ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ
Rating: 3.3/5 (13 votes)
แผนที่ แผนที่ แผนที่ มีแผนที่ มีแผนที่ ไม่มีแผนที่ ไม่มีแผนที่

สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

วันเปิดทำการ: ทุกวัน (แนะนำตรวจประกาศล่าสุดก่อนเดินทาง)
เวลาเปิดทำการ: แนะนำตรวจประกาศล่าสุดจากหน่วยงาน/เพจทางการ (ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวบางช่วงอาจมีเวลารับนักท่องเที่ยวเฉพาะ)
 
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ เป็นพื้นที่ทำงานจริงของโครงการหลวงที่พาเราเข้าไปเห็น “แก่น” ของโครงการพระราชดำริในแบบที่จับต้องได้ ไม่ใช่แหล่งเที่ยวที่เน้นความหวือหวาหรือจุดถ่ายรูปเป็นหลัก แต่เป็นพื้นที่ที่ถูกออกแบบให้เกิด “อาชีพที่ยั่งยืน” ควบคู่กับ “การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ” บนพื้นที่สูงอย่างเป็นระบบ จุดแข็งของที่นี่คือความเป็นศูนย์พัฒนาที่ทำงานกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้คนบนดอยมีทางเลือกใหม่แทนการปลูกฝิ่นและการทำไร่เลื่อนลอย พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้มั่นคงขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
 
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2526 ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีเจตนารมณ์สำคัญคือช่วยเหลือชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและม้ง ให้มีอาชีพที่สุจริตและเหมาะกับพื้นที่สูง สร้างรายได้ทดแทนการปลูกฝิ่น ลดแรงกดดันต่อพื้นที่ป่าต้นน้ำ และทำให้ชุมชนค่อย ๆ ตั้งหลักชีวิตได้ดีขึ้น งานพัฒนาของศูนย์จึงไม่ใช่แค่เรื่องปลูกพืช แต่เป็นการจัดวาง “ระบบอาชีพ–ระบบทรัพยากร–ระบบชุมชน” ให้เดินไปด้วยกัน เพื่อให้ความเปลี่ยนแปลงไม่หยุดอยู่แค่ปีสองปี แต่พอจะสู้กับความเสี่ยงระยะยาวได้
 
ในเชิงพื้นที่ ศูนย์ครอบคลุมพื้นที่เกษตรของหมู่บ้าน โดยเริ่มดำเนินการพัฒนาและส่งเสริมด้านไม้ผลเป็นอันดับแรก ก่อนขยายผลไปสู่การส่งเสริมผัก ไม้ดอกไม้ประดับ สมุนไพร และพืชไร่ ซึ่งสะท้อนวิธีคิดของโครงการหลวงที่มองเรื่อง “ความหลากหลาย” เป็นหัวใจ เพราะพื้นที่สูงมีทั้งข้อจำกัดเรื่องความลาดชัน อุณหภูมิ และฤดูกาล หากยึดติดกับพืชชนิดเดียว ความเสี่ยงจะตกกับครัวเรือนหนักมาก การทำให้ชุมชนมีตัวเลือกหลายแบบจึงช่วยกระจายรายได้และทำให้ครัวเรือนปรับตัวได้ดีขึ้นเมื่อเจอสภาพอากาศแปรปรวนหรือราคาผลผลิตขึ้นลง
 
เมื่อการส่งเสริมอาชีพเริ่มตั้งหลักได้ งานของศูนย์ก็ขยายไปสู่มิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เพราะการพัฒนาบนพื้นที่สูงให้ยั่งยืนไม่สามารถทำได้ด้วยเทคนิคการเกษตรอย่างเดียว จำเป็นต้องเสริมทักษะ การจัดการครัวเรือน การรวมกลุ่ม การสื่อสารตลาด และการรักษารากของชุมชนไปพร้อมกัน ที่สำคัญคือศูนย์ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติควบคู่กันไป เพื่อให้การทำกินไม่กลายเป็นแรงกดดันต่อป่าต้นน้ำ และให้ภูเขายังเลี้ยงคนได้ในระยะยาว
 
ปัจจุบันศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะมีพื้นที่รับผิดชอบดำเนินงาน 28,765 ไร่ ครอบคลุม 4 หมู่บ้าน และมีประชากรที่ได้รับการพัฒนาและส่งเสริมจำนวน 466 ครัวเรือน 466 ราย ตัวเลขเหล่านี้ทำให้เห็นว่า “ขุนแปะ” ไม่ได้เป็นแค่ชื่อจุดบนแผนที่ แต่เป็นพื้นที่ทำงานขนาดใหญ่ที่ต้องบริหารทั้งองค์ความรู้ เครือข่าย และทรัพยากรอย่างละเอียด เพื่อให้ผลลัพธ์ไปถึงชีวิตคนจริง ๆ ไม่ใช่ไปหยุดอยู่ในรายงาน
 
ภูมิประเทศของพื้นที่เป็นภูเขาสลับกับที่ราบในหุบเขา มีลำห้วยแม่แปะและลำห้วยต้นผึ้งไหลผ่าน สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,035 เมตร ลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี และมีค่า pH ประมาณ 6.5–7 เงื่อนไขเชิงกายภาพแบบนี้เป็นทั้ง “ข้อได้เปรียบ” และ “โจทย์ท้าทาย” ในเวลาเดียวกัน เพราะดินที่ระบายน้ำดีช่วยลดปัญหาน้ำขัง แต่ก็ต้องบริหารธาตุอาหารและความชื้นให้เหมาะสม โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่หน้าดินอาจถูกชะล้างได้ง่ายหากไม่มีการจัดการพื้นที่อย่างระมัดระวัง การพัฒนาเกษตรบนพื้นที่สูงจึงต้องคิดเรื่องดินและน้ำไปพร้อมกับเรื่องรายได้เสมอ
 
ด้านภูมิอากาศ พื้นที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดประมาณ 14.5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดประมาณ 27.2 องศาเซลเซียส และมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,220 มิลลิเมตรต่อปี สภาพอากาศลักษณะนี้เอื้อต่อการปลูกพืชหลายกลุ่ม และเหมาะกับแนวทาง “ปลูกให้ตรงฤดู–ปลูกให้ตรงพื้นที่” ซึ่งเป็นหลักคิดสำคัญของการส่งเสริมพืชในโครงการหลวง หากมาเที่ยวในฐานะคนสนใจงานพัฒนา คุณจะสัมผัสได้ว่าความรู้เรื่องสภาพแวดล้อมไม่ได้อยู่ในตำราอย่างเดียว แต่มันอยู่ในวิธีวางแปลง วิธีเลือกพืช และวิธีจัดการพื้นที่ให้อยู่กับภูเขาได้โดยไม่ทำร้ายกัน
 
มุมของนักท่องเที่ยวหรือคนที่อยากมาพักใจ ขุนแปะเป็นพื้นที่ที่เหมาะกับการ “เดินช้า ๆ แล้วดูให้ลึก” เพราะเสน่ห์ของศูนย์ไม่ได้อยู่ที่การจัดฉากให้สวยเหมือนสวนโชว์ แต่เป็นความจริงของพื้นที่ทำงานที่มีผู้คน มีแปลงเกษตร มีวิธีคิด และมีเป้าหมายชัดเจน ถ้าคุณตั้งใจมาแบบท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ แนะนำให้โฟกัสว่าแต่ละกิจกรรมหรือแปลงสาธิตสะท้อนการแก้ปัญหาอะไรของชุมชน และทำไมการอนุรักษ์ทรัพยากรถึงต้องเดินคู่กับอาชีพ นี่คือวิธีเที่ยวที่ทำให้ขุนแปะ “มีความหมาย” มากกว่าการแวะถ่ายรูปแล้วผ่านไป
 
การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่–ฮอด) มาถึงกิโลเมตรที่ 82–83 บริเวณสามแยกไปบ้านแปะและวัดตอง ให้เลี้ยวขวา จากนั้นขับตรงผ่านบ้านแปะ บ้านทุ่งพัฒนา บ้านบนนา และบ้านขุนแปะ ประมาณ 22 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ ช่วงฤดูฝนการคมนาคมอาจลำบาก ควรเผื่อเวลา ตรวจสภาพรถ และขับด้วยความระมัดระวัง
 
ชื่อสถานที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ
ที่ตั้ง โซนอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ (เส้นทางเข้าทางสามแยกบ้านแปะ–วัดตอง แล้วต่อไปบ้านขุนแปะ)
ลักษณะเด่น ศูนย์พัฒนาพื้นที่สูงของโครงการหลวง เน้นสร้างอาชีพทดแทนการปลูกฝิ่น–ไร่เลื่อนลอย ส่งเสริมพืชหลากหลายควบคู่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และพัฒนาเศรษฐกิจสังคม–วัฒนธรรมของชุมชน
สรุปโซน/แนวงานภายใน
โซนส่งเสริมไม้ผล: แนวงานเริ่มต้นของพื้นที่เพื่อสร้างรายได้ระยะกลาง–ยาว
โซนส่งเสริมผัก: เพิ่มความยืดหยุ่นรายได้ตามฤดูกาลและการบริโภคในครัวเรือน
โซนไม้ดอกไม้ประดับ: ทางเลือกอาชีพที่เหมาะกับพื้นที่สูงและตลาดเฉพาะ
โซนสมุนไพรและพืชไร่: ขยายทางเลือกการผลิตและการใช้ประโยชน์ในชุมชน
แนวงานพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรม: เสริมความเข้มแข็งชุมชนควบคู่การทำกิน
แนวงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ: ทำเกษตรให้สอดคล้องกับป่าต้นน้ำและลุ่มน้ำของพื้นที่
ยุคสมัย/ปีสำคัญ ก่อตั้งเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526
หลักฐาน/สิ่งสำคัญ พื้นที่รับผิดชอบ 28,765 ไร่ ครอบคลุม 4 หมู่บ้าน และมีครัวเรือนที่ได้รับการพัฒนาและส่งเสริม 466 ครัวเรือน (ตามข้อมูลที่ให้มา)
ที่มาชื่อ ตั้งชื่อตามพื้นที่ชุมชน “ขุนแปะ” และบทบาทการเป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงในพื้นที่
การเดินทาง เชียงใหม่ → ทางหลวง 108 (เชียงใหม่–ฮอด) → กม. 82–83 สามแยกไปบ้านแปะและวัดตอง เลี้ยวขวา → ผ่านบ้านแปะ บ้านทุ่งพัฒนา บ้านบนนา → บ้านขุนแปะ ประมาณ 22 กม. ถึงที่ทำการศูนย์ (ฤดูฝนคมนาคมอาจลำบาก)
สถานะปัจจุบัน เป็นพื้นที่ทำงานจริงของศูนย์พัฒนา แนะนำตรวจเงื่อนไขการเข้าชม/ช่วงเวลารับนักท่องเที่ยวจากประกาศล่าสุดก่อนเดินทาง
เบอร์ติดต่อสถานที่ 098-008-8441, 095-450-6335
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง (ระยะทางโดยประมาณ) น้ำตกแม่เตี๊ยะ (โซนบ้านแม่เตี๊ยะ) ~20–45 กม.; วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ~35–60 กม.; น้ำตกแม่กลาง (ทางขึ้นดอยอินทนนท์) ~45–75 กม.; พระมหาธาตุนภเมทนีดล–นภพลภูมิสิริ ~60–90 กม.; จุดสูงสุดดอยอินทนนท์ ~65–95 กม.
ร้านอาหารยอดนิยมใกล้เคียง (ระยะทางโดยประมาณ) Khunpae Coffee (โซนขุนแปะ) ~0–5 กม. โทร 087-710-0263; จุดขายอาหาร/ของกินพื้นถิ่นในหมู่บ้านขุนแปะ (ตามฤดูกาล) ~0–5 กม. (แนะนำสอบถามหน้างาน); ร้านก๋วยเตี๋ยวแม่พร (โซนจอมทอง/เส้นทางผ่าน) ~35–60 กม. โทร 081-009-1099; ครัวลาบจ่ากร (เส้น 108 โซนอำเภอฮอด) ~60–90 กม. โทร 087-184-9644, 089-956-9871; ครัวแต้ม-ตาล (หน้าอุทยานออบหลวง เส้น 108) ~70–100 กม. โทร 086-192-4240
ที่พักยอดนิยมใกล้เคียง (ระยะทางโดยประมาณ) บ้านไร่ไฮเดรนเยียภูตะวัน (ขุนแปะ) ~0–5 กม. โทร 091-076-9824; ขุนแปะกระท่อมวิวดอย บลาเอะโจ๊ะ (ขุนแปะ) ~0–5 กม. โทร 065-965-1299, 086-442-2794; ไร่ภูเลวาโฮมสเตย์ (ขุนแปะ) ~0–5 กม. โทร 093-254-2867; ขุนแปะกระท่อมตะวัน ไรวินท์ (ขุนแปะ) ~0–5 กม. โทร 093-149-1269; บ้านไผ่โฮมสเตย์ (ขุนแปะ) ~0–5 กม. โทร 086-437-5679
สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่เรียนรู้/สาธิตตามภารกิจศูนย์ (สิ่งอำนวยความสะดวกอาจเปลี่ยนตามการใช้งานจริง) แนะนำสอบถามก่อนเดินทาง โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน
ค่าธรรมเนียม แนะนำตรวจประกาศล่าสุดก่อนเดินทาง
 
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะเหมาะกับใคร?
ตอบ: เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวเชียงใหม่แบบได้สาระจากงานพัฒนาจริง สนใจโครงการหลวง เกษตรบนพื้นที่สูง การอนุรักษ์ทรัพยากร หรืออยากเรียนรู้ว่าการสร้างอาชีพทดแทนฝิ่นและไร่เลื่อนลอยทำงานอย่างไรในชีวิตจริงของชุมชน
 
ถาม: จุดเด่นของขุนแปะคืออะไร?
ตอบ: จุดเด่นคือการพัฒนาพืชหลายกลุ่มตั้งแต่ไม้ผล ผัก ไม้ดอกไม้ประดับ สมุนไพร และพืชไร่ ควบคู่การพัฒนาเศรษฐกิจสังคม–วัฒนธรรม และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้เห็นระบบงานที่เชื่อมอาชีพกับป่าต้นน้ำ
 
ถาม: ไปช่วงไหนของปีจะเดินทางสะดวก?
ตอบ: โดยทั่วไปช่วงปลายฝน–ต้นหนาวมักเดินทางและเที่ยวสบายกว่า ส่วนฤดูฝนคมนาคมอาจลำบาก ควรเผื่อเวลา ตรวจสภาพรถ และติดตามประกาศสภาพเส้นทางก่อนออกเดินทาง
 
ถาม: ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนเข้าเยี่ยมชม?
ตอบ: แนะนำตรวจเงื่อนไขการเข้าชมหรือช่วงเวลารับนักท่องเที่ยวล่วงหน้า แต่งกายสุภาพ เดินตามแนวทางที่เจ้าหน้าที่หรือชุมชนแนะนำ และเคารพความเป็นพื้นที่ทำงานจริงของศูนย์และชุมชน
 
ถาม: การเดินทางไปขุนแปะไปทางไหน?
ตอบ: ใช้ทางหลวง 108 (เชียงใหม่–ฮอด) ถึงกม. 82–83 เลี้ยวขวาที่สามแยกไปบ้านแปะและวัดตอง แล้วขับต่อผ่านบ้านแปะ บ้านทุ่งพัฒนา บ้านบนนา ไปบ้านขุนแปะประมาณ 22 กิโลเมตร ช่วงฝนควรเพิ่มความระมัดระวัง
แผนที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ แผนที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ
โครงการหลวง กลุ่ม: โครงการหลวง
คำค้นคำค้น: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ โครงการหลวงขุนแปะ โครงการพระราชดำริเชียงใหม่ เที่ยวขุนแปะ บ้านขุนแปะ ที่เที่ยวจอมทอง เที่ยวเชียงใหม่สายธรรมชาติ ท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้โครงการหลวง เส้นทางเชียงใหม่ฮอด พื้นที่สูงเชียงใหม่
ปรับปรุงล่าสุดปรับปรุงล่าสุด: 1 ชั่วโมงที่แล้ว


แสดงความเห็น

แสดงความเห็น




คำค้น (ขั้นสูง)
   
Email :
  รหัสผ่าน :
  สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 

 

ภูมิภาค ภูมิภาคhttps://www.lovethailand.org/

https://www.lovethailand.org/อ.เมืองเชียงใหม่(191)

https://www.lovethailand.org/อ.จอมทอง(21)

https://www.lovethailand.org/อ.แม่แจ่ม(19)

https://www.lovethailand.org/อ.เชียงดาว(23)

https://www.lovethailand.org/อ.ดอยสะเก็ด(28)

https://www.lovethailand.org/อ.แม่แตง(43)

https://www.lovethailand.org/อ.แม่ริม(39)

https://www.lovethailand.org/อ.สะเมิง(12)

https://www.lovethailand.org/อ.ฝาง(28)

https://www.lovethailand.org/อ.แม่อาย(20)

https://www.lovethailand.org/อ.พร้าว(19)

https://www.lovethailand.org/อ.สันป่าตอง(7)

https://www.lovethailand.org/อ.สันกำแพง(16)

https://www.lovethailand.org/อ.สันทราย(8)

https://www.lovethailand.org/อ.หางดง(18)

https://www.lovethailand.org/อ.ฮอด(9)

https://www.lovethailand.org/อ.ดอยเต่า(3)

https://www.lovethailand.org/อ.อมก๋อย(16)

https://www.lovethailand.org/อ.สารภี(3)

https://www.lovethailand.org/อ.เวียงแหง(10)

https://www.lovethailand.org/อ.ไชยปราการ(6)

https://www.lovethailand.org/อ.แม่วาง(9)

https://www.lovethailand.org/อ.แม่ออน(13)

https://www.lovethailand.org/อ.ดอยหล่อ(4)

https://www.lovethailand.org/อ.กัลยาณิวัฒนา(3)