อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย

Rating: 4/5 (34 votes)

วันเปิดทำการ: ทุกวัน

เวลาเปิดทำการ: 05.00–21.00 น.

 

อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เที่ยวเชียงใหม่ เที่ยวภาคเหนือ ตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ ก่อนถึงน้ำตกห้วยแก้ว และเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางขึ้นดอยสุเทพที่หลายคนคุ้นตา ผู้ที่จะขึ้นไปดอยสุเทพมักจะแวะนมัสการอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยเพื่อความเป็นสิริมงคล เปรียบเสมือนประตูแห่งศรัทธาก่อนเริ่มต้นการเดินทางขึ้นสู่ยอดดอยอันศักดิ์สิทธิ์

 

ครูบาศรีวิชัย ได้รับการยกย่องให้เป็นนักบุญแห่งล้านนาไทย ท่านเป็นพระเถระผู้มีเมตตา เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และอุทิศตนเพื่อการบูรณะวัดวาอารามในภาคเหนือจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นลำพูน ลำปาง หรือเชียงใหม่ ชื่อของท่านจึงผูกโยงอย่างลึกซึ้งกับประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่และดอยสุเทพ ทั้งในฐานะผู้นำทางจิตวิญญาณ และผู้ลงมือทำเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง

 

บทบาทสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของครูบาศรีวิชัย คือการเป็นผู้ริเริ่มชักชวนให้ประชาชนชาวเหนือร่วมแรงร่วมใจกันสร้างถนนจากเชิงดอยขึ้นไปสู่วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ เดิมทีการขึ้นดอยสุเทพต้องเดินเท้าลัดเลาะป่าเขา ใช้เวลานานและค่อนข้างลำบาก แต่ด้วยแรงศรัทธาของผู้คนที่ต้องการขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุ ทำให้ครูบาศรีวิชัยตัดสินใจลุกขึ้นมาระดมผู้คนเพื่อสร้างเส้นทางสายใหม่นี้

 

ถนนสายดอยสุเทพเริ่มลงมือก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2477 โดยใช้แรงงานชาวบ้านที่มาจากหลายพื้นที่ ต่างพร้อมใจมาช่วยกันถากถางทาง แบกหิน หาบดิน และทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทุกคนเชื่อว่าการได้ร่วมสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพเป็นบุญใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิต ถนนสายนี้แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2478 รวมระยะทางจากเชิงดอยไปถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพประมาณ 10 กิโลเมตร และยังคงใช้งานมาจนถึงทุกวันนี้

 

ทุกครั้งที่รถแล่นผ่านโค้งถนนขึ้นดอยสุเทพ จึงไม่ใช่แค่การเดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เป็นการเดินทางบนเส้นทางแห่งศรัทธาที่ชาวบ้านในอดีตร่วมกันสร้างขึ้นด้วยมือของตนเอง การมายืนอยู่ที่ลานครูบาศรีวิชัยเชิงดอย แล้วมองถนนที่ทอดตัวคดเคี้ยวขึ้นไปบนภูเขา จึงทำให้เราย้อนนึกถึงเรื่องราวของความสามัคคีและพลังศรัทธาของผู้คนเมื่อเกือบหนึ่งศตวรรษก่อน

 

บรรยากาศที่ลานครูบาศรีวิชัยในยามเช้าจะมีเสน่ห์เป็นพิเศษ เพราะทุกเช้าจะมีพระภิกษุและสามเณรจากวัดศรีโสดาจำนวนมากเดินลงมารับบิณฑบาตตามเส้นทางถนนศรีวิชัย ภาพพระนับร้อยรูปเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบทำให้ลานแห่งนี้เต็มไปด้วยความสงบและความศรัทธา ผู้คนที่ตั้งใจมาตักบาตรยามเช้าจึงมักเลือกมาทำบุญที่นี่เพื่อเริ่มต้นวันใหม่อย่างเป็นสิริมงคล

 

แม้ผู้มาเยือนจะไม่ได้เตรียมอาหารสำหรับใส่บาตรมาด้วย ก็ยังสามารถทำบุญได้อย่างสะดวกสบาย เพราะบริเวณลานมีพ่อค้าแม่ค้าท้องถิ่นเตรียมชุดตักบาตรไว้พร้อม ทั้งข้าวสวย อาหารคาวหวาน ผลไม้ และน้ำดื่ม ผู้แสวงบุญเพียงเลือกชุดใส่บาตรตามกำลังศรัทธาแล้วรอพระสงฆ์เดินผ่าน ก็สามารถร่วมบุญได้ทันที สิ่งที่ควรใส่ใจคือการแต่งกายสุภาพ ทั้งชายและหญิงเพื่อความเหมาะสมกับสถานที่อันเป็นศาสนสถาน

 

ในช่วงสายและบ่าย ลานครูบาศรีวิชัยจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่แวะมานมัสการขอพร หลายคนมาพร้อมครอบครัว บางคนมากับกลุ่มเพื่อน หรือมากับทัวร์ แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือความรู้สึกเคารพและศรัทธาในตัวครูบาศรีวิชัย ผู้คนมักขอพรเรื่องการเดินทางปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง การงานราบรื่น และขอให้ครอบครัวมีความสุขร่มเย็น

 

ชาวเชียงใหม่จำนวนไม่น้อยเชื่อว่า การได้มากราบสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยที่เชิงดอย เปรียบเสมือนได้สักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพในอีกแง่หนึ่ง เพราะหากไม่มีท่าน ถนนขึ้นดอยสุเทพสายนี้อาจไม่เกิดขึ้น หรืออย่างน้อยก็ไม่สะดวกสบายเช่นทุกวันนี้ หลายคนจึงเลือกร่วมทำบุญที่ลานแห่งนี้ทุกครั้งที่มีโอกาสขึ้นดอยสุเทพ ไม่ว่าจะมากี่ครั้ง ความรู้สึกอิ่มเอมใจก็ไม่เคยลดลง

 

ในมุมของประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ ครูบาศรีวิชัยยังมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูวัดวาอารามและโบราณสถานต่าง ๆ ที่ทรุดโทรมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่านชักชวนชาวบ้านให้มาร่วมบุญ ทำให้วัดมิใช่เพียงสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจและพื้นที่ของชุมชน การทำงานของท่านจึงเป็นทั้งการรักษาศรัทธาและการพัฒนาสังคมไปพร้อมกัน

 

ทุกวันนี้แม้กาลเวลาจะผ่านไป แต่ชื่อของครูบาศรีวิชัยยังคงถูกเอ่ยถึงเสมอ ทั้งในบทสนทนาของคนท้องถิ่น เรื่องเล่าจากไกด์ทัวร์ หรือป้ายข้อมูลตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยที่เชิงดอยสุเทพจึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์เตือนใจให้คนรุ่นหลังระลึกถึงคุณูปการของท่าน ไม่ใช่เพียงในฐานะนักบุญ หากแต่เป็นผู้นำชุมชนที่ลงมือทำจริง

 

ในยามเย็น แสงแดดที่ค่อย ๆ อ่อนตัวลงบนยอดเขาและป่าไม้โดยรอบ ทำให้ลานครูบาศรีวิชัยดูสงบและงดงามเป็นพิเศษ หลายคนเลือกเวลานี้เพื่อมานั่งพัก มองผู้คน สวดมนต์ หรือถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำ อากาศเย็นสบายและวิวทิวเขาทำให้ที่นี่เป็นจุดพักใจเล็ก ๆ ก่อนจะลงจากดอยหรือกลับเข้าสู่ความวุ่นวายในตัวเมืองอีกครั้ง

 

การเดินทาง ไปยังอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยสามารถทำได้อย่างสะดวก จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาประมาณ 10–15 นาที โดยขับรถมาตามถนนห้วยแก้ว มุ่งหน้าขึ้นดอยสุเทพ ผ่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และสวนสัตว์เชียงใหม่ เมื่อขับเลยทางเข้าสวนสัตว์มาเล็กน้อยจะเห็นลานจอดรถและทางขึ้นอนุสาวรีย์อยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงน้ำตกห้วยแก้ว เส้นทางเป็นถนนลาดยางตลอดสาย ขับง่าย เหมาะทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์

 

หากไม่สะดวกใช้รถส่วนตัว สามารถใช้บริการรถสองแถวสีแดงได้ง่าย เพียงบอกจุดหมายว่า “ลานครูบาศรีวิชัย ทางขึ้นดอยสุเทพ” คนขับส่วนใหญ่รู้จักดี เพราะเป็นจุดผ่านหลักก่อนขึ้นดอยสุเทพอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวที่วางแผนจะขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพต่อสามารถตกลงกับคนขับเพื่อให้ไปรับหรือรอระหว่างแวะสักการะที่ลานได้เช่นกัน ทำให้การเที่ยวในหนึ่งวันทั้งลานครูบาศรีวิชัย น้ำตกห้วยแก้ว สวนสัตว์เชียงใหม่ และวัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นเรื่องที่จัดทริปได้ไม่ยาก

 

 

ตอบ: อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ ถนนศรีวิชัย ก่อนถึงน้ำตกห้วยแก้วและสวนสัตว์เชียงใหม่ จากตัวเมืองใช้ถนนห้วยแก้วมุ่งหน้าดอยสุเทพประมาณ 10–15 นาที ก็จะถึงลานจอดรถและบันไดทางขึ้นอนุสาวรีย์ทางซ้ายมือ

 

ตอบ: แนะนำให้ไปช่วงเช้าตรู่ประมาณ 06.00–07.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่พระภิกษุและสามเณรจากวัดศรีโสดาเดินลงมารับบิณฑบาต หากไม่ได้เตรียมของใส่บาตรมาด้วยก็สามารถซื้อชุดตักบาตรจากร้านค้าบริเวณลานได้ตามกำลังศรัทธา

 

ตอบ: ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย กางเกงหรือกระโปรงควรยาวคลุมเข่า เสื้อไม่รัดรูปหรือเปิดไหล่มากเกินไป หากตั้งใจไปใส่บาตรยามเช้า แนะนำให้สวมรองเท้าที่ถอดสะดวก และเตรียมเสื้อกันหนาวบาง ๆ ในช่วงหน้าหนาว เพราะอากาศยามเช้าที่เชิงดอยจะค่อนข้างเย็นสบาย

 

ตอบ: หลังสักการะครูบาศรีวิชัยแล้ว สามารถต่อทริปไปเที่ยวน้ำตกห้วยแก้ว ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล รวมถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ อ่างแก้วภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือจะขับรถขึ้นดอยต่อไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพก็สะดวก เหมาะกับการจัดเป็นทริปครึ่งวันหรือหนึ่งวันเต็มในโซนดอยสุเทพ