ทุ่งโปรงทอง

Rating: 3.8/5 (4 votes)

วันเปิดทำการ: เปิดทุกวัน

เวลาเปิดทำการ: 06:00 – 18:00 น.

 

ทุ่งโปรงทอง จังหวัดระยอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีชื่อเสียงของตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง จุดเด่นของที่นี่คือแนวป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของภาคตะวันออก เมื่อแสงแดดตกกระทบใบของต้นโปรงนับหมื่นต้นจะสะท้อนเป็นสีทองทั่วท้องทุ่ง สวยงามจนถูกขนานนามว่า “ทุ่งโปรงทอง” แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ผสมผสานระหว่างความงดงาม ความรู้ และการอนุรักษ์ได้อย่างลงตัว

 

พื้นที่ทุ่งโปรงทองอยู่บริเวณปากแม่น้ำประแส ซึ่งเป็นเขตที่แม่น้ำไหลลงสู่อ่าวไทย ลักษณะพื้นที่เป็นน้ำกร่อย มีทั้งช่วงน้ำขึ้นและน้ำลงสลับกันตลอดวัน ความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำนี้เองที่หล่อเลี้ยงระบบนิเวศชายฝั่งและทำให้ป่าชายเลนบริเวณนี้อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน เช่น ปลากะพงขาว กุ้ง หอย ปู และเป็นถิ่นพักพิงของนกอพยพนานาชนิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีนกจากทางเหนือบินมาหากินตามแนวป่าชายเลน

 

ต้นโปรงที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่นี้เป็นไม้ป่าชายเลนชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ceriops tagal อยู่ในวงศ์โกงกาง (Rhizophoraceae) ลักษณะเด่นคือใบเรียวรี สีเขียวตองอ่อน ส่วนปลายใบเรียวเล็ก โคนใบกลม ผลมีลักษณะเป็นแท่งคล้ายดินสอ เมื่อแสงแดดตกกระทบ ใบโปรงจะสะท้อนแสงเป็นสีทองสวยงาม โดยเฉพาะช่วงสายถึงเที่ยง นอกจากโปรงทองแล้ว ยังมีพืชชายเลนชนิดอื่น ๆ เช่น โกงกาง แสม ลำพู ตะบูน และจาก ที่ร่วมกันสร้างระบบรากค้ำยันแน่นหนา ช่วยป้องกันการกัดเซาะหน้าดินได้อย่างดี

 

เดิมพื้นที่บริเวณนี้เคยถูกบุกรุกเพื่อทำการประมงและเกษตรกรรมบางส่วน จนระบบนิเวศเสื่อมโทรม แต่ด้วยความร่วมมือของชุมชนปากน้ำประแส หน่วยงานราชการ และองค์กรสิ่งแวดล้อม ได้มีการฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนขึ้นใหม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนกลับมาเป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์ดังเดิม พร้อมจัดตั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อให้ผู้คนได้เรียนรู้และเห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติไปพร้อมกับการพักผ่อน

 

เส้นทางศึกษาธรรมชาติทุ่งโปรงทองเป็นสะพานไม้ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร สร้างทอดยาวเข้าไปกลางป่าชายเลน มีจุดพักชมวิวเป็นระยะ ๆ ให้ผู้มาเยือนได้หยุดพัก ฟังเสียงลมและนกร้อง ในช่วงแรกของเส้นทางจะผ่านแนวโกงกางและแสม ก่อนเข้าสู่บริเวณที่มีต้นโปรงขึ้นหนาแน่นจนกลายเป็นผืนสีทองอร่าม เมื่อเดินถึงกลางเส้นทางจะพบกับ “ลานทุ่งโปรงทอง” จุดชมวิวที่สวยที่สุดของพื้นที่ มองเห็นผืนป่าชายเลนทอดยาวไปจนถึงเส้นขอบทะเลประแส

 

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมทุ่งโปรงทองคือช่วงเช้าตรู่ตั้งแต่เวลา 07.00 น. หรือช่วงบ่ายแก่ ๆ ประมาณ 16.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่แสงแดดเฉียงกระทบใบไม้ ทำให้ใบโปรงสะท้อนสีทองอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนมาก เหมาะแก่การเดินชมธรรมชาติ ถ่ายภาพ หรือศึกษาพืชพรรณชายเลนอย่างใกล้ชิด

 

นอกจากการเดินชมป่าชายเลนแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถนั่งเรือชมธรรมชาติตามเส้นทางน้ำ ซึ่งจะพาผ่านป่าชายเลนแน่นขนัด ชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมฝั่ง การหาปู การวางลอบ และการประมงพื้นบ้าน รวมถึงยังได้เห็นสัตว์น้ำหลากชนิดที่อาศัยอยู่ในโคลนชายเลน การล่องเรือใช้เวลาประมาณ 30 – 45 นาที แล้วแต่เส้นทางและระดับน้ำ

 

ภายในพื้นที่ยังมีโครงการปลูกป่าชายเลนสำหรับนักท่องเที่ยวและกลุ่มอาสา โดยเทศบาลตำบลปากน้ำประแสเป็นผู้จัดกิจกรรม สามารถเข้าร่วมปลูกต้นกล้าโกงกางและโปรงทองได้ตามรอบกิจกรรม ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งในการช่วยอนุรักษ์พื้นที่ และสร้างความเข้าใจเรื่องระบบนิเวศชายฝั่งให้ลึกซึ้งขึ้น

 

จุดเด่นอีกแห่งหนึ่งคือสามารถเดินต่อจากสะพานไม้ไปยัง อนุสรณ์เรือหลวงประแส ซึ่งเป็นเรือรบหลวงที่ปลดประจำการและนำมาจัดแสดงไว้บริเวณปากแม่น้ำ ระยะทางจากทุ่งโปรงทองถึงเรือหลวงประแสประมาณ 2 – 3 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับช่วงเปิดใช้งานของสะพานไม้ เส้นทางนี้ให้วิวสวยและสงบ เหมาะกับการเดินช้า ๆ สูดกลิ่นทะเลและฟังเสียงนกน้ำตลอดทาง

 

นอกจากธรรมชาติอันงดงามแล้ว ชุมชนปากน้ำประแสยังมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตประมงพื้นบ้านที่น่าสนใจ บ้านไม้ริมแม่น้ำยังคงรูปแบบเดิม มีตลาดชุมชนขายอาหารทะเลสด ผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น น้ำปลา กะปิ ปลาหมึกแห้ง และของที่ระลึกจากไม้โกงกาง บางครอบครัวเปิดโฮมสเตย์ให้พักค้างคืน นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสชีวิตแบบคนชายฝั่งอย่างแท้จริง

 

สำหรับผู้ที่ต้องการถ่ายภาพธรรมชาติ ควรเลือกช่วงเวลาที่น้ำขึ้นถึงกลางวัน เพราะสะท้อนเงาใบไม้บนผิวน้ำได้สวย ส่วนช่วงน้ำลงจะเห็นโคลนและรากไม้ที่โผล่ขึ้นมา ซึ่งก็มีเสน่ห์ต่างกัน ถ้ามาในช่วงปลายฤดูฝน ท้องฟ้ามักสดใสและมีเมฆลอยต่ำ เพิ่มมิติให้ภาพถ่ายได้อย่างดี

 

การมาเที่ยวทุ่งโปรงทองควรแต่งกายให้เหมาะกับการเดินกลางแจ้ง เช่น เสื้อผ้าระบายอากาศดี รองเท้าพื้นยึดเกาะแน่น หมวกกันแดด และน้ำดื่มพกติดตัว ไม่ควรใช้โดรนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานดูแล เพราะอาจรบกวนสัตว์ป่า รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการส่งเสียงดังและการนำสัตว์เลี้ยงเข้าพื้นที่

 

การเดินทาง มายังทุ่งโปรงทองจากตัวเมืองระยองสามารถใช้รถยนต์ส่วนตัว ใช้ถนนสุขุมวิทหมายเลข 3 มุ่งหน้าอำเภอแกลง จากนั้นเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 3162 ตามป้ายบอกทางสู่ปากน้ำประแส ระยะทางจากตัวเมืองประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ หากไม่มีรถส่วนตัวสามารถนั่งรถสองแถวหรือรถรับจ้างท้องถิ่นจากตลาดแกลงมายังชุมชนปากน้ำประแสได้ แต่ควรสอบถามรอบรถล่วงหน้า

 

ทุ่งโปรงทองไม่ได้เป็นเพียงจุดท่องเที่ยวธรรมชาติ แต่ยังเป็นห้องเรียนขนาดใหญ่ที่สะท้อนความสัมพันธ์ของคนกับป่า ชาวบ้านที่นี่หลายคนเป็นอาสาสมัครดูแลสะพานไม้และพื้นที่รอบ ๆ เพื่อให้คงความสวยงามต่อไป การมาของนักท่องเที่ยวจึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชน และสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยตรง

 

สรุป ทุ่งโปรงทองเป็นสถานที่ที่ผสมผสานความงามทางธรรมชาติเข้ากับความตั้งใจของผู้คนได้อย่างกลมกลืน การได้เดินท่ามกลางป่าชายเลนสีทอง เสียงน้ำเคลื่อนไหวเบา ๆ และลมทะเลที่พัดผ่าน เป็นประสบการณ์เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง เหมาะกับผู้ที่ต้องการพักใจจากความวุ่นวายและเรียนรู้คุณค่าของธรรมชาติในเวลาเดียวกัน

 

 

ตอบ: ตั้งอยู่ในตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง บริเวณปากแม่น้ำประแส

 

ตอบ: เข้าชมฟรี เปิดทุกวัน 06:00 – 18:00 น. (กิจกรรมเรือหรืออาสาปลูกป่ามีค่าบริการตามรอบจัด)

 

ตอบ: ใช้ถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าอำเภอแกลง เลี้ยวเข้าทางหลวง 3162 และถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ตามป้ายเข้าสู่บ้านแสมผู้ในเขตเทศบาลปากน้ำประแส

 

ตอบ: ช่วงเช้าและบ่ายแก่ ๆ แสงเฉียงทำให้ใบโปรงสะท้อนสีทองสวยงามที่สุด

 

ตอบ: มีบริการล่องเรือชมป่าชายเลนตามรอบน้ำขึ้นลง ใช้เวลาประมาณ 30 – 45 นาที

 

ตอบ: ติดต่อเทศบาลตำบลปากน้ำประแส โทร. 038-661-720 (ต่อ 0)