บ้านปงไคร้

Rating: 2.7/5 (14 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน (แนะนำติดต่อชุมชนล่วงหน้า หากต้องการกิจกรรมเรียนรู้/นำทาง และตรวจสอบสภาพอากาศช่วงฤดูฝน)
เวลาเปิดทำการ: แนะนำ 08.00–17.00 น. (เหมาะกับการเดินชมพื้นที่ชุมชน/ธรรมชาติ และกลับลงก่อนฝนหรือหมอกลงจัด)
บ้านปงไคร้ คือหมู่บ้านเล็ก ๆ ในโซนบ้านผานกก ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่คนรักธรรมชาติจะรู้สึก “สบายใจ” ตั้งแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เพราะบรรยากาศของพื้นที่ต้นน้ำมันบอกเองว่า ที่นี่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเร่งรีบ บ้านปงไคร้ถูกพูดถึงในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ยังคงความสงบ เรียบง่าย และมีจุดแข็งสำคัญคือการเป็นชุมชนที่พยายามดูแลป่าต้นน้ำร่วมกันอย่างจริงจัง โดยมีเรื่องเล่าเรื่องทำงานของคนในพื้นที่พาให้เราเห็นว่า ธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่มาจากการ “ตกลงร่วมกัน” ของผู้คนทั้งหมู่บ้าน
ความพิเศษของบ้านปงไคร้ไม่ได้อยู่ที่การมีสิ่งก่อสร้างอลังการหรือกิจกรรมแน่นตลอดวัน แต่อยู่ที่จังหวะของการท่องเที่ยวแบบฟังป่า ฟังน้ำ และฟังความตั้งใจของชุมชน ถ้าคุณชอบพื้นที่เขียว ๆ อากาศเย็นชื้นตามฤดูกาล ชอบมองรายละเอียดเล็ก ๆ ของพรรณไม้ หรืออยากพาครอบครัวมารู้จักคำว่า “ป่าต้นน้ำ” แบบไม่ต้องเทศน์ยาว บ้านปงไคร้เป็นปลายทางที่พอดี เพราะมันพาเราออกจากโหมดบริโภคธรรมชาติ แล้วกลับไปสู่โหมดเคารพธรรมชาติอย่างสุภาพ
หนึ่งในเหตุผลที่ชื่อของบ้านปงไคร้ถูกจดจำ คือการเป็นพื้นที่ที่พบพรรณไม้หายากหลายชนิด โดยเฉพาะ “กล้วยไม้ฟ้ามุ่ย” ซึ่งถูกยกเป็นสัญลักษณ์เชิงอนุรักษ์ของพื้นที่ เพราะความสวยแบบสุขุมและความบอบบางต่อการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ การมองกล้วยไม้ฟ้ามุ่ยให้เป็นมากกว่าดอกไม้สวย ๆ จะทำให้เราเข้าใจแก่นของบ้านปงไคร้มากขึ้น นั่นคือ ถ้าป่าต้นน้ำยังสมบูรณ์ พรรณไม้ที่อ่อนไหวก็ยังมีที่ยืน และเมื่อพรรณไม้ยังอยู่ น้ำและความชุ่มชื้นก็ยังอยู่ ซึ่งสุดท้ายมันย้อนกลับมาหล่อเลี้ยงคนทั้งชุมชนและพื้นที่ปลายน้ำด้วย
เรื่องที่ทำให้บ้านปงไคร้ “มีน้ำหนัก” ในมุมการอนุรักษ์ คือเหตุการณ์สำคัญในปี 2008 (พ.ศ. 2551) ที่ชุมชนร่วมกันจัด “บวชป่า” เพื่อย้ำข้อตกลงการดูแลป่าชุมชนและป่าต้นน้ำ แนวคิดของบวชป่าในบริบทล้านนาและชุมชนภาคเหนือมักสะท้อนความพยายามใช้ความศรัทธาเป็นเครื่องมือทางสังคม เพื่อให้คนรู้สึกเกรงใจและเคารพพื้นที่ป่ามากขึ้น เมื่อป่าถูกผูกโยงกับศีลธรรมและความเชื่อ การตัดไม้ทำลายป่าก็ไม่ใช่แค่เรื่องผิดกฎหมายหรือผิดกติกาหมู่บ้าน แต่กลายเป็นเรื่องที่กระทบ “ใจ” ของคนในชุมชนด้วย บ้านปงไคร้จึงไม่ได้เล่าเรื่องอนุรักษ์แบบสวยหรู แต่เล่าผ่านการลงมือทำที่คนในพื้นที่ยอมรับร่วมกัน
ถ้าคุณตั้งใจไปแบบท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จริง ๆ วิธีที่ดีที่สุดคือไปแบบเบา ๆ และให้เกียรติพื้นที่ เดินชมธรรมชาติด้วยความระมัดระวัง ไม่ออกนอกทางจนกระทบพืชพื้นล่าง หลีกเลี่ยงการเด็ดดอกไม้หรือเก็บสิ่งใดกลับบ้าน และถ่ายภาพแบบไม่ล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวของชุมชน หากต้องการภาพคนหรือวิถีชีวิตใกล้ ๆ การขออนุญาตก่อนคือมารยาทพื้นฐานที่ช่วยให้การท่องเที่ยว “อยู่ร่วมกันได้” มากกว่าการไปเอาคอนเทนต์อย่างเดียว
ในแง่ฤดูกาล บ้านปงไคร้จะให้อารมณ์ต่างกันตามช่วงเวลา ฤดูฝนและปลายฝนต้นหนาวมักเขียวชุ่มที่สุด โอกาสเจอหมอกและอากาศเย็นจะสูง แต่ก็ต้องแลกกับความเสี่ยงเรื่องฝน ถนนลื่น และหมอกหนา ส่วนหน้าหนาวอากาศจะสบาย เดินง่าย ถ่ายรูปสวย แต่บางช่วงอาจแห้งกว่าเล็กน้อย ไม่ว่าคุณจะเลือกเดือนไหน คำแนะนำที่ตรงที่สุดคือ “เช็กอากาศก่อนออก” และเผื่อเวลาเดินทาง เพราะพื้นที่แม่ริม–โป่งแยงเป็นทางขึ้นลงเขาที่ต้องใช้สมาธิในการขับรถพอสมควร
การเตรียมตัวควรเน้นของที่ช่วยให้คุณปลอดภัยและไม่สร้างภาระให้ชุมชน เช่น รองเท้าพื้นยึดเกาะดี เสื้อกันฝนหรือเสื้อกันลม ยาประจำตัว และถุงสำหรับเก็บขยะส่วนตัวกลับลงมา หากไปช่วงเช้าหรือช่วงมีหมอก ควรพกไฟฉายเล็ก ๆ หรือไฟคาดหัวไว้เผื่อจำเป็น และไม่ควรคาดหวังความสะดวกครบแบบเมือง เพราะเสน่ห์ของพื้นที่เชิงอนุรักษ์คือความเรียบง่ายที่ขอให้ผู้มาเยือน “ช่วยกันรักษา” มากกว่าการเข้าไปเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะกับเรา
การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่ไปบ้านปงไคร้ ระยะทางโดยรวมประมาณ 45 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (ขึ้นกับสภาพการจราจรและสภาพอากาศ) โดยทั่วไปนิยมใช้เส้นทางไปอำเภอแม่ริม แล้วมุ่งหน้าเข้าสู่โซนตำบลโป่งแยง จากนั้นตามป้ายและเส้นทางท้องถิ่นไปยังบ้านผานกกและบ้านปงไคร้ ช่วงท้ายบางจุดเป็นทางขึ้นลงเขาและโค้งต่อเนื่อง ควรขับด้วยความเร็วเหมาะสม ใช้เกียร์ต่ำในทางชัน และหลีกเลี่ยงการเดินทางกลางคืน โดยเฉพาะฤดูฝนที่มีโอกาสเจอหมอกหนาและถนนลื่น
ถ้าคุณอยากให้ทริปนี้ “ได้ความหมาย” มากกว่าการแวะถ่ายรูป แนะนำตั้งใจฟังเรื่องของป่าต้นน้ำและการดูแลร่วมกันของชุมชน เพราะบ้านปงไคร้ไม่ได้ขายความหวือหวา แต่ขายความจริงใจของการอยู่กับป่าแบบพึ่งพาและเกรงใจกัน และเมื่อคุณเดินออกจากพื้นที่ด้วยความระมัดระวัง เก็บขยะกลับลงมา เคารพกติกาชุมชน และสนับสนุนบริการในพื้นที่เท่าที่จำเป็น คุณจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้บ้านปงไคร้ยังคงเป็น “พื้นที่สีเขียวที่มีคนอยู่จริง” ได้ต่อไป
| ชื่อสถานที่ | บ้านปงไคร้ |
| ที่ตั้ง | บ้านผานกก ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ |
| ลักษณะเด่น | ชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ป่าต้นน้ำค่อนข้างสมบูรณ์ เรียนรู้ธรรมชาติและวิถีชุมชน มีพรรณไม้หายาก เช่น กล้วยไม้ฟ้ามุ่ย |
| ยุคสมัย | ชุมชนร่วมสมัย (มีกิจกรรมอนุรักษ์ต่อเนื่อง; บวชป่าปี 2008/พ.ศ. 2551) |
| หลักฐานสำคัญ | ป่าชุมชน/ป่าต้นน้ำและระบบนิเวศที่ยังดี กิจกรรมบวชป่าเพื่อคุ้มครองป่า (พ.ศ. 2551) และการอนุรักษ์พรรณไม้หายาก |
| ที่มาของชื่อ | ชื่อหมู่บ้านท้องถิ่นในโซนโป่งแยง (ใช้เรียกตามพื้นที่ชุมชนดั้งเดิม) |
| การเดินทาง | ตัวเมืองเชียงใหม่ → แม่ริม → ตำบลโป่งแยง → บ้านผานกก/บ้านปงไคร้ (รวมประมาณ 45 กม.; ทางขึ้นลงเขา โค้งเยอะ ควรขับระมัดระวัง โดยเฉพาะฤดูฝน) |
| สถานะปัจจุบัน | เปิดท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (แนะนำติดต่อชุมชนล่วงหน้า หากต้องการกิจกรรม/เส้นทางเรียนรู้ธรรมชาติ) |
| ติดต่อชุมชน | การท่องเที่ยวชุมชนบ้านปงไคร้ (CBT) โทร 081-998-3766 |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง พร้อมระยะทาง | สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (ประมาณ 20 กม.) โทร 053-841-234 ม่อนแจ่ม (ประมาณ 12 กม.) โทร 081-806-3993 อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ–ปุย (ประมาณ 35 กม.) โทร 053-210-246 น้ำตกแม่สา (ประมาณ 25 กม.) โทร 053-210-246 Pongyang Jungle Coaster Zipline Camp&Resort (ประมาณ 8 กม.) โทร 053-106-237 |
| ร้านอาหารยอดนิยมใกล้เคียง พร้อมระยะทาง | ม่อนแจ่ม (ร้านอาหาร/จุดชมวิว) (ประมาณ 12 กม.) โทร 081-806-3993 โป่งแยง แอ่งดอย (Pongyang Angdoi) (ประมาณ 18 กม.) โทร 085-618-8885 Jungle De Cafe (ม่อนแจ่ม) (ประมาณ 12 กม.) โทร 053-106-327 Rim Nara Restaurant (ประมาณ 15 กม.) โทร 095-786-6999 Mi | Zü Restaurant by Onsen at Moncham (ประมาณ 14 กม.) โทร 053-111-606 |
| ที่พักยอดนิยมใกล้เคียง พร้อมระยะทาง | ม่อนดอยปงไคร้ (Mon Doi Pong Khrai) (ประมาณ 5 กม.) โทร 083-762-4153 การท่องเที่ยวชุมชนบ้านปงไคร้ (CBT) (ประมาณ 0 กม.) โทร 081-998-3766 Onsen @ Moncham (ประมาณ 14 กม.) โทร 053-111-606 Panviman Chiang Mai Spa Resort (ประมาณ 22 กม.) โทร 053-879-540 Pongyang Jungle Coaster Zipline Camp&Resort (ประมาณ 8 กม.) โทร 053-106-237 |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: บ้านปงไคร้เด่นเรื่องอะไรที่สุด?
ตอบ: เด่นเรื่องการเป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในป่าต้นน้ำ และการดูแลพรรณไม้ธรรมชาติที่หายาก เช่น กล้วยไม้ฟ้ามุ่ย รวมถึงเรื่องเล่าการบวชป่าที่ชุมชนใช้เป็นข้อตกลงร่วมกันในการคุ้มครองป่า
ถาม: “บวชป่า” ของบ้านปงไคร้คืออะไร และมีความหมายยังไง?
ตอบ: เป็นกิจกรรมที่ชุมชนจัดขึ้นเพื่อย้ำการคุ้มครองป่าชุมชนและป่าต้นน้ำ โดยผูกความศรัทธาเข้ากับการอนุรักษ์ให้คนในพื้นที่รู้สึกเคารพและเกรงใจป่ามากขึ้น บ้านปงไคร้มีการจัดบวชป่าในปี 2008 (พ.ศ. 2551) และกลายเป็นสัญลักษณ์ของความตั้งใจในการรักษาทรัพยากรร่วมกัน
ถาม: ไปบ้านปงไคร้ช่วงเดือนไหนน่าเที่ยว?
ตอบ: ปลายฝนต้นหนาวถึงหน้าหนาวมักอากาศสบายและธรรมชาติเขียวสวย แต่ฤดูฝนก็เขียวชุ่มมาก เพียงต้องระวังถนนลื่นและหมอกหนา จึงควรเช็กอากาศก่อนออกเดินทาง
ถาม: ขับรถไปเองยากไหม?
ตอบ: โดยรวมไปได้ แต่ช่วงท้ายเป็นทางขึ้นลงเขาและโค้งต่อเนื่อง ควรขับช้า ใช้เกียร์ต่ำในทางชัน และหลีกเลี่ยงการเดินทางกลางคืน โดยเฉพาะวันที่ฝนตกหรือหมอกลงจัด
ถาม: ถ้าอยากทำทริปแบบรับผิดชอบ ควรทำอะไรบ้าง?
ตอบ: เดินชมธรรมชาติแบบไม่ออกนอกทาง ไม่เด็ดพืชหรือเก็บสิ่งใดกลับบ้าน ขออนุญาตก่อนถ่ายภาพบุคคล เก็บขยะกลับลงมา และถ้าต้องการกิจกรรมเรียนรู้ แนะนำติดต่อชุมชนล่วงหน้าเพื่อให้การเยือนเป็นประโยชน์กับพื้นที่จริง
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|







หมวดหมู่:
กลุ่ม: