
ศาลเจ้าพ่อแก้ว

Rating: 3.8/5 (4 votes)




สถานที่ท่องเที่ยวพิจิตร
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
ศาลเจ้าพ่อแก้ว จังหวัดพิจิตร เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบางมูลนากและผู้คนจากพื้นที่ใกล้เคียงให้ความเคารพศรัทธาอย่างลึกซึ้ง สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ศาลเจ้าในเชิงสัญลักษณ์ของความเชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนที่หล่อหลอมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ศรัทธา และวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างแนบแน่น ประวัติความเป็นมาของศาลเจ้าพ่อแก้วนั้นเริ่มต้นจากชาวจีนชื่อ “นายห้อย แซ่ลี้” ซึ่งได้เป็นผู้พบองค์เจ้าพ่อแก้วในลักษณะไม้แกะสลักที่ลอยมาตามแม่น้ำน่าน เมื่อราวปี พ.ศ. 2477 และด้วยความศรัทธาเขาจึงได้อัญเชิญขึ้นมาตั้งไว้ริมแม่น้ำเพื่อให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชา
ต่อมาชาวบางมูลนากได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างศาลเจ้าเล็ก ๆ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจ้าพ่อแก้ว โดยศาลในยุคแรกเป็นเพียงศาลเล็ก ๆ ที่มีบันได 5 ขั้น ภายในสามารถเข้าไปสักการะได้ครั้งละไม่กี่คน แต่ด้วยความศรัทธาและความผูกพันของผู้คนทำให้ศาลแห่งนี้กลายเป็นจุดศูนย์รวมของชุมชน ทว่าในปี พ.ศ. 2492 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่ตลาดบางมูลนาก ส่งผลให้ศาลเจ้าพ่อแก้วถูกเผาทำลายไปด้วย องค์เจ้าพ่อแก้วจึงได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานชั่วคราวที่โรงเรียนโถงจื้อเก่า ซึ่งในเวลาต่อมาชาวบ้านต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ควรสร้างศาลเจ้าพ่อแก้วขึ้นใหม่ให้มีความมั่นคงถาวรและเหมาะสมกับการสักการะ
ด้วยแรงศรัทธาของชาวบางมูลนากในองค์เจ้าพ่อแก้ว จึงได้มีการสร้างศาลเจ้าพ่อแก้วหลังใหม่ที่มีขนาดใหญ่และสะดวกต่อการสักการะมากขึ้น และได้อัญเชิญองค์เจ้าพ่อแก้วเข้าประดิษฐาน ณ ศาลหลังใหม่ในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2550 นับแต่นั้นเป็นต้นมาศาลเจ้าพ่อแก้วได้กลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนจำนวนมากเดินทางมาเพื่อกราบไหว้ ขอโชคลาภ และเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมของความศรัทธาในระดับท้องถิ่นที่สะท้อนถึงพลังแห่งการรวมใจของชุมชน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2563 ชาวบางมูลนากได้ร่วมกันบูรณะศาลเจ้าพ่อแก้วหลังเก่าให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศาลเจ้าพ่อแก้ว เพื่อเก็บรักษาประวัติศาสตร์และความทรงจำที่ผูกพันกับชุมชนให้คงอยู่สืบไป ทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่สักการะบูชาเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อที่สำคัญของท้องถิ่นอีกด้วย
ศาลเจ้าพ่อแก้วในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงามอลังการเป็นอาคารสองชั้นที่มีการตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตาตามแบบความเชื่อของชาวจีน ภายในพื้นที่กว้างขวางสะดวกสบายสำหรับผู้ที่เดินทางมาสักการะ ซุ้มประตูทางเข้าของศาลถูกออกแบบอย่างโดดเด่นและมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ โดยที่ประตูทางเข้าจะมีภาพวาดขององค์รักษ์ทั้งสองบานเพื่อปกปักรักษาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เมื่อขึ้นไปยังชั้นสองจะพบกับองค์เจ้าพ่อแก้วประดิษฐานอย่างสง่างามให้ผู้คนได้กราบไหว้ ด้านขวามือมีองค์เจ้าแม่กวนอิมพันกรสีขาวที่ประดิษฐานอยู่บนแท่นประทับอันวิจิตร ส่วนทางด้านซ้ายมือจะพบกับองค์เทพเจ้าแห่งโชคลาภที่ผู้คนให้ความเคารพบูชาและนิยมมากราบไหว้เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต
ศาลเจ้าพ่อแก้วตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองบางมูลนาก ไม่ไกลจากที่ว่าการอำเภอบางมูลนาก ทำให้ผู้ที่เดินทางมาสามารถหาสถานที่ได้อย่างสะดวก การเดินทางมาศาลเจ้าพ่อแก้วสามารถทำได้ง่าย โดยจากตัวเมืองพิจิตรเดินทางด้วยรถยนต์มายังอำเภอบางมูลนากระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็สามารถมาสักการะและสัมผัสบรรยากาศแห่งศรัทธาที่อบอวลไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และความงดงามทางสถาปัตยกรรมได้แล้ว
ศาลเจ้าพ่อแก้วไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ที่มีความสำคัญต่อจิตวิญญาณของชุมชน แต่ยังเป็นสถานที่ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ผูกพันกับผู้คนในพื้นที่บางมูลนากมาอย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่เดินทางมาเยือนจังหวัดพิจิตร เพราะนอกจากจะได้สักการะขอพรจากองค์เจ้าพ่อแก้วแล้วยังได้เรียนรู้เรื่องราวของชาวบ้าน ความเชื่อ และการมีส่วนร่วมของชุมชนที่ร่วมแรงร่วมใจกันสืบสานและรักษาสถานที่แห่งนี้ให้คงอยู่ต่อไป ศาลเจ้าพ่อแก้วจึงเปรียบเสมือนมรดกทางจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของชาวบางมูลนากอย่างแท้จริง




แสดงความเห็น
คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|