ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ

Rating: 3.5/5 (4 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: แนะนำติดต่อ/นัดหมายล่วงหน้าก่อนเดินทาง (เป็นพื้นที่ปฏิบัติงานของมูลนิธิโครงการหลวง)
เวลาเปิดทำการ: แนะนำ 08.30–16.30 น. (เวลาอาจเปลี่ยนตามภารกิจพื้นที่/ฤดูกาล ควรตรวจสอบก่อนเดินทาง)
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ เป็นปลายทางที่เหมาะกับคนที่อยากได้ “ที่พักผ่อนเชียงใหม่” แบบสงบจริง ๆ และอยากเห็นภาพการพัฒนาพื้นที่สูงในชีวิตจริงมากกว่าการไปเช็กอินสถานที่ดัง เพราะแก่นของแม่โถไม่ใช่ฉากท่องเที่ยว แต่คือพื้นที่ทำงานของโครงการหลวงและโครงการพระราชดำริที่ตั้งใจสร้างทางเลือกอาชีพให้ชุมชน ลดแรงกดดันต่อป่าและต้นน้ำ และค่อย ๆ ทำให้การอยู่บนภูเขากลายเป็นการอยู่ได้อย่างมั่นคงขึ้นในระยะยาว
บริบทเดิมของพื้นที่บ้านแม่โถเคยสะท้อนปัญหาคลาสสิกของพื้นที่สูง คือชุมชนม้งและกะเหรี่ยงจำนวนหนึ่งเคยพึ่งพาการปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย ทั้งด้วยข้อจำกัดทางเศรษฐกิจและทางเลือกอาชีพที่มีไม่มาก เมื่อความยากจนบีบให้ต้องเร่งผลผลิต ป่าและดินก็กลายเป็นต้นทุนที่ถูกใช้หนักเกินไปโดยไม่ตั้งใจ การตั้งศูนย์ฯ ในปี พ.ศ. 2539 จึงถูกวางเป็นหมุดหมายของ “เกษตรทดแทน” ที่ช่วยให้คนมีรายได้โดยไม่ต้องแลกกับการทำลายทรัพยากร รวมถึงแนวทางลดการใช้สารเคมีในพืชเศรษฐกิจอย่างกะหล่ำปลี เพื่อให้ระบบอาหารและสุขภาพของคนในพื้นที่ดีขึ้นควบคู่กัน
ลักษณะพื้นที่ของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถเป็นภูเขาสลับซับซ้อนทอดยาวตามแนวเหนือ–ใต้ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลโดยประมาณ 800–1,200 เมตร ทำให้อากาศโดยรวมเย็นสบายกว่าพื้นราบ และมีการอ้างถึงอุณหภูมิเฉลี่ยราว 19.5 องศาเซลเซียส พื้นที่รับผิดชอบประมาณ 85.49 ตารางกิโลเมตร (ราว 53,433.59 ไร่) ครอบคลุมชุมชนรวม 4 หมู่บ้านในอำเภอฮอดและอำเภอแม่แจ่ม มีครัวเรือนโดยประมาณ 792 ครัวเรือน ซึ่งภาพรวมนี้ช่วยให้เราเข้าใจว่า “ศูนย์ฯ” คือพื้นที่ทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการจัดการทรัพยากร มากกว่าการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกออกแบบมาเพื่อบริการนักเดินทางเป็นหลัก
ถ้าคุณมองแม่โถในฐานะทริปท่องเที่ยวเชิงเกษตร จุดที่สนุกคือการได้เดินดู “ระบบปลูกจริง” ที่โยงกับรายได้ของเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นแปลงส่งเสริมผักอย่างกะหล่ำปลี ผักกาดหวาน เบบี้ฮ่องเต้ คอสสลัด เรดโครอล โอ๊คลีฟแดง ผักโขมแดง และอีกหลายชนิด รวมถึงการเห็นการปลูกผักในโรงเรือนไม้ไผ่ที่ช่วยให้การจัดการแปลงเป็นระบบขึ้นและลดความเสี่ยงจากอากาศแปรปรวน นอกจากนี้ยังมีแปลงส่งเสริมไม้ผล เช่น อะโวกาโด พลับ แบล็คมัลเบอร์รี่ เคปกูสเบอร์รี่ และแปลงดอกอัสสโตรมีเรียที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายของรายได้ในพื้นที่สูง
มิติทางวัฒนธรรมของแม่โถก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้การมาเยือน “มีความหมาย” มากขึ้น เพราะพื้นที่นี้มีทั้งชุมชนม้งและชุมชนกะเหรี่ยง (ปกาเกอญอ) ซึ่งต่างมีจังหวะชีวิตและประเพณีของตัวเอง ช่วงที่ถูกพูดถึงเด่นคือ “ปีใหม่ม้ง (กินวอ)” มักอยู่ราวเดือนมกราคม ที่ผู้คนจะแต่งกายด้วยชุดประจำเผ่าและมีกิจกรรมชุมชนที่คึกคักในแบบของตนเอง อีกช่วงคือ “ประเพณีกินข้าวใหม่” ของชาวปกาเกอญอ ซึ่งมักอยู่ราวเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน หลังการเก็บเกี่ยว เพื่อขอบคุณธรรมชาติและยืนยันความผูกพันกับข้าวในฐานะฐานชีวิตของชุมชน การไปช่วงเทศกาลจะได้เห็นภาพความเป็น “ชุมชนที่ยังมีชีวิต” แต่ก็ควรไปด้วยท่าทีที่เคารพพื้นที่ ขออนุญาตก่อนถ่ายภาพ และไม่รบกวนพิธีกรรม
ทางธรรมชาติ แม่โถมีจุดชมวิวและเส้นทางที่ชวนให้ “หยุดหายใจลึก ๆ” โดยเฉพาะจุดชมทิวทัศน์ดอยแม่โถบริเวณอุทยานแห่งชาติแม่โถ ที่ช่วงฤดูหนาวยามเช้ามักมีทะเลหมอกให้เห็นไกลออกไปเป็นแนวภูเขาและผืนป่า นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิว “ผาบ่อเหล็ก” ซึ่งเป็นหน้าผาสูงประมาณ 50 เมตร และมีการอ้างถึงระยะห่างจากศูนย์ฯ ราว 3–4 กิโลเมตร รวมถึงน้ำตกแม่ลิด (กว้างประมาณ 12–15 เมตร) และน้ำตกแม่แอบ (กว้างประมาณ 10–12 เมตร) ที่ช่วยเติมมิติ “เที่ยวธรรมชาติ” ให้ทริปนี้ครบขึ้นในวันเดียว
เรื่องของฝากของที่ระลึก แม่โถเหมาะกับคนที่ชอบซื้อของแบบ “รู้ที่มา” เพราะนอกจากผลผลิตเกษตรตามฤดูกาลแล้ว ยังมีงานหัตถกรรมชาวเขา เช่น ผ้าปัก ผ้าทอ และของทำมืออื่น ๆ ที่สะท้อนทักษะและอัตลักษณ์ของชุมชน การอุดหนุนอย่างพอดีและให้เกียรติงานฝีมือ คือวิธีที่ช่วยให้การท่องเที่ยวกลายเป็นแรงหนุนทางเศรษฐกิจของพื้นที่โดยตรง
ด้านที่พัก มีข้อมูลว่าศูนย์ฯ มีบ้านพักรับรองจำนวน 1 หลัง (2 ห้อง ห้องละประมาณ 4 คน) และมีพื้นที่กางเต็นท์ ส่วนฝั่งอุทยานแห่งชาติแม่โถมีบ้านพักรับรองหลายหลัง (รองรับรวมประมาณ 40 คน) และพื้นที่กางเต็นท์รองรับได้จำนวนมาก (มีการอ้างถึงราว 50 หลัง) ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากค้างคืนเพื่อรอดูหมอกตอนเช้า ส่วนอาหาร ภายในศูนย์ฯ ไม่มีร้านอาหารแบบเปิดบริการทั่วไป แต่มีรูปแบบ “จัดทำอาหารตามตกลง” และควรติดต่อล่วงหน้าก่อนเข้าพัก ขณะเดียวกันในหมู่บ้านใกล้เคียงอาจมีร้านอาหารชุมชนที่ให้บริการ เมนูที่มักถูกพูดถึงในโซนนี้ เช่น แกงหน่อไม้ และน้ำพริกแกล้มผักโครงการหลวง ซึ่งเข้ากับบรรยากาศพื้นที่สูงแบบเรียบง่ายแต่จริงใจ
การเดินทาง หากขับจากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่–ฮอด) ประมาณ 88–89 กิโลเมตร ถึงอำเภอฮอด จากนั้นไปต่อบนเส้นฮอด–แม่สะเรียง (108) อีกประมาณ 54–55 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาที่แยกบ้านกองลอย มุ่งหน้าไปบ้านแม่โถตามทางหลวง 1270 (กองลอย–แม่โถ) ระยะทางช่วงนี้ราว 16 กิโลเมตร โดยมีการระบุว่าเป็นถนนลูกรังและหน้าฝนอาจลำบาก แนะนำรถสภาพพร้อม ขับช้า ๆ เผื่อเวลา และถ้าไปช่วงฝนจัด รถ 4WD จะอุ่นใจกว่า
โดยรวมแล้ว ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ เหมาะกับคนที่อยากพักแบบสงบ แต่ไม่อยากให้ทริป “ว่างเปล่า” เพราะที่นี่ให้ทั้งมุมเรียนรู้เรื่องเกษตรบนพื้นที่สูง มุมวัฒนธรรมชุมชนม้ง–ปกาเกอญอ และมุมธรรมชาติอย่างวิวภูเขา หมอก น้ำตก และหน้าผา ที่สำคัญคือไปด้วยใจที่เคารพพื้นที่ แล้วคุณจะรู้สึกว่าทริปนี้ไม่ได้แค่พาไปเที่ยว แต่พาไปเข้าใจชีวิตบนภูเขาให้ลึกขึ้นอีกนิด
| ชื่อสถานที่ | ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ |
| ที่ตั้ง | พื้นที่บ้านแม่โถ (โซนอำเภอฮอด/อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่) |
| ลักษณะเด่น | ศูนย์โครงการหลวงบนพื้นที่สูง เน้นส่งเสริมเกษตรทดแทนและลดสารเคมี มีแปลงผัก–ไม้ผล–ดอกไม้ มีกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมชุมชนม้งและปกาเกอญอ และใกล้แหล่งธรรมชาติในเขตอุทยานฯ |
| ยุคสมัย | ก่อตั้งศูนย์ฯ ปี พ.ศ. 2539 |
| หลักฐาน/ข้อมูลสำคัญ | ความสูงโดยประมาณ 800–1,200 ม.; พื้นที่รับผิดชอบประมาณ 85.49 ตร.กม. (53,433.59 ไร่); ครอบคลุม 4 หมู่บ้าน; ประมาณ 792 ครัวเรือน; อุณหภูมิเฉลี่ยราว 19.5°C |
| ที่มาของชื่อ | ใช้ชื่อ “แม่โถ” ตามชื่อพื้นที่/ชุมชนท้องถิ่นที่เป็นที่ตั้งของศูนย์ฯ |
| การเดินทาง | เชียงใหม่ → 108 ไปฮอด ~88–89 กม. → 108 (ฮอด–แม่สะเรียง) อีก ~54–55 กม. → แยกบ้านกองลอย → 1270 (กองลอย–แม่โถ) ~16 กม. (หน้าฝนแนะนำ 4WD/เผื่อเวลา) |
| สถานะปัจจุบัน | ศูนย์พัฒนาและแหล่งเรียนรู้ของมูลนิธิโครงการหลวง (แนะนำติดต่อก่อนเดินทาง) |
| เบอร์โทรติดต่อ | 085 623 3295 |
| ประเพณี/พิธีกรรมประจำพื้นที่ | ปีใหม่ม้ง (กินวอ) — โดยมากช่วงเดือนมกราคม ประเพณีกินข้าวใหม่ของชาวปกาเกอญอ — โดยมากช่วงเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง พร้อมระยะทาง | จุดชมวิวผาบ่อเหล็ก — ประมาณ 3–4 กม. (อ้างอิงข้อมูลในพื้นที่) อุทยานแห่งชาติแม่โถ (จุดชมวิวดอยแม่โถ/ทะเลหมอก) — อยู่ในโซนเดียวกัน (ระยะทางขึ้นกับจุดพักและเส้นทางภายใน) น้ำตกแม่ลิด — โซนท่องเที่ยวธรรมชาติในพื้นที่แม่โถ (ระยะทางขึ้นกับเส้นทางภายใน) น้ำตกแม่แอบ — โซนท่องเที่ยวธรรมชาติในพื้นที่แม่โถ (ระยะทางขึ้นกับเส้นทางภายใน) ทางเข้าอุทยานแห่งชาติแม่โถจากแยกบ้านกองลอย — ประมาณ 13 กม. (ใช้วางแผนเส้นทาง) |
| ร้านอาหารใกล้เคียง | แนะนำสอบถามศูนย์ฯ/ที่พักในพื้นที่ก่อนเดินทาง |
| ที่พักใกล้เคียง | บ้านพักรับรองภายในศูนย์ฯ — (ติดต่อศูนย์ฯ: 085 623 3295) บ้านพักรับรองอุทยานแห่งชาติแม่โถ + ลานกางเต็นท์ — (ติดต่อสอบถามก่อนเข้าพัก) |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | แปลงส่งเสริม/แปลงสาธิตเกษตร, โรงเรือนไม้ไผ่ (ตามการจัดการพื้นที่), บ้านพักรับรองศูนย์ฯ (จำกัด), พื้นที่กางเต็นท์, โซนบ้านพัก–ลานกางเต็นท์ในอุทยานฯ |
| ค่าใช้จ่าย | — (ค่าที่พัก/เงื่อนไขกิจกรรม/การเข้าพื้นที่อาจเปลี่ยนได้ แนะนำยืนยันกับศูนย์ฯ และ/หรืออุทยานฯ ก่อนเดินทาง) |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถเหมาะกับใคร?
ตอบ: เหมาะกับคนที่อยากพักแบบสงบ ชอบเที่ยวเชิงเรียนรู้ ดูแปลงเกษตรพื้นที่สูง และอยากสัมผัสธรรมชาติแถวอุทยานฯ แบบไม่เร่งรีบ
ถาม: ช่วงไหนมีโอกาสเห็นทะเลหมอกสวยที่สุด?
ตอบ: โดยมากช่วงฤดูหนาวตอนเช้าเหมาะกับการลุ้นทะเลหมอก (ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพอากาศรายวัน ควรเช็กพยากรณ์ก่อนออกเดินทาง)
ถาม: แม่โถมีประเพณีชุมชนอะไรน่าสนใจ?
ตอบ: มีปีใหม่ม้ง (กินวอ) ที่มักอยู่ช่วงเดือนมกราคม และประเพณีกินข้าวใหม่ของชาวปกาเกอญอที่มักอยู่ช่วงเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน วันจัดจริงอาจต่างกันในแต่ละปี แนะนำสอบถามศูนย์ฯ/ชุมชนล่วงหน้า
ถาม: ถ้าอยากเห็นแปลงเกษตร ควรโฟกัสอะไรเป็นพิเศษ?
ตอบ: จุดเด่นคือผักเมืองหนาวหลายชนิด การปลูกในโรงเรือนไม้ไผ่ และไม้ผลอย่างอะโวกาโด–พลับ รวมถึงแปลงดอกอัสสโตรมีเรีย (ขึ้นกับฤดูกาลและแผนงานส่งเสริม)
ถาม: ถนนไปแม่โถขับยากไหม ต้องใช้รถแบบไหน?
ตอบ: เส้นหลักไปได้ แต่ช่วงเข้า 1270 มีช่วงลูกรัง และหน้าฝนอาจลื่น/ขรุขระ แนะนำรถสภาพพร้อม ขับช้า ๆ เผื่อเวลา และถ้าฝนหนัก รถ 4WD จะอุ่นใจกว่า
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|







หมวดหมู่:
กลุ่ม: