หน้าหลัก > ภาคใต้ > จ.นราธิวาส > 30 จุดเช็คอินที่เที่ยวนราธิวาส ที่เที่ยวภาคใต้ที่ด..


นราธิวาส

30 จุดเช็คอินที่เที่ยวนราธิวาส ที่เที่ยวภาคใต้ที่ดีที่สุด

30 จุดเช็คอินที่เที่ยวนราธิวาส ที่เที่ยวภาคใต้ที่ดีที่สุด

Rating: 2.8/5 (10 votes)

30 จุดเช็คอินที่เที่ยวนราธิวาส ที่เที่ยวภาคใต้ที่ดีที่สุด จังหวัดนราธิวาส เป็นจังหวัดในประเทศไทยเป็นเมืองที่สงบเงียบ มีความสวยสดงดงามด้านวัฒนธรรมและประเพณีไทยแบบชาวมุสลิม เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจกิจการค้ามาแต่ว่าอดีตกาล ปัจจุบันนี้เป็น 1 ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อยู่ในแผนการสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ
 
จังหวัดนราธิวาส มีศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจรวมทั้งการท่องเที่ยวเมืองชายแดนอยู่ที่อำเภอสุไหงโก-ลก ที่ชาวมาเลเซียรวมทั้งประเทศสิงคโปร์นิยมมาท่องเที่ยวพักแล้วก็ซื้อผลิตภัณฑ์ รวมถึงเป็นหลักที่ที่มีการถ่ายทอดวัฒนธรรมมานานมาก
 
จังหวัดนราธิวาส มีพื้นที่ราว 2,797,143.75 ไร่ หรือ 4,475 ตารางกิโลเมตร เป็นป่าและก็เทือกเขาราวๆ 2 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งผอง มีเทือกเขาหนาแน่นแถบทิศตะวันตกเฉียงใต้เขียนแนวเขาสันกาลาคีรี ซึ่งเป็นแถวกันเขตแดนไทย-มาเลเซีย รูปแบบของพื้นที่มีความลาดเอียงจากทิศตะวันตกไปสู่ทิศตะวันออก ที่ราบโดยมากอยู่ใกล้กับอ่าวไทย รวมทั้งที่ราบลุ่มรอบๆแม่น้ำ 4 สายหมายถึงแม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำตากใบ แล้วก็แม่น้ำโก-ลก
 
ตอนแรกบ้านบางนรา หรือมะท้องนาลอ เป็นเพียงแค่หมู่บ้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมน้ำบางนรา ใกล้กับสมุทร ในยุคพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) บ้านบางนราจัดอยู่ในเขตดูแลของเมืองสายบุรี เมื่อถัดมาเมื่อจังหวัดปัตตานีได้รับการเลื่อนฐานะเป็นเขต บ้านบางนราก็เลยย้ายมาขึ้นตรงต่อเมืองระงัดแงะที่อยู่ในบริเวณจังหวัดปัตตานี
 
จนถึงปี พุทธศักราช 2449 ยุคพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) บ้านบางนราเติบโตขึ้นเป็นชุมชนใหญ่ มีการค้าทั้งยังทางบกรวมทั้งสมุทรครึกโครมมากมาย ก็เลยมีการย้ายที่ว่าการจากเมืองระงัดมาตั้งที่บ้านมะท้องนาลอ อำเภอบางนรา ส่วนท้องที่เมืองระงัดแงะเดิมเป็นอำเภอตันหยงมัส และก็เลื่อนฐานะอำเภอบางนราเป็นเมืองบางนรา มีอำเภอในเขตดูแลเป็นอำเภอบางนรา อำเภอตันหยงมัส อำเภอสุไหงปาดี กิ่งอำเภอยะบะ รวมทั้งกิ่งอำเภอโต๊ะโมะ ในปี พุทธศักราช 2452 เมืองบางนราได้รับโอนอำเภอตากใบตามอนุสัญญาที่ทำกันระหว่างประเทศไทยกับอังกฤษ แล้วก็รับโอนอำเภอยี่งอจากเมืองสายบุรีมาอยู่ในเขตดูแล
 
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จท่องเที่ยวเขตภาคใต้ เมื่อเสด็จมาถึงเมืองบางนรา ทรงพระราชทานพระแสงสว่างศัสยี่ห้อแก่เมืองบางนรา แล้วก็ทรงดำริว่า บางนรานั้นเป็นชื่อตำบลบ้าน ควรจะมีชื่อเมืองไว้เป็นหลักฐานสืบไป ก็เลยโปรดให้แปลงชื่อเมืองบางนราเป็นเมืองจังหวัดนราธิวาส (ที่อยู่ของผู้มีอิทธิพล) เมื่อวันที่ 10 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2458
 
จังหวัดนราธิวาส แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ อาทิเช่น อำเภอเมืองนราธิวาส, อำเภอยี่งอ, อำเภอสุไหงโก-ลก, อำเภอตากใบ, อำเภอศรีสาคร, อำเภอแว้ง, อำเภอสุไหงปาดี, อำเภอบาเจาะ, อำเภอระงัด, อำเภอสุคิริน, อำเภอรือเสาะ, อำเภอจะแนะ และอำเภอเจาะไอร้อง


30 จุดเช็คอิน นราธิวาส ที่ไม่ควรพลาดได้แก่

วนอุทยานอ่าวมะนาว
 
1. วนอุทยานอ่าวมะนาว ที่เที่ยวนราธิวาส ทะเลนราธิวาส ตั้งอยู่กลุ่มที่ 1 ตำบลกะลุวอเหนือ ตามทางหลวงลำดับที่ 4084 (จังหวัดนราธิวาส-ตากใบ) ราวๆ 3 กิโล แล้วก็มีทางแยกไปสู่ชายหาดอีก 3 กิโล เป็นริมหาดที่ยาวตลอดจากชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันออกของ จ.ปัตตานี เป็นโค้งอ่าวเชื่อมต่อกัน ยาวโดยประมาณ 4 กิโล มีหินกั้นสลับโค้งหาดทรายเป็นระยะ ด้านหนึ่งติดพระตำหนักขวาราชนิเวศน์ รอบๆริมทะเลมีสวนต้นไม้ รวมทั้งทิวสนร่มรื่นเหมาะสมแก่การพักผ่อนหย่อนใจ มีทางศึกษาเล่าเรียนธรรมชาติป่าริมทะเล (beach forest) ระยะทางโดยประมาณ 1 กิโล พันธุ์พืชที่เจอจะเป็นไม้ที่ถูกใจความแล้ง อย่างเช่น จะสมุทร มะนาวผี เตยสมุทร (ผลมีหน้าตาเหมือนสับปะรด) ฯลฯ ถ้าคนใดต้องการพักพักแรมมีที่พักของเอกชนในรอบๆใกล้เคียงให้บริการ
 
สะพานเกาะยาว
 
2. เกาะยาว ที่เที่ยวนราธิวาส ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดชลธาราสิงเห จากทางแยกตลาดอำเภอตากใบเลยไปยังแม่น้ำตากใบ มีสะพานไม้ชื่อ “สะพานคอย 100 ปี” ยาว 345 เมตร ทอดผ่านแม่น้ำตากใบไปยังเกาะยาว ซึ่งทางด้านทิศตะวันออกของเกาะจะใกล้กับสมุทร มีริมฝั่งละเอียดสีน้ำตาล บรรยากาศสงบสวย ราษฎรจำนวนมากเป็นชาวมุสลิมดำรงชีพประมงแล้วก็สวนมะพร้าว
 
พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์
 
3. พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ที่เที่ยวภาคใต้ ตั้งอยู่บนเขาตันหยงมัส ตำบลกะลุวอเหนือ ด้านริมหาดใกล้กับอ่าวมะนาว ห่างจากตัวจังหวัดนราธิวาสตามทางหลวงแผ่นดินเลขลำดับ 4084 (จังหวัดนราธิวาส-ตากใบ) เป็นระยะทาง 8 กม. มีพื้นที่โดยประมาณ 300 ไร่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9)โปรดเกล้าฯให้ก่อสร้างขึ้น เมื่อ พุทธศักราช 2516 ด้านในเขตพระราชฐานมี พระตำหนักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และก็ของพระบรมวงศานุวงศ์ ตกแต่งด้วยพันธุ์พืชนานาประเภททำให้มีบรรยากาศร่มรื่น ยังมีศูนย์ศิลปาชีพ ซึ่งเป็นแหล่งฝึกหัดงานเครื่องเคลือบแล้วก็เซรามิก แล้วก็ขายด้วย พระตำหนักขวาราชนิเวศน์เปิดให้นักเดินทางเข้าชมได้ทุกเมื่อเชื่อวันระหว่างเวลา 8.30–16.30 น. เว้นเฉพาะตอนที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯแล้วก็สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์เดินทางไปแปรพระราชฐานมาค้างคืนแค่นั้น ซึ่งธรรมดาจะเป็นช่วงๆตุลาคม-ธ.ค.
 
หมู่บ้านทอน
 
4. หมู่บ้านทอน ที่เที่ยวนราธิวาส ตั้งอยู่ที่ตำบลโคกเตียน ห่างจากเมืองตามทางจังหวัดนราธิวาส-บ้านทอน (ถนนหลวง 4136) ราว ๆ 16 กิโล เป็นหมู่บ้านคนหาปลาไทยชาวมุสลิม เป็นแหล่งผลิตเรือกอรวมทั้งของแท้และก็เลียนแบบ เรือกอ แล้วก็เลียนแบบราคาแพงตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักหมื่น แต่ว่าคุณประโยชน์มิได้อยู่เท่านั้น เนื่องจากผู้ที่ทำนั้นบางบุคคลเป็นเด็กมีตั้งแม้กระนั้นอายุ 13 ปีขึ้นไป เด็กบางบุคคลในหมู่บ้านจะใช้เวลาว่างมานั่งฝึกฝนทำเรือกอแล้วก็ ศิลปะท้องถิ่นของพวกเขาเอง เว้นเสียแต่เรือท่านบางทีก็อาจจะได้การปลื้มใจกลับไปด้วยถ้าได้มองเห็นความสนอกสนใจของพวกเขาที่มีต่องานศิลปะแบบนี้ ยิ่งกว่านั้นยังมีผลิตภัณฑ์จากกระจูดและก็ใบปาหนัน ดังเช่นซองสวมแว่น กระเป๋า ไปจนกระทั่งเสื่อที่มีลวดลายและก็สีสันงดงามพอดี ราคาถูกและก็ตรงนี้ยังเป็นแหล่งผลิตน้ำบูดู และก็ข้าวเกรียบปลาที่ขึ้นชื่อลือชาของจังหวัดนราธิวาสอีกด้วย ตลอดแนวชายหาดจะมองเห็นแผงตากปลาเรียงรายอยู่ มีตุ่มปูนซีเมนต์ใส่บูดูเยอะมาก นักเดินทางสามารถแวะมาดูกระบวนการผลิตรวมทั้งจ่ายตลาดฝากได้
 
ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร (ป่าพรุโต๊ะแดง)
 
5. ป่าพรุโต๊ะแดง ที่เที่ยวนราธิวาส ป่าพรุแห่งสุดท้ายของประเทศไทย ซึ่งคลุมพื้นที่ของ 3 อำเภอ คือ อำเภอสุไหงโกลก อำเภอตากใบ และอำเภอสุไหงปาดี มีพื้นที่ประมาณ 120,000 ไร่ แต่ส่วนที่สมบูรณ์โดยประมาณมีเพียง 50,000 ไร่ ยังเป็นป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์ป่าและพรรณไม้ พื้นที่ป่าพรุมีลำน้ำสำคัญหลายสายไหลผ่าน คือ แม่น้ำบางนรา, คลองสุไหงปาดี และคลองโต๊ะแดง อันเป็นที่มาของชื่อป่า
 
ภายในศูนย์ฯ ได้จัดให้มีทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เพื่อประชาสัมพันธ์ความรู้ด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับธรรมชาติของป่าพรุ เริ่มที่บึงน้ำด้านหลังอาคารศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธรเป็นสะพานไม้ต่อลัดเลาะเข้าไปในป่าพรุ โดยระยะทาง 1,200 เมตร บางช่วงเป็นสะพานไม้ร้อยลวดสลิง ในบางช่วงเป็นหอสูงสำหรับมองทิวทัศน์เบื้องล่างที่ชอุ่มไปด้วยไม้นานาพรรณในป่าพรุ ซึ่งจะมีป้ายชื่อต้นไม้ที่น่าสนใจ และซุ้มความรู้อยู่เป็นจุดๆ สำหรับให้ความรู้แก่ผู้เดินชมด้วย เปิดทุกวันเวลา 08.00-16.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม และยังมีห้องจัดนิทรรศการให้ความรู้แก่คนที่มาเที่ยวชมอีกด้วย
 
ระบบนิเวศน์ในป่าพรุนั้นมีหลากหลาย ทุกชีวิตล้วนเกี่ยวพันต่อเนื่องกัน ไม่ว่าจะเป็นไม้ยืนต้นจะมีระบบรากแขนงแข็งแรงแผ่ออกไปเกาะเกี่ยวกันเพื่อจะได้ช่วยพยุงลำต้นของกันและกันให้ทรงตัวอยู่ได้ ฉะนั้นต้นไม้ในป่าพรุจึงอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม หากต้นใดล้ม ต้นอื่นจะล้มตามไปด้วย
 
พันธุ์ไม้ที่พบในป่าพรุมีกว่า 400 ชนิด บางอย่างนำมารับประทานได้ เช่น หลุมพี ซึ่งเป็นไม้ในตระกูลปาล์ม มีลักษณะต้นและใบคล้ายปาล์ม แต่มีหนามแหลมอยู่ตลอดก้าน ผลมีลักษณะคล้ายระกำ แต่จะเล็กกว่า รสชาติออกเปรี้ยว โดยชาวบ้านนำมาดองและส่งขายฝั่งมาเลเซีย ซึ่งคนมาเลย์จะนิยมมาก ฤดูเก็บจะอยู่ในช่วงเดือน พฤศจิกายน-มีนาคม ความน่าสนใจของป่าพรุไม่ใช่เพียงแต่ พรรณไม้แปลก ๆ สัตว์ป่าหายาก แต่คนที่ไปเที่ยวโดยเฉพาะเด็กๆจะได้ประสบการณ์ชีวิตกลับไปมากมาย จากธรรมชาติรอบตัวบางทีหากเดินชมธรรมชาติเงียบๆ อาจจะได้พบสัตว์ป่ากำลังหาอาหารอยู่ก็เป็นได้ โดยเส้นทางนี้นำเราเข้าไปหาธรรมชาติอย่างใกล้ชิดแต่ก็ไม่ได้นำเราเข้าไปล่วงเกินธรรมชาติมากนัก
 
อ่างเก็บน้ำบ้านทุ่งคา
 
6. อ่างเก็บน้ำบ้านทุ่งคา ที่เที่ยวภาคใต้ ตั้งอยู่ถนนสายเก่า บริเวณทางเข้าองค์การบริหารส่วนตำบลละหาร หมู่ที่ 2 ต.ละหาร บนเนื้อที่โดยประมาณ 5 ไร่ มีทัศนียภาพสวยงาม รอบ ๆ บริเวณมีร่มไม้ ทำให้ร่มรื่นเหมาะที่จะไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจ
 
ชายหาดกูบู-บ้านคลองตัน
 
7. ชายหาดกูบู-บ้านคลองตัน ที่เที่ยวนราธิวาส ครอบคลุมตำบลไพรวัน และตำบลศาลาใหม่ โดยจะทอดยาวไปจนถึงตำบลเจ๊ะเห มาสุดที่ปากแม่น้ำสุไหงโกลกชายแดนไทย มีความยาวโดยประมาณ 25 กิโลเมตร การเดินทาง ใช้เส้นทางหมายเลข 4084 (นราธิวาส-ตากใบ) ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร จะมีถนนถึงชายหาดระยะทาง 1 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่มีทิวทัศน์สวยงาม หาดทรายขาวสะอาด มีต้นสนขึ้นเป็นระยะๆ ร่มรื่นและเงียบสงบ
 
ค่ายจุฬาภรณ์
 
8. ค่ายจุฬาภรณ์ ที่เที่ยวนราธิวาส ภายในมีสนามกอล์ฟขนาด 9 หลุม สนามยิงปืน ศาลและพระรูปกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นอกจากนี้ภายในค่ายยังมีชายหาดสะอาด สวยงาม ซึ่งสามารถเล่นน้ำทะเลได้
 
สวนรวมพรรณไม้ป่า 60 พรรษามหาราชินี
 
9. สวนรวมพรรณไม้ป่า 60 พรรษามหาราชินี ที่เที่ยวนราธิวาส ตั้งอยู่บริเวณที่ดินสาธารณประโยชน์ ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ หมู่ที่ 3 ตำบลสุไหงปาดี อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส มีพื้นที่ทั้งหมด 100 ไร่ เป็นสวนที่ทำการสำรวจเก็บรวบรวมพันธุ์ไม้ป่ามาปลูกเป็นหมวดหมู่ตามวงศ์ (Family) ตามสกุล (Genus) โดยคำนึงถึงความเหมาะสมทางนิเวศวิทยาเป็นหลัก ในปัจจุบันมีพันธุ์ไม้มากกว่า 700 ชนิด หลายชนิดเป็นไม้ที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นพืชเศรษฐกิจ บางชนิดเป็นพืชสมุนไพร บางชนิดเป็นไม้ที่หาดูได้ยากและบางชนิดเป็นไม้ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ดังนั้น สวนฯ จึงเป็นศูนย์รวมของพันธุ์ไม้ป่าภาคใต้ที่น่าสนใจ เหมาะแก่การศึกษาหาความรู้ และพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนั้น ยังสามารถหาความเพลิดเพลินจากกิจกรรมวาดรูป ถ่ายภาพพันธุ์ไม้หรือสนุกตื่นเต้นกับการสาธิตการปีนเก็บตัวอย่างพันธุ์ไม้ได้อีกด้วย
 
พิพิธภัณฑ์เหมืองทองคำโต๊ะโม๊ะ
 
10. พิพิธภัณฑ์เหมืองทองคำโต๊ะโม๊ะ ที่เที่ยวนราธิวาส ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านโต๊ะโม๊ะ ตำบลภูเขาทอง อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส เป็นจุดล่องแพและการร่อนแร่ทองคำเป็นเหมืองทองคำที่อยู่บริเวณภูเขาชายแดนไทย-มาเลเซีย พื้นที่ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาสุไหงโก-ลก โดยปัจจุบันพื้นที่เหมืองแห่งนี้ถูกจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยังคงหลงเหลือสิ่งก่อสร้างเดิมจำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น บ้านพัก ที่ทำการเดิม อุโมงค์ขุดทอง 4 อุโมงค์หลัก และอุโมงค์ย่อยอีกจำนวนมาก
 
ผานับดาว
 
11. ผานับดาว จุดเช็คอินนราธิวาส ตั้งอยู่ที่ ตำบลสุคิริน อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า bukit batu puteh (ฆุนุง บาตูปูเต๊ะห์) ในภาษามลายู แปลว่า เขาขาว  มีที่มาจากการที่ยอดเขามีหินสีขาว บรรยากาศของ ผานับดาว จะเย็นสบาย เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การไปเที่ยวในช่วงหน้าหนาวมาก มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถมองเห็นตัวอำเภอสุคิริน และเทือกเขาบูโด ได้อย่างชัดเจน ด้านหลังของผาจะมองเห็นเทือกเขาสันกาลาคีรีได้เป็นแนวยาว
 
มัสยิด 300 ปี (มัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น หรือมัสยิดตะโละมาเนาะ)
 
12. มัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น 300 ปี ที่เที่ยวนราธิวาส บ้านตะโละมาเนาะ ตำบลลุโบะสาวอ ห่างจากจังหวัดนราธิวาส เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 42 แล้วแยกที่บ้านบือราแง  นายวันฮูเซ็น อัส-ซานาวี ผู้อพยพมาจากบ้านสะนอยานยา จังหวัดปัตตานี เป็นผู้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2167 เริ่มแรกสร้างหลังคามุงใบลาน ต่อมาเปลี่ยนเป็นกระเบื้องดินเผา โดย ลักษณะของมัสยิดมีความแตกต่างจากมัสยิดทั่วไป คือเป็นอาคาร 2 หลังติดต่อกัน สร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลัง ลักษณะการสร้างจะใช้ไม้สลักแทนตะปู รูปทรงของอาคารเป็นแบบไทยพื้นเมืองประยุกต์เข้ากับศิลปะจีน และมลายูออกแบบได้ลงตัว ส่วนเด่นที่สุดของอาคาร คือ เหนือหลังคาจะมีฐานมารองรับจั่วบนหลังคาอยู่ชั้นหนึ่ง ส่วนหออาซานซึ่งมีลักษณะเป็นเก๋งจีน ก็ตั้งอยู่บนหลังคาส่วนหลัง  ฝาเรือนใช้ไม้ทั้งแผ่นแล้วเจาะหน้าต่าง ส่วนช่องลมแกะเป็นลวดลาย ใบไม้ ดอกไม้สลับลายจีน
 
พระพุทธอุทยานเขากง (วัดเขากง-พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล)
 
13. พระพุทธอุทยานเขากง (วัดเขากง-พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล) ที่เที่ยวนราธิวาส มีเนื้อที่ 142 ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลลำภู จากตัวเมืองใช้เส้นทางนราธิวาส-ระแงะ (ทางหลวงหมายเลข 4055) ประมาณ 9 กิโลเมตร จะมองเห็นวัดเขากง และพระพุทธรูปทักษิณมิ่งมงคลสีทองปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชรอยู่บนยอดเขา เป็นศิลปะสกุลช่างอินเดียตอนใต้ โดยเริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2509 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2512 องค์พระเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยโมเสกสีทอง หน้าตักกว้าง 17 เมตร ความสูงวัดจากพระเกศบัวตูมถึงบัวใต้พระเพลา 24 เมตร จัดเป็นพระพุทธรูปกลางแจ้งที่งดงามและใหญ่ที่สุดในภาคใต้ จากเนินเขาลูกถัดไปมีเจดีย์สิริมหามายาซึ่งเป็นทรงระฆัง เหนือซุ้มประตูทั้ง 4 ทิศมีเจดีย์รายประดับอยู่ ภายในประดิษฐานพระพรหม บนยอดสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ เนินเขาถัดไปอีกลูกหนึ่งเป็นที่ตั้งของอุโบสถ ผนังด้านนอกทั้งสี่ด้านประดับกระเบื้องดินเผาแกะสลัก ด้านหลังเป็นรูปช้างหมอบถวายดอกบัว หน้าบันเป็นรูปนักรบมีเทวดาถือคนโทถวาย
 
ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ
 
14. ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ ที่เที่ยวนราธิวาส ตั้งอยู่ที่ซอยภูธร ถนนเจริญเขต ในเขตเทศบาลตำบลสุไหงโกลก เดิมทีเจ้าแม่โต๊ะโมะนี้ประดิษฐานอยู่ที่บ้านโต๊ะโมะ อำเภอสุคิริน ต่อมาชาวบ้านได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่อำเภอสุไหงโกลก เป็นที่นับถือของชาวสุไหงโกลก และชาวจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งชาวจีนในประเทศมาเลเซียเป็นอย่างมากทุก ๆ ปี โดยจะมีการจัดงานประเพณีภาคใต้ประจำปีที่บริเวณศาลเจ้า ตรงกับวันที่ 23 เดือนสามของจีน (ประมาณเดือนเมษายน) ในงานจะมีกิจกรรมมากมาย เช่น มีการจัดขบวนแห่เจ้าแม่ ขบวนสิงโต ขบวนเอ็งกอ ขบวนกลองยาว และยังมีการลุยไฟด้วย
 
เขื่อนท่าพระยาสาย
 
15. เขื่อนท่าพระยาสาย ที่เที่ยวนราธิวาส ตำบลกะลุวอ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส จุดพักผ่อนสุดชิลของ นราธิวาส ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางนรา มีบรรยากาศสวยงาม และเป็นที่ตั้งของพลับพลาที่ประทับ รวมถึงเป็นจุดชมวิวสวย ๆ ของตัวเมืองนราธิวาส โดยจะสามารถมองเห็นแม่น้ำบางนรา ที่สลับกับแนวทิวสนและภูเขาตันหยง ไกลไปจนถึงบาเละฮิเล และบริเวณของ ลานนกเงือก แลนด์มาร์ค และ จุดเช็คอินของนราธิวาส จุดเด่นของ ผืนป่าฮาลาบาลา ที่เที่ยวธรรมชาติสวยๆ ของ แดนใต้
 
ทะเลหมอกบ้านภูเขาทอง
 
16. ทะเลหมอกบ้านภูเขาทอง ที่เที่ยวนราธิวาส เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวภาคใต้ในอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ที่นักท่องเที่ยวสามารถรับชมกับบรรยากาศของทะเลหมอกที่แสนงดงาม เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การกางเต็นท์พักแรมเพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็นแ ละรอรับไอหมอกในยามเช้า ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สถานที่แห่งนี้จึงสามารถมองเห็นสัตว์นานาชนิดที่ผ่านไป - มา และเป็นสถานที่ที่จัดได้ว่าสวยงามเป็นอันดับต้น ๆ ของจังหวัดนราธิวาสอีกด้วย
 
ตลาดตาบา
 
17. ตลาดตาบา ตั้งอยู่บ้านตาบา ตำบลเจ๊ะเห ที่เที่ยวภาคใต้ เป็นช่องทางการท่องเที่ยวและค้าขายระหว่างประเทศไทย–มาเลเซีย อีกแห่งหนึ่ง ผู้ที่จะข้ามไปซื้อของที่ร้านค้าปลอดภาษี ด่านศุลกากรเพนกาลันกูโบ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย สามารถข้ามเช้าไป-เย็นกลับได้ ระหว่างเวลา 06.30 - 17.30 น. หากข้ามไปค้างคืนต้องขอใบผ่านแดนแบบ 1 ปี ติดต่อทำบัตรผ่านแดนที่สำนักงานอำเภอตากใบ ห่างจากด่านตากใบ 3 กิโลเมตร
 
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นขุนละหาร
 
18. พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นขุนละหาร ที่เที่ยวนราธิวาส ตั้งอยู่บ้านกาเด็ง หมู่ที่ 7 ตำบลละหาร ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2552 โดยนายรัศมินทร์ นิติธรรม (ผู้ใหญ่มิง) เป็นผู้ก่อตั้ง ได้สืบทอดเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษ เพื่อรักษาศิลปะ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมให้กับเยาวชนรุ่นหลัง โดยมีกิจกรรมให้เด็กในชุมชนช่วงปิดเทอม เช่น เรียนรู้เรื่องศิลปะป้องกันตัวท้องถิ่น เรียกว่า ซีละ หรือ การรำตารีอีนา
 
อุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป
 
19. อุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป ที่เที่ยวนราธิวาส อยู่บริเวณเชิงเขาลีแย่ ห่างจากสถานีรถไฟตันหยงมัสไปตามทางหลวงหมายเลข 4055 ระยะทาง 8 กม. เป็นน้ำตกที่มียอดเขาสูง 5-6 ชั้น เบื้องล่างเป็นแอ่งหินขนาดใหญ่ สภาพภูมิประเทศทั่วไปร่มรื่นมาก มีเนื้อที่เขตวนอุทยานทั้งสิ้น 625 ไร่ ผลไม้ที่ขึ้นชื่อของอำเภอระแงะ ได้แก่ ลองกองซีโป เป็นพันธุ์ไม้ชนิดเดียวกับลางสาด มีเปลือกหนาและไม่มียางเหมือนลางสาด มีเนื้อน้อยกว่า แต่มีรสหวานกว่า ลองกองซีโป เป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อมากของอำเภอระแงะ
 
หอศิลป์ท้องถิ่นกึ่งคาเฟ่ สถานีสื่อศิลปะชายแดนใต้
 
20. หอศิลป์ท้องถิ่นกึ่งคาเฟ่ ที่เที่ยวนราธิวาสใหม่ สถานีสื่อศิลปะชายแดนใต้ เป็นหอศิลป์แห่งแรกในจังหวัดนราธิวาส ดำเนินงานโดย ปรัชญ์ พิมานแมน ศิลปินหนุ่มซึ่งกำลังทำปริญญาเอกด้านศิลปะอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ควบคู่ไปกับการเป็นอาจารย์สอนศิลปะ นอกจากนี้ ภายหอศิลป์ยังมีคาเฟ่ชื่อ De’ Art Cafe & Coffee Lab เสิร์ฟกาแฟรสชาติหอมกรุ่นเย้ายวนชวนลิ้มรส ในบรรยากาศงานศิลป์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิก และ ART LIBRARY ห้องสมุดศิลปะที่มีหนังสือศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก
 
ไร่แอลอง
 
21. ไร่แอลอง ที่เที่ยวนราธิวาส จากพื้นที่ทำนาทำไร่ ทำสวนผลไม้ ในเนื้อที่กว้างกว่า 80 ไร่ พัฒนาเป็นห้องพัก ห้องประชุมสัมมนา พื้นที่ทำกิจกรรมทั้งแบบส่วนตัวและหมู่คณะ พร้อมลานกางเต็นท์ ร้านกาแฟในลักษณะคาเฟ่เล็ก ๆ น่ารัก จนกลายเป็นสถานที่พักผ่อนที่มีเสน่ห์ท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่น โอบล้อมด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบและอากาศบริสุทธิ์ อีกสิ่งที่น่าสนใจโดยรวมของไร่แอลอง คือที่พักแบบโฮมสเตย์ (Homestay) ลานกางเต็นท์ (Camp Ground) ห้องประชุม (Auditorium) หลากหลายราคา รสชาติกาแฟจากร้านกาแฟแอลองคาเฟ่ก็หอมกรุ่น พร้อมเมนูเบเกอรีให้เลือกมากมาย นั่งดื่ม นั่งกิน มีโอกาสได้เอนตัวนอนมองวิวธรรมชาติทั้งแบบอินดอร์และเอาต์ดอร์ หรือจุดชมวิวท่ามกลางความร่มรื่นของผืนป่าแห่งเทือกเขาบูโดอย่างชัดเจน ชนิดที่เรียกได้ว่าชาวแคมปิงไม่ควรพลาดอย่างมาก
 
The garden camp
 
22. The garden camp ที่เที่ยวนราธิวาส ความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติของอำเภอสุคิริน ทั้งสายน้ำ ภูเขา ป่าไม้ สายหมอก หรือตำนานเหมืองทองโต๊ะโมะ เหล่านี้ล้วนกลายเป็นจุดดึงดูดให้ผู้คนสนใจไปเยี่ยมเยือนอย่างไม่ขาดสาย นัลเป็นสถานที่รวมตัวของกลุ่มเพื่อนนักทำกิจกรรม เป็นแหล่งรวมพลของเหล่านักแคมปิงและคนรุ่นใหม่ที่ชอบความท้าทายและรักธรรมชาติ เพราะจุดเด่นคือบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยหมอกขาว ให้ความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของป่าลึกฮาลา-บาลา นอกจากนี้ยังมีน้ำตกอยู่ริมลานกางเต็นท์ ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ อีกทั้งยังมีการให้บริการแบบ คาร์ แคร์ แคมป์ ซึ่งเป็นโปรแกรมพานักท่องเที่ยวที่มาพักทัวริ่งทั่วเมืองสุคิริน ได้สัมผัสเรียนรู้ทั้งตำนานเรื่องเล่า วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวแปลกตาละลานใจ
 
หาดนราทัศน์
 
23. หาดนราทัศน์ ทะเลนาราธิวาส นั้นเป็นหาดทรายขาวสะอาดยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไปสิ้นสุดที่ปลายแหลมด้านปากแม่น้ำบางนราซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันเรือกอและที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แนวสนทำให้บรรยากาศริมทะเลร่มรื่นมากขึ้น โดยชาวบ้านนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจกันที่นี่ ใกล้ ๆ กันมีหมู่บ้านชาวประมงตั้งกระจัดกระจายตามริมแม่น้ำบางนรา และบริเวณเวิ้งอ่าวมีเรือกอและของชาวประมงจอดอยู่มากมาย
 
ผ้าบาติดของชุมชนมุสลิมริมทะเล
 
24. ผ้าบาติดของชุมชนมุสลิมริมทะเล ที่เที่ยวนราธิวาส เป็นแหล่งผลิตผ้าบาติกวิถีชุมชนที่เต็มไปด้วยศิลปะความงดงามของเส้นใย ความเป็นมาคือชาวบ้านที่เคยทำงานโรงงานบาติกในมาเลเซียเดินทงกลับมาบ้าน เริ่มชักชวนกัน จัดตั้งกลุ่ม จึงเกิดเป็นเรื่องราวผลิตภัณฑ์ และภูมิปัญญา ที่ต่อยอดขึ้นเรื่อย ๆ จนนำมาแปรรูปเป็นสินค้าหลายชนิด เช่น เสื้อผ้า, กระเป่า เป็นต้น
 
ศาลเจ้าโก้วเล่งจี่
 
25. ศาลเจ้าโก้วเล่งจี่ ที่เที่ยวนราธิวาส ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ศาลเจ้าแห่งแรกในจังหวัดนราธิวาส ภายในมีรูปปั้น องค์เทพเจ้าต่างๆ สลักสวยงาม มีเจ้าที่หรือเจ้าศาล เป็น หัวมังกรคาบแก้ว จะมีลำตัวใหญ่ยาวมากคอยปกปักรักษาดูแลลูกหลานชาวไทย และที่ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐาน รูปหล่อหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดอีกด้วย โดยจะมีคนมากราบไหว้บนบานศาลกล่าวขอพรเป็นประจำ
 
ชุมชนตลาดยี่งอ
 
26. ชุมชนตลาดยี่งอ ที่เที่ยวนราธิวาส นั้นเป็นชุมชนเก่าแก่แห่งหนึ่ง บ้านเรือนร้านค้าประชาชนยังคงสภาพดั้งเดิมอยู่เป็นจำนวนมาก และสะอาดสวยงาม
 
หมู่บ้านจุฬาภรณ์12
 
27. หมู่บ้านจุฬาภรณ์12 ที่เที่ยวนราธิวาส เป็นหมู่บ้านที่มีประวัติศาสตร์มาจากการต่อสู้ ของกลุ่มขบวนการผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์  ทรงมีพระราชดำริในการจัดตั้งเป็นหมู่บ้านจุฬาภรณ์ 12 โดยภายในหมู่บ้านมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญคือพิพิธภัณฑ์สงคราม แสดงให้เห็นถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทางผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเคยใช้ 
 
ปากแม่น้ำบางนรา
 
28. ปากแม่น้ำบางนรา จุดเช็คอินนราธิวาส ในทุกเย็นที่สะพานปรีดานราทัศน์ บริเวณปากน้ำบางนรา เมืองนราธิวาส โดยเราจะได้เห็นฉากพระอาทิตย์ตกที่งดงามเหนือแม่น้ำบางนรา โดยมีกระชังปลาของชาวบ้านเป็นฉากหน้า และมีโดมสูงตระหง่านของมัสยิดกลางนราธิวาสเป็นฉากหลังอยู่ไม่ไกล ด้านหลังนั้นจะเป็นชุมชนชาวประมงที่นำเรือฆอและลวดลายสวยงามมาจอดเรียงราย ซึ่งนับเป็นฉากพระอาทิตย์ตกที่สวยงามตรึงตาตรึงใจ และทำให้เราลาจากนราธิวาสด้วยความรู้สึกว่า อยากจะมาสัมผัสความงดงามแบบนี้ด้วยสองตาอีกสักครั้ง
 
ตลาดสดเทศบาลเมืองนราธิวาส
 
29. ตลาดสดเทศบาลเมืองนราธิวาส ที่เที่ยวนราธิ เป็นตลาดเช้าใจกลางเมืองที่เรียกกันว่า ตลาดสดเทศบาล ใกล้กับถนนภูผาภักดี คือศูนย์รวมอาหารใต้นานาชนิดที่คึกคักอย่างยิ่ง เนื่องจากนราธิวาสมีทั้งชายทะเล และเทือกเขา เป็นผลิตจากทั้งสองพื้นที่ ทั้งพืชผักท้องถิ่นตามฤดูกาล เช่น ยอดมะม่วงหิมพานต์, สะตอ, กล้วย และลูกเนียง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมี กุ้งหอยปูปลาสด ๆ จากทะเล ที่มาจากเรือประมงพื้นบ้านเป็นส่วนใหญ่ เราจะได้เห็นปลาตัวโตเกือบเท่าตัวเด็ก เห็นปลาทูที่ยังเห็นลายข้างลำตัวสีเหลืองเพราะเพิ่งจับได้ไม่นาน แทบไม่ต้องบอกเลยว่าอาหารการกิน และทรัพยากรของที่นี่อุดมสมบูรณ์ขนาดไหน นอกจากอาหารสดเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีอาหารพื้นถิ่นแบบมุสลิมมลายูที่ต้องลอง ไม่ว่าจะเป็น ข้าวยำ ข้าวเหนียวไก่ทอด ข้าวหมกไก่ โรตี นาซิดาแก ลาแซ หรือขนมจีนแบบมลายู เป็นต้น
 
สถานีรถไฟ สุไหงโก-ลก
 
30. สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จุดเช็คอินนราธิวาส เรียกว่าเป็นสถานีใต้สุดแดนสยาม หากมีโอกาสได้มาเยือนทั้งทีจะไม่แวะมา ก็คงเหมือนมาไม่ถึง นอกจากจะมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ฮิป ๆ แล้ว ที่นี่ก็ยังคงเต็มไปความหลากหลายของผู้คนที่สัญจรไปมา และวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นอีกด้วย
 

ประเพณีนราธิวาส ประเพณีภาคใต้ ได้แก่

 
ประเพณีการแข่งเรือกอและด้วยฝีพาย
 
ประเพณีการแข่งเรือกอและและเรือยาวด้วยฝีพายหน้าพระที่นั่ง ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในระหว่างวันที่ 21-25 กันยายน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ได้เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ประชาชนชาวจังหวัดนราธิวาสต่างเห็นพ้องต้องกันว่าสมควรจัดให้มีการแข่งขันเรือกอและอันเป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวจังหวัดนราธิวาสถวายทอดพระเนตรเพื่อเทิดพระเกียรติในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นและเป็นการฟื้นฟูประเพณีการแข่งเรือกอและด้วยฝีพาย หน้าพระที่นั่ง และทรงมีพระบรมราชานุญาตให้จัดการแข่งขันเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2519 อีกทั้งได้พระราชทานถ้วยรางวัลแก่ทีมเรือที่ชนะการแข่งขันด้วย
 
ประเพณีการแห่นก
 
ประเพณีการแห่นก ความสำคัญของประเพณีการแห่นก ประเพณีการแห่นก เป็นประเพณีการทางพื้นเมืองของจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะที่นราธิวาส ซึ่งได้มีการกระทำสืบเนื่องกันมาเป็นเวลานาน เป็นประเพณีนิยมที่ไม่เกี่ยวข้องกับทางศาสนา ไม่เป็นประเพณีตามนักขัตฤกษ์ แต่จัดขึ้นเป็นครั้งคราวตามโอกาส เพื่อความสนุกรื่นเริง
 
ประเพณีบุญบั้งไฟ
 
ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีบุญบั้งไฟ แห่งเดียวในภาคใต้ เนื่องจากตำบลภูเขาทองมีราษฎรอพยพมาจากภาคอีสานเป็นส่วนใหญ่ และได้นำเอาศิลปะ วัฒนธรรมอันดีงานมาด้วย

บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร หมวดหมู่: บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร

รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร กลุ่ม: รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร

ปรับปรุงล่าสุด : 7 เดือนที่แล้ว

ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก

แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(7)

พระราชวัง พระราชวัง(1)

ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(5)

พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์(3)

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์

วัด วัด(16)

มัสยิด มัสยิด(23)

สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(3)

โครงการในพระราชดำริ โครงการในพระราชดำริ

โครงการหลวง โครงการหลวง(1)

วิถีชีวิต วิถีชีวิต

หมู่บ้าน ชุมชน หมู่บ้าน ชุมชน(8)

ธรรมชาติ และสัตว์ป่า ธรรมชาติ และสัตว์ป่า

อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(5)

เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(2)

น้ำตก น้ำตก(16)

แม่น้ำลำคลอง แม่น้ำลำคลอง(2)

อ่าว และชายหาด อ่าว และชายหาด(5)

หมู่เกาะ หมู่เกาะ(1)

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(4)

บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สนามกีฬา สนามกีฬา(1)

ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(5)

ช้อปปิ้ง ช้อปปิ้ง

ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(1)

บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร

รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร(1)