ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยส้มป่อย

Rating: 3.8/5 (4 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน (แนะนำโทรสอบถาม/ตรวจประกาศล่าสุดก่อนเดินทาง โดยเฉพาะฤดูฝน)
เวลาเปิดทำการ: โดยทั่วไป 08.00–17.00 น. (อาจเปลี่ยนตามภารกิจพื้นที่)
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยส้มป่อย เป็นจุดหมายที่เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวเชียงใหม่แบบได้ทั้งธรรมชาติ ชุมชน และความหมายของงานพัฒนาตามแนวพระราชดำริแบบ “เห็นกับตา” ที่นี่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และมีเขตติดต่อ/ซ้อนทับกับอุทยานแห่งชาติอินทนนท์และอุทยานแห่งชาติออบหลวง ทำให้แก่นของการทำงานไม่ได้มีแค่การส่งเสริมอาชีพ แต่ผูกกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปพร้อมกันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงในพื้นที่ ซึ่งเดิมเคยทำไร่หมุนเวียน ไม่มีเกษตรถาวร และมีข้อจำกัดด้านปัจจัยพื้นฐานหลายอย่าง
ภาพรวมพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์ฯ มีขนาดใหญ่ ครอบคลุม 15 หมู่บ้าน 545 ครัวเรือน และมีลักษณะภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับซับซ้อน มีที่ราบลุ่มสำหรับทำนา และพื้นที่เพาะปลูกกระจายตามหุบเขา ทำให้การทำเกษตรต้องพึ่งความเข้าใจภูมิประเทศ การจัดการน้ำ และการเลือกพืชให้เหมาะกับพื้นที่จริง ไม่ใช่แค่ปลูกตามกระแส จุดนี้เองที่ทำให้การมาเยือนศูนย์ฯ ให้ความรู้สึกต่างจากแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป เพราะคุณกำลังเดินอยู่ในพื้นที่ทำงานจริงของชุมชนและหน่วยงาน ที่พยายามวางระบบให้คนอยู่ได้โดยไม่ผลักภาระไปให้ป่าต้นน้ำในระยะยาว
ถ้ามาในโหมด “ท่องเที่ยวเชิงเกษตร” คุณจะได้ชมแปลงสาธิตภายในศูนย์ฯ เช่น พืชผักต่าง ๆ กาแฟพันธุ์อาราบิก้า อะโวกาโดพันธุ์แฮส (Hass) และแปลงสาธิตปลูกพืชแบบผสมผสาน รวมถึงพืชสมุนไพรที่เชื่อมกับการดูแลสุขภาพและการสร้างอาชีพของชุมชน หลายคนชอบมิติของกาแฟเป็นพิเศษ เพราะมันพาเราเห็นเส้นทางของการสร้างรายได้ที่สอดคล้องกับพื้นที่สูง และช่วยลดแรงกดดันต่อการใช้ทรัพยากรแบบทำลายป่าได้อย่างเป็นรูปธรรม
อีกเสน่ห์คือการเชื่อมโยงไปยังพื้นที่เรียนรู้ใกล้เคียงอย่างฟาร์มตัวอย่างตามแนวพระราชดำริบ้านขุนแตะ ซึ่งมีแปลงสาธิตแบบผสมผสานให้เห็นภาพ “ระบบอาหาร” และ “ระบบรายได้” ในมุมที่จับต้องได้มากขึ้น และถ้าไปช่วงฤดูกาลเหมาะ ๆ ยังมีโอกาสชมสวนพลับของเกษตรกร พร้อมกิจกรรมการเก็บผลผลิต (ช่วงโดยประมาณเดือนกรกฎาคม–สิงหาคม ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพอากาศและผลผลิตของแต่ละปี)
ถ้าคุณสนใจวัฒนธรรม ศูนย์ฯ และชุมชนกะเหรี่ยงในพื้นที่ยังมีเรื่องให้เรียนรู้ทั้งวิถีชีวิต เครื่องดนตรีเต๊ะนา การตำข้าวด้วยครกกระเดื่อง พิธีกรรมและความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ป่า รวมถึงงานขึ้นปีใหม่ของกะเหรี่ยง ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติแบบที่ไม่ได้แยกออกจากกันเป็นคนละเรื่อง และนี่คือเหตุผลที่หลายคนกลับจากห้วยส้มป่อยแล้วรู้สึกว่าได้ “มุมใหม่ของอินทนนท์” ที่ไม่ใช่แค่ขึ้นไปหนาวแล้วกลับลงมา
ในสายธรรมชาติ รอบ ๆ โซนนี้ยังมีที่เที่ยวเด่นอย่างน้ำตกแม่เตี๊ยะ (อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติออบหลวง) น้ำตกแม่สะเคอะ และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติดอยสองเมีย (ระดับความสูงราว 1,500 เมตร) ซึ่งเป็นป่าอนุรักษ์ของชาวกะเหรี่ยง จุดแข็งของพื้นที่คือความ “เขียวจริง” และความรู้สึกชนบทที่ยังไม่ถูกทำให้เป็นฉากท่องเที่ยวจนเกินไป แต่ก็ต้องแลกกับการเดินทางที่ต้องเผื่อเวลา โดยเฉพาะหน้าฝน
ของฝากที่เหมาะกับโซนนี้มักเป็นผักผลไม้เมืองหนาวตามฤดูกาล และงานหัตถกรรมชาวเขา เช่น ผ้าทอกี่เอว งานปักลวดลายบนผ้า และเครื่องจักสานภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งซื้อแล้วเหมือนส่งแรงสนับสนุนกลับไปให้ชุมชนแบบตรง ๆ
เรื่องอาหารและที่พักควรรู้ไว้ก่อน: ภายในศูนย์ฯ โดยข้อมูลที่มีอยู่ระบุว่าไม่มีร้านอาหารบริการนักท่องเที่ยว แนะนำให้เตรียมอาหาร/น้ำดื่มมาเอง ส่วนที่พักมีบ้านพักรับรองภายในศูนย์ฯ จำนวน 1 หลัง (รองรับได้ประมาณ 10 คน) และมีพื้นที่กางเต็นท์/บริการเช่าเต็นท์ขนาด 2 คน ขณะที่การพักแบบโฮมสเตย์สามารถใช้บริการในชุมชนใกล้เคียงอย่างบ้านขุนแตะ (แนะนำติดต่อสอบถามล่วงหน้าเพื่อยืนยันเงื่อนไขและความพร้อมในวันเดินทาง)
การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่–ฮอด) มุ่งหน้าอำเภอจอมทอง บริเวณประมาณ กม.58 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนจอมทอง–น้ำตกแม่เตี๊ยะ (ข้างที่ว่าการอำเภอจอมทอง) เข้าไปประมาณ 7 กิโลเมตร จะพบแยกขวาไปที่ทำการอุทยานฯ/น้ำตกแม่เตี๊ยะ จากจุดนี้เป็นเส้นทางลูกรังมุ่งหน้าไปทางเข้าบ้านห้วยส้มป่อย โดยทั่วไปใช้รถยนต์ได้หลายประเภท แต่ช่วงฤดูฝนแนะนำใช้รถโฟร์วีลไดร์ฟ และควรเผื่อเวลาเพราะถนนลื่น/สภาพการคมนาคมอาจลำบาก (ไม่มีบริการรถยนต์รับจ้างตามข้อมูลที่มีอยู่)
| ชื่อสถานที่ | ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยส้มป่อย |
| ที่ตั้ง | ตำบลดอยแก้ว อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ (โซนเส้นทางจอมทอง–แม่เตี๊ยะ–ห้วยส้มป่อย) |
| ลักษณะเด่น | ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงในพื้นที่ป่าสงวน/แนวอุทยาน เน้นอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติควบคู่การพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตชุมชนกะเหรี่ยง ผ่านเกษตรถาวรและการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ |
| สรุปโซน/กิจกรรมเด่น | ท่องเที่ยวเชิงเกษตร: แปลงสาธิตพืชผัก, กาแฟอาราบิก้า, อะโวกาโดพันธุ์แฮส (Hass), แปลงผสมผสาน และสมุนไพร ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม: วิถีกะเหรี่ยง, เครื่องดนตรีเต๊ะนา, ครกกระเดื่อง, พิธีกรรม/ความเชื่อในการอนุรักษ์ป่า, งานขึ้นปีใหม่กะเหรี่ยง ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ: เชื่อมเส้นน้ำตกแม่เตี๊ยะ, น้ำตกแม่สะเคอะ, เส้นทางดอยสองเมีย (ขึ้นกับสภาพอากาศและการเข้าถึงเส้นทาง) ของฝาก: ผักผลไม้เมืองหนาวตามฤดูกาล และงานหัตถกรรมชุมชน (ทอกี่เอว/ปักผ้า/จักสาน) |
| ยุคสมัย/ปีสำคัญ | ก่อตั้งปี 2543 |
| หลักฐาน/ตัวเลขสำคัญ | พื้นที่รับผิดชอบ 494,823 ไร่; ครอบคลุม 15 หมู่บ้าน; 545 ครัวเรือน; ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,300 มม./ปี; อุณหภูมิต่ำสุด 6°C และสูงสุด 32°C |
| ที่มาชื่อ | ตั้งชื่อตามลำน้ำ/พื้นที่ชุมชน “ห้วยส้มป่อย” ในเขตรับผิดชอบของศูนย์ |
| การเดินทาง | เชียงใหม่ → ทางหลวง 108 (เชียงใหม่–ฮอด) → อำเภอจอมทอง (ราว กม.58) → เลี้ยวขวาเข้าถนนจอมทอง–น้ำตกแม่เตี๊ยะ (ข้างที่ว่าการอำเภอ) → ไป ~7 กม. → ผ่านแยกไปอุทยานฯ/น้ำตกแม่เตี๊ยะ → ถนนลูกรังสู่ทางเข้าบ้านห้วยส้มป่อย (ฤดูฝนแนะนำ 4WD) |
| สถานะปัจจุบัน | เปิดเป็นพื้นที่พัฒนาและท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ แนะนำติดต่อศูนย์ฯ ล่วงหน้าเพื่อยืนยันเงื่อนไขการเข้าชม/สภาพถนน โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน |
| เบอร์ติดต่อสถานที่ | 053-228-240, 053-318-327 |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง (ระยะทางโดยประมาณ) | น้ำตกแม่เตี๊ยะ (อช.ออบหลวง) ~10–25 กม.; อุทยานแห่งชาติออบหลวง (โซนจุดชมวิว/ช่องเขา) ~25–45 กม.; น้ำตกแม่สะเคอะ ~20–40 กม.; เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยสองเมีย ~25–45 กม.; วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ~25–40 กม.; ตัวอำเภอจอมทอง ~25–40 กม.; โซนอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (เส้นหลักจากจอมทอง) ~45–80 กม. |
| ร้านอาหารยอดนิยมใกล้เคียง (โซนที่ใกล้ที่สุด: อ.จอมทอง) (ระยะทางโดยประมาณ) | ข้าวซอยกะโหล้ง (จอมทอง) ~25–40 กม. โทร 063-157-4722; ครัวเฟื่องฟ้า (จอมทอง) ~25–40 กม. โทร 053-341-274; กาแฟเง็กกี Coffee Ngeggee (จอมทอง) ~25–40 กม. โทร 088-257-0878; ส้มตำเฮือนไม้ (จอมทอง) ~25–40 กม. โทร 089-554-7826; ทับทิมทองปลาเผา (จอมทอง) ~25–40 กม. โทร 089-554-8203 |
| ที่พักยอดนิยมใกล้เคียง (โซนที่ใกล้ที่สุด: อ.จอมทอง/เส้นอินทนนท์ตอนล่าง) (ระยะทางโดยประมาณ) | Touch Star Resort ~25–45 กม. โทร 053-033-594; Inthanon Riverside Resort ~30–55 กม. โทร 081-530-5767; Inthanon Highland Resort ~25–50 กม. โทร 053-802222-4; Doi Inthanon View Resort ~45–70 กม. โทร 086-292-2727; Mae Klang Luang View Resort (บ้านแม่กลางหลวง) ~55–80 กม. โทร 086-189-4075 |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | พื้นที่แปลงสาธิต/จุดเรียนรู้, จุดประสานงาน/ติดต่อเจ้าหน้าที่, บ้านพักรับรอง (มีจำนวนจำกัด), พื้นที่กางเต็นท์ (แนะนำสอบถามสภาพพื้นที่และเงื่อนไขล่าสุดก่อนเดินทาง) |
| ค่าธรรมเนียม | ไม่พบข้อมูลยืนยันแบบตายตัว (แนะนำสอบถามศูนย์ฯ และตรวจเงื่อนไขในพื้นที่/เส้นทางที่เชื่อมอุทยานก่อนเดินทาง) |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยส้มป่อยเหมาะกับใคร?
ตอบ: เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวเชียงใหม่แบบเรียนรู้ สนใจโครงการพระราชดำริ เกษตรบนพื้นที่สูง วิถีชุมชนกะเหรี่ยง และอยากเห็นงานอนุรักษ์ป่ากับการสร้างอาชีพที่เดินไปด้วยกัน
ถาม: ไปแล้วจะได้เห็นอะไรเป็นหลัก?
ตอบ: แกนหลักคือแปลงสาธิตเกษตร (ผัก กาแฟอาราบิก้า อะโวกาโด Hass และแปลงผสมผสาน) ร่วมกับมิติชุมชนและวัฒนธรรมกะเหรี่ยง รวมถึงการเชื่อมเส้นทางธรรมชาติใกล้เคียง เช่น น้ำตกแม่เตี๊ยะและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ (ขึ้นกับสภาพอากาศ/การเข้าถึง)
ถาม: ภายในศูนย์ฯ มีร้านอาหารไหม?
ตอบ: โดยข้อมูลที่มีอยู่ระบุว่าไม่มีร้านอาหารบริการนักท่องเที่ยว แนะนำเตรียมอาหารและน้ำดื่มมาเอง หรือวางแผนไปรับประทานในตัวอำเภอจอมทอง
ถาม: มีที่พักในศูนย์ฯ ไหม และควรจองอย่างไร?
ตอบ: มีบ้านพักรับรองภายในศูนย์ฯ จำนวนจำกัดและมีพื้นที่กางเต็นท์ แนะนำติดต่อศูนย์ฯ โดยตรงล่วงหน้าเพื่อยืนยันเงื่อนไขการเข้าพัก ราคา และความพร้อมในวันเดินทาง
ถาม: เส้นทางไปห้วยส้มป่อยยากไหม โดยเฉพาะหน้าฝน?
ตอบ: ช่วงปลายทางเป็นถนนลูกรังและสภาพการคมนาคมหน้าฝนอาจลำบาก แนะนำใช้รถโฟร์วีลไดร์ฟ เผื่อเวลา และเช็กสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง
ถาม: ถ้ามีเวลาวันเดียว ควรวางทริปยังไงให้คุ้ม?
ตอบ: แนะนำออกจากเมืองเช้า แวะตัวอำเภอจอมทอง (กินข้าว/เติมเสบียง) แล้วเข้าศูนย์ฯ เดินชมแปลงสาธิตและเรียนรู้ชุมชน จากนั้นถ้ามีเวลาและสภาพอากาศเอื้ออำนวยค่อยเชื่อมไปโซนน้ำตกแม่เตี๊ยะหรือออบหลวง แล้วกลับจอมทองก่อนค่ำ
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|







หมวดหมู่:
กลุ่ม: