Rating: 3.8/5 (4 votes)
วัดหัวข่วง
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
วัดหัวข่วง ตั้งอยู่เลขที่ 77 บ้านหัวข่วง ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินวัดมีเนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน 10 ตารางวา
อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถ กุฏิสงฆ์ ปูชนียวัตถุมี พระประธาน พระพุทธรูป วัดหัวข่วง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2425 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ. 2025 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 12 เมตร ยาว 25 เมตร
การบริหาร และการปกครองมีเจ้าอาวาสชื่อ พระครูพิเศษนันทวุฒิ เจ้าคณะตำบลในเวียง เขต 2 วัดหัวข่วงตั้งอยู๋ใกล้หอคำ หรือพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน มีวิหาร และเจดีย์
มีลักษณะศิลปกรรมแบบท้องถิ่นล้านนา สกุลช่างเมืองน่าน ฝีมือประณีตงดงาม โดยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าเมืองน่าน และต่อมาราวปี พ.ศ. 2472 ในสมัยเจ้ามหาพรมสุรธาดา เจ้าผู้ครองน่าน องค์ สุดท้าย วิหารวัดหัวข่วงเด่นที่หน้าบันประดับลวดลายไม้จำหลักรูปพรรณพฤกษา อย่างประณีต และสวยงาม
ซุ้มประตูหน้าต่าง ประดับลายปูนปั้นรูปใบผักกาด อันเป็นศิลปะแบบตะวันตก สร้างโดยช่างฝีมือชาวเมืองน่าน ที่มีเอกลักษณ์ เป็นของตนเอง นอกจากนี้ในวัดยังมีหอไตรเก่าลักษณะ คล้ายวิหาร แต่มีขนาดเล็ก และทรงสูง หน้าบันและฝาชั้นบน ประดับลายแกะสลักสวยงาม
ตั้งอยู่ใกล้องค์เจดีย์ วัดหัวข่วงนับเป็นวัดที่อยู่ใน "เขตหัวแหวน" ของเมืองน่านได้รับบูรณะจากกรมศิลปากรและงบประมาณจากเทศบาลเมืองน่านและการบริจาค สมทบ จากอีกหลายส่วน จึงทำให้เกิดการบูรณะวัดและพัฒนาภูมิทัศน์ ได้อย่างสวยงาม เป็นที่ดึงดูดใจแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
หอไตร เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมทรงสูง ใต้ถุนสูงก่อทึบมีทางเข้าทางเดียวมีบันได ภายในอาคารชั้นบนของหอไตร ฝาผนังทำด้วยไม้ มีหน้าต่างด้านละหนึ่งบาน ยกเว้นด้านหลัง หลังคาเป็นรูปจั่วมีการลดชั้นแบบปั้นหยา หลังคาด้านบนช่อฟ้าใบระกา
หอไตร เป็นศิลปะล้านนาผสมผสานศิลปะพม่า โดยมีเจ้ามหาพรมสุรธาดา เจ้าผู้ครองนครน่านเป็นประธานสร้างพร้อมด้วยบุตร-ธิดา ญาติพี่น้อง คณะศรัทธาวัดหัวข่วงและประชาชนผู้มีจิตศรัทธาทุกคนร่วมกันสร้างเพื่อค้ำชูพระพุทธศาสนา เมื่อปี พ.ศ. 2473 เจ้าอาวาสวัดหัวข่วง คือ พระอโนเป็นประธานฝ่ายส่งฆ์ ร่วมกันสร้าง
พระพุทธรูปปางมารวิชัย วัดหัวข่วง ลักษณะทั่วไปคล้ายคลึงกับพระเจ้าทองทิพย์ เฉพาะพระพักตร์แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลผสมผสานระหว่างศิลปะทั้งสองรูปแบบที่กล่าวมาแล้ว ส่วนชายจีวรที่ยาวมาจรดบั้นพระองค์แลดูสั้นกว่าปกติ อาจจะเป็นเพราะการยืดส่วนบั้นพระองค์ให้สูงขึ้นรับกับพระวรกายที่เพรียวบาง เช่นเดียวกับ พระพุทธรูปปางมารวิชัย วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร พระพุทธรูปทั้งสององค์นี้มีอายุราวครึ่งแรกของพุทธศตรววษที่ 21
พระพุทธรูปปางสมาธิ ลักษณะพระพักตร์รูปไข่ พระขนงโก่ง พระเนตรเล็กเหลือบต่ำ พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์เล็กยาว ขมวดพระเกศาใหญ่ พระรัศมีเป็นเปลวแหลม ครองจีวรห่งเฉียง และเห็นยอดพระถันข้างเดียว ชายจีวรตัดตรง ฐานหน้ากระดานมน มีขา 3 ขา
เจดีย์วัดหัวข่วง ตั้งอยู่ในบริเวณวัดหัวข่วง ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงปราสาทหรือเรืองทอง อิทธิพล ศิลปะล้านนา ฐานล่างทำเป็นหน้ากระดานสี่เหลี่ยม รับฐานบัวลูกแก้ว 2 ชั้น มีชั้นหน้ากระดานคั่นกลาง ฐานบัวลูกแก้วชั้นบน ย่อเก็จรับกับเรือนธาตุ ไปจรดชั้นบัวถลาใต้องค์ระฆังส่วนเรือนธาตุมีซุ้มจรมันด้านละซุ้ม
ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยสำริด ที่มุมผนังทั้งสองข้างปั้นเป็นรูปเทวดาทรงเครื่องยืนพนมมือ เหนือชั้นอัสดงตอนสุดเรือนธาตุเป็นชั้นบัวถลาซ้อนกัน 3 ชั้น องค์ระฆัง มีขนาดเล็กไม่มีบัลลังก์ ลักษณะของรูปทรง
โดยส่วนรวมคล้ายกับเจดีย์วัดโลกโมลี อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นระหว่าง รัชกาลพระเมืองเกษเกล้า ร่วมพ.ศ. 2071 แต่ส่วนฐานล่างและชั้นบัวถลาของเจดีย์นี้ยึดสูงขึ้น ทำให้มีลักษณะเรียวสูงกว่า แสดงถึงพัฒนาการทรงรูปแบบที่ช่างเมืองน่าน ดัดแปลงนำมาใช้ในระยะหลัง ซึ่งคงมีอายุไม่เก่าไปกว่าครึ่งแรกของพุทธศตวรรษ ที่ 22
หมวดหมู่: สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
กลุ่ม: วัด
ปรับปรุงล่าสุด : 8 ปีที่แล้ว