เขื่อนพลวง

Rating: 3.8/5 (4 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวจันทบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 06.00 - 20.00 น.
เขื่อนพลวง ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ตำบลพลวง กิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี เป็นแหล่งเก็บกักน้ำที่มีความสำคัญอย่างมากต่อชุมชนและเกษตรกรในพื้นที่ เนื่องจากถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้สำหรับการอุปโภคบริโภคและการเพาะปลูก ทำให้พื้นที่โดยรอบสามารถมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี แม้ในช่วงหน้าแล้ง เขื่อนแห่งนี้มีความสูง 46.5 เมตร และมีสันเขื่อนยาวถึง 1,100 เมตร สามารถกักเก็บน้ำได้มากถึง 77.38 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณน้ำที่มากพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการทั้งด้านเกษตรกรรมและการใช้น้ำในชีวิตประจำวันของประชาชนในหลายพื้นที่ของจังหวัดจันทบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง
นอกจากการเก็บกักน้ำแล้ว เขื่อนพลวงยังมีระบบท่อส่งน้ำที่ถูกออกแบบมาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งน้ำที่กักเก็บไว้ไปใช้ในการชลประทานสำหรับการเพาะปลูก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 58.28 ไร่ ระบบนี้ช่วยให้เกษตรกรสามารถปลูกพืชได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาภัยแล้ง ถือเป็นแหล่งน้ำสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นคงด้านเกษตรกรรมและอาหารของพื้นที่อย่างยั่งยืน การมีน้ำที่เพียงพอสำหรับเพาะปลูกยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ทำให้ชุมชนสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเกษตร รวมถึงยังเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชาวบ้านให้ดีขึ้น
เขื่อนพลวงไม่ได้มีความสำคัญเฉพาะด้านการเกษตรเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในจังหวัดจันทบุรี ด้วยทัศนียภาพที่งดงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ ล้อมรอบไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวสามารถมาชื่นชมวิวทิวทัศน์ของผืนน้ำกว้างใหญ่และแนวภูเขาที่ทอดยาวสลับซับซ้อน เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ และดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติรอบตัว โดยเฉพาะในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นที่แสงแดดอ่อน ๆ ส่องกระทบผิวน้ำ ทำให้เกิดภาพสะท้อนที่สวยงามราวกับภาพวาด จึงเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติและการถ่ายภาพ
บริเวณสันเขื่อนยังเป็นพื้นที่ที่เปิดให้ผู้มาเยือนได้เดินเล่นหรือปั่นจักรยานเพื่อชมความงดงามของทัศนียภาพโดยรอบ บรรยากาศที่เงียบสงบทำให้เหมาะแก่การทำกิจกรรมแบบครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน นอกจากนี้ยังสามารถนั่งพักผ่อนริมอ่างเก็บน้ำและเพลิดเพลินกับการชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามเหนือสันเขื่อน ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน เขื่อนพลวงเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการมาชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า หรือพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในยามเย็น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัย เขื่อนพลวงยังเป็นประตูสู่การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น เส้นทางเดินป่าและน้ำตกต่าง ๆ ในเขาคิชฌกูฎ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดจันทบุรี นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางเพื่อมาเยี่ยมชมเขื่อนพลวงในช่วงเช้า และเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงในช่วงบ่ายได้อย่างสะดวก การเดินทางมายังเขื่อนพลวงก็ไม่ยุ่งยาก สามารถขับรถยนต์ส่วนตัวจากตัวเมืองจันทบุรีได้ภายในเวลาไม่นาน ถนนหนทางสะดวกสบาย มีป้ายบอกทางชัดเจนตลอดเส้นทาง
นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว เขื่อนพลวงยังมีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศโดยรอบ การกักเก็บน้ำช่วยรักษาสมดุลของธรรมชาติ ทำให้สัตว์น้ำและพืชน้ำสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงยังเป็นแหล่งพักพิงของสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าโดยรอบ เช่น นกหลากหลายชนิดที่มักพบเห็นได้ในช่วงเช้าตรู่และยามเย็น การรักษาความสมดุลของระบบนิเวศนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธรรมชาติคงความอุดมสมบูรณ์ แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อชุมชนในด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกด้วย
เขื่อนพลวง จึงเป็นมากกว่าสิ่งก่อสร้างที่ใช้เก็บกักน้ำ แต่ยังเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตรกรรม การท่องเที่ยว หรือการอนุรักษ์ธรรมชาติ ด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามและความสำคัญทางเศรษฐกิจ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมและเรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของเขื่อนในการพัฒนาชุมชนและการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจันทบุรีจึงไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนเขื่อนพลวง เพื่อสัมผัสทั้งความงดงามของธรรมชาติและเรียนรู้คุณค่าของแหล่งน้ำสำคัญแห่งนี้ในเวลาเดียวกัน
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage
























หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(
มหาวิทยาลัย
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด(
โบสถ์(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(
ดอย และภูเขา(
น้ำตก(
น้ำพุร้อน(
ถ้ำ(
แม่น้ำลำคลอง(
อ่าว และชายหาด(
หมู่เกาะ(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(
สนามกีฬา(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(