โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ดอยคำ

Rating: 4.4/5 (5 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: แนะนำติดต่อ/นัดหมายล่วงหน้าก่อนเดินทาง (เป็นพื้นที่ปฏิบัติงานตามพระราชดำริ และมีงานภาคสนามต่อเนื่อง)
เวลาเปิดทำการ: แนะนำไปช่วงกลางวัน 08.30–16.30 น. (เวลาอาจเปลี่ยนตามภารกิจพื้นที่/ฤดูกาล ควรตรวจสอบก่อนเดินทาง)
โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ดอยคำ เป็นปลายทางที่ทำให้คำว่า “ที่พักผ่อนเชียงใหม่” มีความหมายแบบคนละฟีลกับทริปคาเฟ่หรือจุดชมวิวทั่วไป เพราะแก่นของที่นี่ไม่ใช่การไปดูอะไรสวย ๆ แล้วกลับ แต่คือการเข้าไปเห็น “ระบบคิด” ของงานพัฒนาและอนุรักษ์ที่พยายามทำให้คนอยู่กับป่าได้จริง โดยไม่ทำร้ายป่า และไม่ปล่อยให้ความยากจนผลักคนกลับไปสู่ทางเลือกเดิม ๆ ที่ทำให้ป่าต้นน้ำเจ็บซ้ำ
พื้นที่โครงการตั้งอยู่ในตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในบริบทพื้นที่อนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และอยู่ในชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นพื้นที่อ่อนไหวต่อระบบนิเวศสูง ความหมายของสิ่งนี้คือ การพัฒนาใด ๆ ต้องเดินแบบระมัดระวังมากกว่าพื้นที่ทั่วไป เพราะถ้าพลาด ไม่ใช่แค่ป่าหาย แต่จะกระทบต้นน้ำ ลำห้วย ความชุ่มชื้นของผืนป่า และความมั่นคงน้ำของคนปลายน้ำไปทั้งระบบ
จุดเริ่มต้นที่เล่าแล้วเห็นภาพชัด คือการเสด็จทอดพระเนตรพื้นที่บริเวณดอยดำ ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2545 เวลา 16.20 น. และมีพระราชดำริให้จัดตั้งโครงการ “บ้านเล็กในป่าใหญ่” ขึ้น โดยมอบหมายแนวคิดสำคัญให้ชุมชนร่วมดูแลและปลูกฟื้นฟูป่าบริเวณใกล้เคียง พร้อมทั้งทำหน้าที่เฝ้าระวังชายแดนและร่วมป้องกันปัญหายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนไปพร้อมกัน นี่คือภาพ “ความมั่นคง” ที่ผูกกับ “ระบบนิเวศ” แบบที่ถ้าไม่ได้มายืนในพื้นที่จริง เรามักไม่ค่อยนึกถึงว่ามันเดินไปด้วยกันได้
แต่เพราะพื้นที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ และเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นสูง จึงมีข้อจำกัดด้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติ การขับเคลื่อนจึงต้องทำในลักษณะโครงการทดลองทางวิชาการเพื่อการบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติ และต้องให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการตามระเบียบ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหลายพื้นที่ตามพระราชดำริถึง “ไม่เปิดแบบสถานที่ท่องเที่ยว” และทำไมการติดต่อ/นัดหมายล่วงหน้าจึงสำคัญมาก เพราะมันเกี่ยวกับความปลอดภัย การจัดการพื้นที่ และการไม่รบกวนภารกิจภาคสนามของเจ้าหน้าที่กับชุมชน
แกนคิดของโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ถูกเล่าไว้แบบจำง่ายว่า หลัก “3 อ.” คือ “อิ่ม อุ่น และอุดมการณ์” ซึ่งถ้าแปลเป็นภาษาคนอ่านทริปคือ ทำให้คนมีอาหารและรายได้ที่พออยู่ได้จริง (อิ่ม) มีความมั่นคงและความปลอดภัยของชีวิต (อุ่น) และมีจิตสำนึกและแรงยึดโยงให้เลือกปกป้องผืนป่ามากกว่าทำร้ายมัน (อุดมการณ์) ความยากของงานพัฒนาไม่ใช่การพูดให้เพราะ แต่คือการทำให้ “ทั้ง 3 อ.” เกิดพร้อมกันในชีวิตจริงของคน 1 ครอบครัว และยังต้องเกิดต่อเนื่องจนกลายเป็นระบบของชุมชน ไม่ใช่แค่กิจกรรมชั่วคราว
หนึ่งในรายละเอียดที่ทำให้โครงการนี้ต่างจากการพัฒนาแบบ “แจกของแล้วจบ” คือการคัดเลือกราษฎรเข้าร่วมโครงการโดยตั้งเป้าให้เป็นครอบครัวยากจนที่ไม่มีที่ทำกิน ขยัน และไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จาก 4 ชนเผ่า ได้แก่ อาข่า ลีซอ มูเซอร์ และกะเหรี่ยง เผ่าละ 5 ครอบครัว รวม 20 ครอบครัว เมื่อคนที่เข้าร่วมคือ “คนจริง” ที่ต้องใช้ชีวิตจริงในพื้นที่จริง งานพัฒนาจึงต้องตอบโจทย์จริง ทั้งเรื่องอาหาร รายได้ การศึกษาลูกหลาน ความปลอดภัย และความสัมพันธ์กับรัฐและพื้นที่อนุรักษ์
อีกชิ้นที่มองข้ามไม่ได้คือ “บทบาทผู้พิทักษ์พื้นที่” ที่ชุมชนได้รับมอบหมายให้เป็นเสมือนยามเฝ้าระวังชายแดนและร่วมป้องกันยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน นี่ทำให้โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ไม่ได้เป็นแค่โครงการเกษตร แต่เป็นโครงสร้างทางสังคมที่ช่วยให้คนในพื้นที่รู้สึกว่าตัวเองมีศักดิ์ศรี มีหน้าที่ และมีคุณค่าต่อประเทศและต่อผืนป่าที่ตัวเองอยู่ด้วย เมื่อศักดิ์ศรีถูกยกระดับ ทางเลือกชีวิตก็มักเปลี่ยนตามไปด้วย
ถ้าพูดในมุม “นักท่องเที่ยวที่อยากเข้าใจ” คุณจะเริ่มเห็นภาพว่า ป่าไม่ได้อยู่โดด ๆ น้ำไม่ได้อยู่โดด ๆ และชุมชนก็ไม่ได้อยู่โดด ๆ ป่าอุดม น้ำถึงจะมั่นคง น้ำมั่นคง เกษตรถึงพอเดินได้ เกษตรเดินได้ รายได้ครัวเรือนถึงพออยู่ได้ และเมื่อรายได้พออยู่ได้ แรงกดดันที่จะขยายพื้นที่ทำกินเข้าไปในป่าก็ลดลง วงจรนี้คือสิ่งที่โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่พยายาม “ตัด” ไม่ใช่ด้วยคำสั่งห้ามอย่างเดียว แต่ด้วยการสร้างระบบที่ทำให้การรักษาป่าเป็นผลประโยชน์ร่วมของคนกับต้นน้ำ
การทำเกษตรในบริบทนี้จึงมักเป็นแนวทาง “หลังบ้าน” “สวนครัว” “ปลูกเพื่อกินและขายแบบพอดี” มากกว่าการทำเชิงเดี่ยวเพื่อปริมาณสูง เพราะพื้นที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์และพื้นที่สูงที่เปราะบางต่อการชะล้างพังทลายของดิน การปลูกพืชที่เหมาะกับร่มเงาป่า เช่น กาแฟ ชาเมี่ยง และการปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อการบริโภค เป็นแนวที่สอดคล้องกับการอยู่กับป่าแบบไม่หักธรรมชาติ และยังเชื่อมกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างเป็นรูปธรรม
ในชุดพระราชดำริที่ถูกบันทึกไว้ยังมีรายละเอียดน่าสนใจด้านการต่อยอดอาชีพ เช่น การขยายการเลี้ยงปลาและการมองหาชนิดปลาที่เลี้ยงได้ดีในอากาศหนาวและมีรสชาติดี เพื่อให้ชาวบ้านมีทางเลือกอาชีพเพิ่มขึ้น สิ่งนี้สะท้อนว่า โครงการไม่ได้หยุดอยู่แค่ “ปลูกพืช” แต่คิดเรื่องอาหาร โปรตีน รายได้ และความมั่นคงทางโภชนาการของครัวเรือนควบคู่กันไป
สิ่งที่ทำให้โครงการนี้เหมาะเป็น “ที่พักผ่อนเชียงใหม่” สำหรับบางคน คือความสงบแบบไม่ถูกจัดฉาก อำเภอเวียงแหงและตำบลเมืองแหงมีจังหวะชีวิตที่ช้ากว่าเมืองชัดเจน คุณจะรู้สึกถึงระยะห่างจากความวุ่นวาย และมีเวลาให้ตัวเองคิดมากขึ้น ทริปแบบนี้เหมาะกับคนที่อยากขับรถกินลม มองภูเขา ฟังเรื่องเล่าท้องถิ่น และสนใจพื้นที่พัฒนาจริง มากกว่าคนที่ต้องการกิจกรรมท่องเที่ยวแน่น ๆ แบบนาทีต่อนาที
แต่เพราะที่นี่เป็นพื้นที่งานภาคสนามและอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ ความ “พอดี” จึงเป็นมารยาทสำคัญ ตั้งแต่การติดต่อก่อนเข้าพื้นที่ การไม่เดินออกนอกเส้นทางหรือเข้าใกล้พื้นที่ทำงานโดยไม่จำเป็น การไม่ส่งเสียงดัง การจัดการขยะของตัวเอง และการไม่คาดหวังบริการแบบสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์ หากคุณวางใจว่ามาเพื่อเรียนรู้ คุณจะได้ประสบการณ์ที่ลึกกว่า และไม่ไปกระทบจังหวะทำงานของชุมชนกับเจ้าหน้าที่
ด้านการเดินทาง หากคุณขับรถส่วนตัว ให้เผื่อเวลาเสมอ เพราะเส้นทางในพื้นที่ภูเขามีโค้งและระดับความชันตามธรรมชาติ ช่วงหน้าฝนถนนอาจเปลี่ยนสภาพได้ การพกน้ำดื่ม ยาประจำตัว เสื้อกันฝนหรือเสื้อกันลม และเตรียมสัญญาณการสื่อสารให้พร้อมเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะหากเดินทางกันไม่มากและต้องการความอุ่นใจเรื่องความปลอดภัย
ถ้าคุณมองหา “เที่ยวภาคเหนือ” ที่ได้ทั้งธรรมชาติและความหมาย โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ดอยคำเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ทำให้เรากลับไปเห็นคำถามพื้นฐานว่า คนกับป่าจะอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนได้อย่างไร และคำตอบของที่นี่คือการจัดการชีวิตคนให้มั่นคงพอจนไม่ต้องแลกป่าด้วยความอยู่รอด พร้อมทั้งสร้างจิตสำนึกและบทบาทให้ชุมชนเป็นผู้พิทักษ์พื้นที่จริง ๆ ไม่ใช่ผู้ถูกควบคุมฝ่ายเดียว
การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางไปโซนอำเภอเชียงดาว แล้วต่อไปอำเภอเวียงแหง/ตำบลเมืองแหง (ควรเผื่อเวลาเดินทางเพราะมีช่วงทางเขาและโค้ง) หากตั้งใจเข้าไปในพื้นที่โครงการ แนะนำติดต่อ/นัดหมายล่วงหน้าเพื่อรับคำแนะนำเส้นทางล่าสุด จุดนัดหมาย และข้อควรปฏิบัติในพื้นที่อนุรักษ์
| ชื่อสถานที่ | โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ดอยคำ |
| ที่ตั้ง | ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ (อยู่ในบริบทพื้นที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง) |
| ลักษณะเด่น | โครงการตามพระราชดำริแนว “บ้านเล็กในป่าใหญ่” เพื่อให้คนอยู่กับป่าอย่างกลมกลืน ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ควบคู่ยกระดับคุณภาพชีวิตและความมั่นคงชายแดน โดยใช้หลัก 3 อ. คือ อิ่ม อุ่น และอุดมการณ์ |
| ยุคสมัย | ริเริ่มจากพระราชดำริเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2545 |
| หลักฐาน/ข้อมูลสำคัญ | พื้นที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังและเป็นลุ่มน้ำชั้นที่ 1–2 จึงมีข้อจำกัดด้านกฎหมาย ต้องดำเนินการในลักษณะโครงการทดลองทางวิชาการเพื่อการบำรุงรักษาอุทยานฯ และทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเป้าหมายคัดเลือกราษฎร 4 เผ่า รวม 20 ครอบครัวเข้าร่วม เพื่อดูแลฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ทำหน้าที่เฝ้าระวังชายแดนและร่วมป้องกันยาเสพติด |
| ที่มาของชื่อ | เป็นโครงการ “บ้านเล็กในป่าใหญ่” ตามพระราชดำริ ใช้ชื่อพื้นที่ “ดอยคำ” ตามการเรียกพื้นที่ท้องถิ่นในชุดข้อมูลที่ได้รับ |
| การเดินทาง | เชียงใหม่ → โซนอำเภอเชียงดาว → อำเภอเวียงแหง → ตำบลเมืองแหง (ควรเผื่อเวลาเพราะเป็นเส้นทางภูเขา และแนะนำติดต่อ/นัดหมายก่อนเข้าพื้นที่โครงการ) |
| สถานะปัจจุบัน | โครงการตามพระราชดำริในพื้นที่อนุรักษ์ แนะนำติดต่อ/นัดหมายล่วงหน้าก่อนเดินทาง |
| เบอร์โทรติดต่อ | ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ (เกษตรที่สูง) โทร 0-5328-2823 |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | พื้นที่เรียนรู้เชิงภาคสนาม (ตามภารกิจ/การอนุญาต), กิจกรรม/แปลงสาธิตด้านเกษตรและฟื้นฟูป่า (ขึ้นกับช่วงเวลา), จุดพักในชุมชนใกล้เคียง (ควรเตรียมของใช้จำเป็นไปเอง) |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง พร้อมระยะทาง | บ้านเปียงหลวง — ประมาณ 30–45 กม. (ขึ้นกับจุดเริ่มต้นในอำเภอเวียงแหง) พระธาตุแสนไห (อำเภอเวียงแหง) — ประมาณ 15–35 กม. หนองน้ำสาธารณะ/สวนสาธารณะโซนเวียงแหง — ประมาณ 10–30 กม. เส้นทางชมวิวดอยหลวงเชียงดาว/แนวทางหลวง 1322 — ประมาณ 50–85 กม. (ขึ้นกับจุดเริ่มต้นและเส้นทางที่ใช้จริง) อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง — ระยะทางโดยรวมขึ้นกับเส้นทางที่เลือก (ควรตรวจสอบเส้นทางและฤดูกาลก่อนเดินทาง) |
| ร้านอาหารยอดนิยมใกล้เคียง | ร้านฅนเมืองแหง — ประมาณ 10–30 กม. — โทร 097-967-8431 ม่อนล้านช้าง (เวียงแหง) — ประมาณ 10–30 กม. — โทร 097-918-0175 ร้านลาบขั้นเทพ (บ้านจอง/เปียงหลวง) — ประมาณ 30–45 กม. — โทร 087-176-7657 โรงอาหาร FoodFactory (เวียงแหง) — ประมาณ 10–30 กม. — โทร 063-228-2202 ค๊อฟฟี่ทาว์นเวียงแหง (Coffee Town Wiang Haeng) — ประมาณ 10–30 กม. — โทร 090-891-8392 |
| ที่พักยอดนิยมใกล้เคียง | เมืองแหงรีสอร์ท & สปา — ประมาณ 10–30 กม. — โทร 053-477-185 ห้องพักเชียงตุง (เวียงแหง) — ประมาณ 10–30 กม. — โทร 053-477-251 ห้องพักเชียงตุง (เบอร์สำรอง) — ประมาณ 10–30 กม. — โทร 089-835-4932 คุ้มเวียงแหง — ประมาณ 10–30 กม. — โทร 0-5347-7177 ห้องพักเบญจพร (โซนเวียงแหง) — ประมาณ 10–30 กม. — โทร 08-9855-4275 |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ดอยคำเหมาะกับใคร?
ตอบ: เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวภาคเหนือแบบสงบ ๆ และอยากเห็นงานพัฒนาตามพระราชดำริที่เชื่อม “ป่า–น้ำ–อาชีพ–ความมั่นคงชุมชน” แบบจับต้องได้ มากกว่าทริปเช็กอินถ่ายรูปอย่างเดียว
ถาม: ทำไมต้องนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้าไป?
ตอบ: เพราะพื้นที่อยู่ในบริบทพื้นที่อนุรักษ์และเป็นงานภาคสนามต่อเนื่อง การนัดหมายช่วยให้รู้จุดนัดพบ เส้นทางล่าสุด และข้อควรปฏิบัติในพื้นที่ รวมถึงไม่รบกวนภารกิจของเจ้าหน้าที่และชุมชน
ถาม: หลัก 3 อ. (อิ่ม อุ่น อุดมการณ์) หมายถึงอะไร?
ตอบ: คือแนวคิดให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตพอมีพอกิน (อิ่ม) มีความมั่นคงและปลอดภัย (อุ่น) และมีจิตสำนึก/แรงยึดโยงที่จะเลือกดูแลป่าและบ้านของตัวเองอย่างต่อเนื่อง (อุดมการณ์)
ถาม: ไปช่วงไหนดีที่สุด?
ตอบ: ถ้าเน้นขับรถสบายและอากาศดี มักเหมาะช่วงปลายฝนต้นหนาวถึงฤดูหนาว แต่ควรเช็กสภาพอากาศและสภาพทางก่อนเดินทางทุกครั้ง เพราะเส้นทางภูเขาอาจเปลี่ยนตามฤดูกาล
ถาม: ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลติดต่อที่ไหน?
ตอบ: สามารถสอบถามผ่านศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ (เกษตรที่สูง) โทร 0-5328-2823 แล้วแจ้งความประสงค์เกี่ยวกับโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่โซนเวียงแหง/เมืองแหง
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|







หมวดหมู่:
กลุ่ม: