์อื่น ๆ ในหางดง (ระยะทางส่วนใหญ่อยู่ในช่วงประมาณ 5–12 กม. จากตำบลน้ำแพร่ ขึ้นอยู่กับแต่ละแห่ง) |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | ลานกิจกรรมสำหรับการตีกลองและการฟ้อน ห้องหรือพื้นที่ซ้อมการแสดง พื้นที่รองรับการจัดกิจกรรมของชุมชน และลานโล่งที่ใช้จัดงานประเพณีหรือแสดงศิลปะพื้นบ้าน |
| ค่าธรรมเนียม/ค่าใช้จ่าย | ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเรียนและร่วมกิจกรรมทั่วไปของศูนย์ฯ เป็นการเรียนฟรีในลักษณะศูนย์เรียนรู้ชุมชน อาจมีการรับบริจาคหรือสมทบทุนตามกำลังศรัทธาในบางโอกาส |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: ศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนาตำบลน้ำแพร่สอนอะไรบ้าง?
ตอบ: ศูนย์สอนการตีกลองสะบัดชัย การฟ้อนดาบ การฟ้อนเชิง การตีกลองชัยมงคล และกิจกรรมวัฒนธรรมล้านนาอื่น ๆ ตามโอกาส เช่น การฝึกซ้อมการแสดงสำหรับงานประเพณีและงานบุญของชุมชน
ถาม: การเรียนที่ศูนย์มีค่าใช้จ่ายหรือไม่?
ตอบ: ไม่มีค่าใช้จ่าย ศูนย์สืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนาตำบลน้ำแพร่เป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชนที่ไม่หวังผลกำไร เปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปเข้ามาเรียนรู้ได้ฟรี
ถาม: เด็กเล็กหรือผู้สูงอายุสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ไหม?
ตอบ: ได้ ศูนย์เปิดรับผู้เรียนทุกวัย ทั้งเด็กเล็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ เน้นบรรยากาศการเรียนรู้แบบครอบครัวและชุมชน ทุกคนสามารถเรียนรู้ตามศักยภาพของตนเอง
ถาม: หากต้องการเยี่ยมชมศูนย์หรือดูการซ้อมควรทำอย่างไร?
ตอบ: สามารถเดินทางไปยังศูนย์ในช่วงเวลาทำการ 08.00–17.00 น. หากต้องการดูการซ้อมหรือเข้าร่วมกิจกรรมเฉพาะช่วง แนะนำให้ประสานงานกับผู้ประสานศูนย์หรือสอบถามผ่านองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำแพร่ล่วงหน้าเพื่อให้ทราบกำหนดการที่แน่นอน
ถาม: ศูนย์มีบทบาทอย่างไรในงานประเพณีของชุมชน?
ตอบ: ศูนย์มีบทบาทสำคัญในการจัดชุดการแสดงกลองสะบัดชัย ฟ้อนดาบ ฟ้อนเชิง และการแสดงล้านนาอื่น ๆ สำหรับงานประเพณี เช่น ประเพณียี่เป็ง ประเพณีปี๋ใหม่เมือง งานลอยกระทง งานรดน้ำดำหัว และงานต้อนรับแขกสำคัญของชุมชนและหน่วยงานรัฐ
ถาม: สามารถนำคณะนักเรียนหรือนักศึกษาไปศึกษาดูงานที่ศูนย์ได้หรือไม่?
ตอบ: สามารถทำได้ โดยควรติดต่อประสานงานล่วงหน้าเพื่อแจ้งจำนวนผู้เข้าร่วมและวัตถุประสงค์ของการศึกษาดูงาน เพื่อให้ทางศูนย์และชุมชนเตรียมกิจกรรมหรือการสาธิตได้เหมาะสมกับคณะผู้มาเยือน
ถาม: บริเวณใกล้ศูนย์มีแหล่งท่องเที่ยวอื่นให้แวะต่อหรือไม่?
ตอบ: มีหลายแห่ง เช่น แกรนด์แคนยอน วอเตอร์ปาร์ค วัดน้ำแพร่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สนามกอล์ฟนอร์ทฮิลล์ รวมถึงวัดต้นเกว๋นในอำเภอหางดง นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนทริปที่ผสมผสานการเรียนรู้วัฒนธรรมกับกิจกรรมท่องเที่ยวและพักผ่อนในพื้นที่เดียวกันได้อย่างสะดวก
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|







หมวดหมู่:
กลุ่ม: