เกาะไผ่

Rating: 4.4/5 (5 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวชลบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 24 ชั่วโมง
เกาะไผ่ จังหวัดชลบุรี หนึ่งในเกาะที่หลายคนอาจยังไม่ค่อยคุ้นหูเท่าเกาะล้านหรือเกาะสีชัง แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศเงียบสงบ ทะเลใสสะอาด และแนวปะการังที่ยังอุดมสมบูรณ์ เกาะไผ่ถือว่าเป็นสวรรค์ของคนรักทะเลอย่างแท้จริง เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ห่างจากพัทยาไม่มาก ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ตเพียงประมาณ 30 นาทีเท่านั้น
แม้เกาะไผ่จะยังไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวางเท่ากับเกาะยอดนิยม แต่ข้อดีของมันคือการที่ยังคงความสงบ ความเป็นธรรมชาติ และไม่ได้ถูกพัฒนาให้เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างเชิงพาณิชย์มากนัก นั่นทำให้นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ได้สัมผัสกับบรรยากาศของทะเลไทยในแบบดั้งเดิมที่หาดูได้ยากแล้วในปัจจุบัน
ประวัติและที่มาของเกาะไผ่ เกาะไผ่เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มหมู่เกาะที่มีอยู่ทั้งหมด 5 เกาะ ได้แก่ เกาะไผ่ เกาะเล็ก เกาะเหลือม เกาะกรวย และเกาะมารวิชัย ปัจจุบันเกาะทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือ ซึ่งมีหน้าที่รักษาสภาพแวดล้อมและดูแลความปลอดภัยของพื้นที่ ด้วยเหตุนี้เองจึงมีกฎข้อบังคับชัดเจนว่าไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักค้างแรมบนเกาะ อีกทั้งยังไม่มีร้านค้าหรือสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ จึงจำเป็นต้องเตรียมอาหารและน้ำดื่มมาเอง อย่างไรก็ตาม กฎเหล่านี้กลับช่วยรักษาความสมบูรณ์ของเกาะได้เป็นอย่างดี
เกาะไผ่ยังเป็นที่ตั้งของช่องกระโจมไฟบนยอดเขา ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเกาะ ไม่เพียงเป็นสิ่งบอกตำแหน่งทางทะเลให้กับเรือที่สัญจรไปมา แต่ยังกลายเป็นจุดชมวิวที่หลายคนอยากขึ้นไปสัมผัส เพื่อมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลและหมู่เกาะรอบ ๆ ได้อย่างเต็มตา
ความน่าสนใจและกิจกรรมบนเกาะ สิ่งแรกที่หลายคนประทับใจเมื่อมาถึงเกาะไผ่คือหาดทรายที่ขาวสะอาดและน้ำทะเลที่ใสจนสามารถมองเห็นพื้นทรายด้านล่างได้ชัดเจน บรรยากาศบนเกาะเงียบสงบกว่าหลายเกาะใกล้เคียง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่อยากพักผ่อนอย่างแท้จริง
กิจกรรมยอดนิยมของเกาะไผ่คือการดำน้ำดูปะการัง ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำตื้นหรือน้ำลึก ที่นี่เต็มไปด้วยแนวปะการังที่ยังอุดมสมบูรณ์ มีฝูงปลาหลากสีแหวกว่ายอยู่รอบ ๆ ผู้ที่เป็นนักดำน้ำมือใหม่สามารถลงเล่นน้ำใกล้ชายฝั่งเพื่อชมโลกใต้น้ำได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ซับซ้อน ส่วนผู้ที่มีประสบการณ์ดำน้ำลึกก็สามารถลงไปสำรวจแนวปะการังลึกที่มีความสวยงามและความหลากหลายมากขึ้น
นอกจากนี้ กิจกรรมตกปลากลางทะเลก็เป็นอีกหนึ่งความสนุกที่หลายแพ็คเกจทัวร์มักจัดไว้ให้ รวมถึงกิจกรรมพายเรือคายัค นั่งเรือกล้วย และเล่น Stand Up Paddle Board ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการท่องเที่ยว สำหรับใครที่ไม่อยากทำกิจกรรมก็สามารถนั่งพักผ่อนบนหาดทราย รับลมทะเล และเก็บภาพบรรยากาศที่เงียบสงบไว้เป็นความทรงจำ
การเดินทางไปเกาะไผ่ การเดินทางไปเกาะไผ่ทำได้สะดวก เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางบางนา–ตราด มุ่งหน้ามายังจังหวัดชลบุรี จากนั้นตรงไปยังพัทยาใต้ จุดหลักในการขึ้นเรือคือท่าเรือแหลมบาลีฮาย ซึ่งเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ที่มีบริการเรือสปีดโบ๊ตและเรือทัวร์ไปยังเกาะต่าง ๆ รอบพัทยา รวมถึงเกาะไผ่ด้วย
จากท่าเรือแหลมบาลีฮาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีด้วยเรือสปีดโบ๊ต โดยราคาจะขึ้นอยู่กับแพ็คเกจทัวร์และจำนวนผู้โดยสาร ตัวอย่างเช่น การเหมาสปีดโบ๊ตสำหรับนักท่องเที่ยว 1–6 คน ราคาอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาท หากแชร์กับผู้อื่นราคาจะถูกลง นอกจากนี้ยังมีบริการเรือยอร์ชสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและหรูหรา ซึ่งราคาสูงกว่าหลักหมื่นบาทต่อวัน
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะไผ่ต้องชำระค่าธรรมเนียมเข้าเกาะ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 50 บาทสำหรับคนไทย และ 150 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ค่าใช้จ่ายหลักอื่น ๆ ได้แก่ค่าแพ็คเกจทัวร์ One Day Trip ที่รวมค่าเรือไป-กลับ อุปกรณ์ดำน้ำ กิจกรรมเสริมบางอย่าง รวมถึงอาหารกลางวันและเครื่องดื่มบางส่วน โดยทั่วไปค่าแพ็คเกจเริ่มต้นที่ประมาณ 1,500–3,000 บาทต่อคน หากเลือกบริการระดับพรีเมียมราคาจะสูงกว่านี้
สิ่งที่มักไม่รวมอยู่ในแพ็คเกจคือค่ารถรับส่งจากโรงแรมมายังท่าเรือ ค่าอาหารเพิ่มเติมหรือน้ำดื่มส่วนตัว และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่นักท่องเที่ยวอาจต้องการ เช่น การเช่าอุปกรณ์ถ่ายภาพใต้น้ำ
ฤดูกาลที่เหมาะสม เกาะไผ่สามารถท่องเที่ยวได้เกือบตลอดทั้งปี แต่ฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม และช่วงปลายปีที่น้ำทะเลใสและคลื่นลมสงบ อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง เนื่องจากในบางช่วงอาจมีฝนตกหรือคลื่นแรง ทำให้การเดินเรือไม่สะดวกและอาจเสี่ยงอันตราย
หากต้องการบรรยากาศที่เงียบสงบ ควรเลือกเดินทางในวันธรรมดา เพราะวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดยาวมักมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นมากกว่า
การเตรียมตัวก่อนเดินทาง เนื่องจากเกาะไผ่ไม่มีร้านค้าและไม่อนุญาตให้พักค้างคืน จึงควรเตรียมอาหารและน้ำดื่มไปให้เพียงพอ ควรพกครีมกันแดด หมวกกันแดด แว่นตากันแดด และผ้าเช็ดตัว รวมถึงรองเท้าแตะที่เหมาะกับการเดินชายหาด สำหรับผู้ที่ตั้งใจดำน้ำควรตรวจสอบกับผู้ให้บริการว่ามีอุปกรณ์ครบหรือไม่ หากต้องการถ่ายภาพใต้น้ำควรนำกล้องกันน้ำหรืออุปกรณ์เสริมไปเอง
ความพิเศษของเกาะไผ่เมื่อเทียบกับเกาะอื่น เมื่อเปรียบเทียบกับเกาะล้านหรือเกาะสีชัง เกาะไผ่มีข้อแตกต่างชัดเจนตรงที่ความเงียบสงบและความเป็นธรรมชาติที่ยังคงอยู่ เนื่องจากไม่มีสิ่งปลูกสร้างเชิงพาณิชย์มากนัก และมีกฎห้ามค้างคืนบนเกาะ ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง อีกทั้งยังเป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงในด้านความสมบูรณ์ของแนวปะการัง
นักท่องเที่ยวที่มองหาความสะดวกสบายเต็มรูปแบบอาจรู้สึกไม่คุ้นเคยกับเกาะไผ่มากนัก แต่สำหรับคนที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่แท้จริงของทะเลไทย เกาะไผ่คือคำตอบที่ลงตัว
เกาะไผ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความงดงามของธรรมชาติ หาดทรายขาว น้ำทะเลใส และโลกใต้ทะเลที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ แม้จะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือที่พัก แต่ความเป็นธรรมชาตินี่เองที่ทำให้เกาะไผ่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร การเดินทางไม่ซับซ้อน ค่าใช้จ่ายเหมาะสม และสามารถวางแผนเป็นทริปวันเดียวได้อย่างลงตัว
| ประเด็น | เกาะไผ่ | เกาะล้าน |
|---|---|---|
| ระยะเวลาเดินทาง | เรือสปีดโบ๊ตประมาณ 30 นาทีจากท่าเรือแหลมบาลีฮาย | เรือโดยสารประมาณ 30–45 นาทีจากท่าเรือแหลมบาลีฮาย |
| การพักค้างคืน | ไม่อนุญาต (ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือ) | มีรีสอร์ทและเกสต์เฮาส์ สามารถค้างคืนได้ |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | ไม่มีร้านค้า ต้องเตรียมอาหารและน้ำไปเอง | มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ มอเตอร์ไซค์ให้เช่า และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน |
| บรรยากาศ | เงียบสงบ ธรรมชาติยังคงสมบูรณ์ | คึกคัก เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว |
| กิจกรรม | ดำน้ำดูปะการัง (น้ำตื้น/น้ำลึก) ตกปลา พายคายัค | บานาน่าโบ๊ต เจ็ตสกี พาราเซลลิ่ง ดำน้ำ |
| ค่าธรรมเนียมเข้าเกาะ | คนไทย 50 บาท / ชาวต่างชาติ 150 บาท | ไม่มีค่าเข้าเกาะ |
| เหมาะกับใคร | ผู้ที่ชอบความสงบ รักธรรมชาติ และโลกใต้ทะเล | นักท่องเที่ยวที่ชอบกิจกรรมหลากหลายและพักค้างคืน |
FAQ
เกาะไผ่อยู่ที่ไหน?
เกาะไผ่อยู่ในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เดินทางจากท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยา ใช้เวลาเพียง 30 นาทีด้วยเรือสปีดโบ๊ต
สามารถค้างคืนบนเกาะไผ่ได้หรือไม่?
ไม่สามารถค้างคืนได้ เนื่องจากเกาะอยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือและต้องการรักษาสภาพแวดล้อมให้สมบูรณ์
ค่าใช้จ่ายไปเกาะไผ่ประมาณเท่าไร?
ค่าเข้าเกาะสำหรับคนไทย 50 บาท ต่างชาติ 150 บาท ค่าแพ็คเกจ One Day Trip เริ่มต้นประมาณ 1,500–3,000 บาทต่อคน หากเหมาสปีดโบ๊ตราคาอยู่ราว 6,000 บาทสำหรับ 1–6 คน
กิจกรรมยอดนิยมบนเกาะไผ่มีอะไรบ้าง?
ดำน้ำดูปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก ตกปลา พายเรือคายัค เล่นน้ำทะเล และพักผ่อนบนหาดทรายที่เงียบสงบ
ช่วงไหนเหมาะกับการเที่ยวเกาะไผ่มากที่สุด?
ช่วงฤดูร้อน (เมษายน–พฤษภาคม) และปลายปี เพราะน้ำทะเลใสและคลื่นลมสงบ ทำให้การเดินเรือปลอดภัยและบรรยากาศเหมาะกับการพักผ่อน
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage





หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
อาร์ตแกลเลอรี่(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(
ศูนย์ฝึกอบรม(
มหาวิทยาลัย
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด(
โบสถ์(
มัสยิด(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ตลาดน้ำ(
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(
ดอย และภูเขา(
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(
น้ำตก(
ถ้ำ(
อ่าว และชายหาด(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(
แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(
สนามกีฬา(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
สวนสนุก(
สวนน้ำ(
โรงละคร(
โรงภาพยนตร์(
กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(
ช้อปปิ้ง
ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(