หน้าหลัก > ภาคกลาง > จ.กรุงเทพมหานคร > อ.คลองสามวา > ต.ทรายกองดินใต้ > มัสยิดกมาลุลอิสลาม


กรุงเทพมหานคร

มัสยิดกมาลุลอิสลาม

มัสยิดกมาลุลอิสลาม

Rating: 3.6/5 (7 votes)

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
 
มัสยิดกมาลุลอิสลาม บรรพบุรุษของมัสยิดกมาลุลอิสลาม อพยพมาจากรัฐไทรบุรีทางตอนใต้ของประเทศไทย เมื่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 บรรพบุรุษได้ช่วยกันถากถางป่าที่รกร้างจนกลายเป็นทุ่ง จับจองที่ดินทำกิน ปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ร่วมกันเป็นหมู่บ้านใหญ่ในเวลาต่อมา
 
ส่วนใหญ่บรรพบุรุษนับถือศาสนาอิสลาม ประกอบอาชีพเกษตรกรรม คือการทำนา การจัดตั้งมัสยิดหลักแรกของตำบลแห่งนี้ คือใช้บ้านทรงไทย เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาในวันศุกร์ และใช้เป็นศูนย์กลางประจำหมู่บ้าน ผู้ที่อุทิศ ชื่อ บาเฮม เป็นผู้ที่มีความรู้ทางศาสนาคนหนึ่ง และเป็นผู้มีฐานะดีในสมัยนั้น ต่อมามีผู้อุทิศ (วากัฟ) ให้เป็นที่สร้างมัสยิดรวมกัน 4 พี่น้อง คือ ฮัจยีดะมัน ภรรยาชื่อฮัจยะห์มีเนาะ,โต๊ะมัง โต๊ะสะมัง, ฮัจยะห์ฮาลีเมาะห์, เนาะเซียะห์ หลังจากที่ฮัจยีดะมันได้เสียชีวิต ฮัจยะห์มีเนาะห์ ได้นำโฉนดที่ดินมามอบให้กับปะจิ๊สะเมาะ  ขำเดช
 
เพื่อทำการสร้างสุเหร่า จำนวน 60 ไร่ และมีผู้บริจาคไม้มาสร้างมัสยิดเป็นเรือนไม้ใช้ประกอบพิธีละหมาดแทนบ้านหลังเดิม มัสยิดหลังไม้มีอายุประมาณ 70 ปี ประชากรขยายเพิ่มมากขึ้นสัปปุรุษได้รวมความคิดและลงมติว่าจะต้องขยายมัสยิดให้กว้างขวางขึ้นจึงช่วยกันซื้อทรายมาขึ้นกองไว้ ก็มีคนนำมากองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นกองใหญ่กองค้างอยู่นาน ผู้คนที่เดินทางผ่านไปมามองเห็นกองทรายทุกครั้ง จึงเรียกติดปากว่า “ทรายกองดิน”
 
ในสมัยรัชการที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้ทรงเสด็จประภาสคลองแสนแสบโดยทางเรือกลไฟ เมื่อปี พ.ศ. 2450 มาทางทิศตะวันออก เมื่อมาเข้าเขตสุเหร่า เครื่องยนต์เกิดขัดข้อง นายท้ายเรือบังคับเรือเข้าฝั่งให้ช่างเครื่องแก้ไข พระองค์ท่านก็ขึ้นมาเดินบนฝั่ง อยู่สักพักเครื่องยนต์ก็ใช้ได้ พระองค์ท่านลงเรือกลับ อยู่มาไม่นาน ก็มีเรือโยงกลไฟนำหินมา 10 ลำ ทราย 10 ลำ ทหารขนขึ้นมากองไว้นานพอสมควร ชาวบ้านไม่เคยเห็นกองหิน กองทรายใหญ่โตขนาดนี้ ก็พูดว่า “ทรายกองดิน”  
 
ได้ทรงแวะมาเยี่ยมเยียนมัสยิดซึ่งขณะนั้นยังคงเป็นเรือนไม้หลักเล็กๆ และมีกองทรายกองใหญ่เตรียมไว้สำหรับสร้างอาคาร พระองค์ทรงตรัสถามว่า “กองทรายเหล่านี้ไว้ทำไม” และได้รับคำตอบว่าเพื่อสร้างสุเหร่า นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวบ้านจึงเรียกมัสยิดนี้ว่า “สุเหร่าทรายกองดิน” และทางราชการก็ใช้เป็นชื่อตำบลจนถึงปัจจุบัน การก่อสร้างอาคารมัสยิดเริ่มมาจนแล้วเสร็จ เป็นตัวอาคาร มีความกว้าง ยาว 46 เมตร ใช้ทำพิธีละหมาดเรื่อยมา เป็นเวลาประมาณ 80 ปี
 
อาคารมัสยิดปัจจุบันได้สร้างเป็นอาคารหลังใหม่ รอบอาคารมัสยิดเดิมซึ่งมีอายุกว่า 200ปี มัสยิดได้ปรับปรุงอาคารมัสยิดใหม่โดยอนุรักษ์ของเดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด หลังคาของตัวอาคารเดิมที่มุงด้วยกระเบื้องเก่าแก่โบราณสู้แดดสู้ฝนมานับร้อยปี พื้นอาคารสั่งทำพิเศษตามแบบฉบับของดั้งเดิม ที่รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานให้ไว้ เพดาลไม้สักซึ่งใช้ต้นซุงทั้งต้นเพื่อทำเป็นคานยึดพื้นทั้งหมดไว้ด้วยกัน
 
ทำจากไม้สักที่มีอายุเก่าแก่และยังคงความสมบูรณ์ไว้อย่างครบถ้วน ประตูและหน้าต่างทรงโค้งที่เรียงรายเป็นทิวแถวสองด้านคือสุดเขตของอาคารเก่า มัสยิดได้ขยายอาคารออกไปให้โอ่โถงกว้างขวางมากยิ่งขึ้น พื้นที่ในมัสยิดสามารถรองรับผู้คนได้มากกว่าพันคน มิมบัรทำจากไม้สักสลักลวดลายโดดเด่น ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ภายในมัสยิด
 
นับเป็นโบราณวัตถุเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 5 ที่มัสยิดได้ปรับปรุงบูรณะตลอดมา เพื่อใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน ตัวอาคารภายนอกของมัสยิดในปัจจุบันมีการก่อสร้างขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นกว้างขวางและสง่างามเพื่อรองรับการใช้งาน และการทำกิจกรรมของคนในชุมชนที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน มัสยิดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางแห่งการรวมจิตใจของชาวชุมชนแห่งนี้ สืบทอดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รอบๆ บริเวณมัสยิดเป็นสวนสวย มีต้นไม้เขียวชอุ่ม ถูกจัดไว้อย่างสวยงาม เพื่อต้อนรับทุกๆ คนที่แวะมาเยือน
 
ด้านหน้าของมัสยิดที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยสายน้ำที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชน ฝูงปลานาๆ ชนิดหลายแสนตัวแหวกว่ายผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาทักทายผู้คนที่รอคิวให้อาหาร ตลอดทางเดินมีหลังคาสีเขียวธรรมชาติสบายตา ระโยงระยานไปด้วยม่านไทรย้อยที่โรยตัวทักทายเราไปตลอดทาง ทำให้ที่นี่เป็นที่พักกายพักใจของผู้คนในชุมชนแห่งนี้ ฝังตรงข้ามของฝั่งคลองเป็นที่ตั้งของโรงเรียนสุเหร่าทรายกองดิน สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ มีการสอนที่ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่เด็กนักเรียน
 
ซึ่งนักเรียนทั้งหลายคือคนรุ่นใหม่ที่จะพัฒนามัสยิดต่อไปในอนาคตข้างหน้า มัสยิดเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชน นอกจากนี้แล้วมัสยิดยังได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนกมาลุลอิสลาม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่เด็กที่จะเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษา และปลูกฝังการศึกษาให้แก่เด็กตั้งแต่เยาว์วัย โดยจัดทำหลักสูตรขึ้นเอง มีการสอนทั้งสามัญและศาสนา บูรณาการสอดแทรกวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้าไปด้วย
 
ซึ่งศูนย์เด็กเล็กแห่งนี้อยู่ภายใต้การบริหารของมัสยิดกมาลุลอิสลาม  ปัจจุบันประชาชนในละแวกนี้ประกอบอาชีพรับจ้าง  ค้าขาย  รับราชการและมีส่วนน้อยที่ยังทำไร่ทำนาอยู่  เพราะที่ดินส่วนใหญ่ถูกท่ายเทกรรมสิทธิ์ครอบครองไปยังนายทุน  ฐานะทางเศรษฐกิจจึงอยู่ในระดับปานกลาง  พอมีพอกิน  จำนวนประชากรทั้งสิ้น  2,000  ครอบครัว  คิดเป็นจำนวนประชากรประมาณ 20,000 คน กระจายอยู่ในแขวงทรายกองดินใต้
 
มัสยิดกมาลุลอิสลาม ทรายกองดิน เป็นมัสยิดที่เก่าแก่มีประวัติความเป็นมายาวนานเกือบ 200 ปี บรรพบุรุษของชาวมุสลิมในบริเวณนี้อพยพมาจากรัฐไทรบุรีทางตอนใต้ของประเทศไทย ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่3 ชุมชนบริเวณนี้แต่เดิมประกอบอาชีพเกษตรกรรม  คือการทำนาในที่ดินถากถางป่ารกร้างจนกลายเป็นเถือกสวนไร่นา
 
ในสมัยรัชกาลที่ 5 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้ทรงเสด็จประพาสคลองแสนแสบโดยเรือยอร์ดชัยยา เมื่อปี พ.ศ. 2450 พระองค์ได้ทรงแวะมาเยี่ยมเยียนมัสยิด ซึ่งขณะนั้นยังคงเป็นเรือนไม้หลังเล็กๆ และมีกองทราย กองดิน กองใหญ่วางเตรียมไว้สำหรับสร้างอาคาร พระองค์จึงตรัสถามว่า ”กองทรายกองดินเหล่านี้มีไว้ทำไม” และได้รับคำตอบว่า เพื่อสร้างมัสยิด นับแต่นั้นเป็นต้นมาชาวบ้านจึงเรียกมัสยิดแห่งนี้ว่า "สุเหร่าทรายกองดิน"
 
ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 วันที่ 20 กันยายน  2537 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จประพาสคลองแสนแสบ พระองค์ท่านได้ทรงพระราชทานต้นตะแบกและปล่อยปลาที่หน้ามัสยิด เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ปลาและรักษาสิ่งแวดล้อมทำให้ วันที่ 20 กันยายน ของทุกๆ  ปี เป็นวันอนุรักษ์คูคลองแห่งชาติ และทำให้ชาวชุมชนแห่งนี้ได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่งอกงามอยู่ในใจเหล่าพสกนิกรเฉกเช่นเดียวกับดอกตะแบกนี้ที่กำลังชุช่อเบ่งบานอย่างสวยงามเป็นที่สุด
 
อาคารมัสยิดปัจจุบันได้สร้างเป็นอาคารหลังใหม่ รอบอาคารมัสยิดเดิมซึ่งมีอายุกว่า 200ปี มัสยิดได้ปรับปรุงอาคารมัสยิดใหม่โดยอนุรักษ์ของเดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด หลังคาของตัวอาคารเดิมที่มุงด้วยกระเบื้องเก่าแก่โบราณสู้แดดสู้ฝนมานับร้อยปี พื้นอาคารสั่งทำพิเศษตามแบบฉบับของดั้งเดิม  ที่รัชกาลที่5ทรงพระราชทานให้ไว้ เพดาลไม้สักซึ่งใช้ต้นซุงทั้งต้นเพื่อทำเป็นคานยึดพื้นทั้งหมดไว้ด้วยกัน ทำจากไม้สักที่มีอายุเก่าแก่และยังคงความสมบูรณ์ไว้อย่างครบถ้วน ประตูและหน้าต่างทรงโค้งที่เรียงรายเป็นทิวแถวสองด้านคือสุดเขตของอาคารเก่า  มัสยิดได้ขยายอาคารออกไปให้โอ่โถงกว้างขวางมากยิ่งขึ้น พื้นที่ในมัสยิดสามารถรองรับผู้คนได้มากกว่าพันคน
 
มิมบัรทำจากไม้สักสลักลวดลายโดดเด่น ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ภายในมัสยิด นับเป็นโบราณวัตถุเก่าแก่สมัยรัชกาลที่5 ที่มัสยิดได้ปรับปรุงบูรณะตลอดมา เพื่อใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน ตัวอาคารภายนอกของมัสยิดในปัจจุบันมีการก่อสร้างขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นกว้างขวางและสง่างามเพื่อรองรับการใช้งาน และการทำกิจกรรมของคนในชุมชนที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน มัสยิดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางแห่งการรวมจิตใจของชาวชุมชนแห่งนี้ สืบทอดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รอบๆ บริเวณมัสยิดเป็นสวนสวย มีต้นไม้เขียวชอุ่ม ถูกจัดไว้อย่างสวยงาม เพื่อต้อนรับทุกๆ คนที่แวะมาเยือน
 
ด้านหน้าของมัสยิดที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยสายน้ำที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชน ฝูงปลานาๆ ชนิดหลายแสนตัวแหวกว่ายผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาทักทายผู้คนที่รอคิวให้อาหาร ตลอดทางเดินมีหลังคาสีเขียวธรรมชาติสบายตา ระโยงระยานไปด้วยม่านไทรย้อยที่โรยตัวทักทายเราไปตลอดทาง ทำให้ที่นี่เป็นที่พักกายพักใจของผู้คนในชุมชนแห่งนี้ ฝังตรงข้ามของฝั่งคลองเป็นที่ตั้งของโรงเรียนสุเหร่าทรายกองดิน สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
 
มีการสอนที่ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่เด็กนักเรียน ซึ่งนักเรียนทั้งหลายคือคนรุ่นต่อไปที่จะพัฒนามัสยิดต่อไปในอนาคตข้างหน้า มัสยิดจึงเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชน นอกจากนี้แล้วมัสยิดยังได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนกมาลุลอิสลาม  เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่เด็กที่จะเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษา และปลูกฝังการศึกษาให้แก่เด็กตั้งแต่เยาว์วัย  โดยจัดทำหลักสูตรขึ้นเอง มีการสอนทั้งสามัญและศาสนา บูรณาการสอดแทรกวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้าไปด้วย ซึ่งศูนย์เด็กเล็กแห่งนี้อยู่ภายใต้การบริหารของมัสยิดกมาลุลอิสลาม
 
ปัจจุบันประชาชนในละแวกนี้ประกอบอาชีพรับจ้าง ค้าขาย รับราชการและมีส่วนน้อยที่ยังทำไร่ทำนาอยู่ เพราะที่ดินส่วนใหญ่ถูกท่ายเทกรรมสิทธิ์ครอบครองไปยังนายทุน ฐานะทางเศรษฐกิจจึงอยู่ในระดับปานกลาง พอมีพอกิน จำนวนประชากรทั้งสิ้น 2,000 ครอบครัว คิดเป็นจำนวนประชากรประมาณ 20,000 คน กระจายอยู่ในแขวงทรายกองดินใต้ แขวงทรายกองดิน และแขวงแสนแสบ

โทร : 029168779

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หมวดหมู่: สถานที่ศักดิ์สิทธิ์

มัสยิด กลุ่ม: มัสยิด

ปรับปรุงล่าสุด : 9 ปีที่แล้ว

แผนที่มัสยิดกมาลุลอิสลาม

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(3)

แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(23)

พระราชวัง พระราชวัง(13)

ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(20/21)

พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์(57)

บ้านโบราณ และเมืองโบราณ บ้านโบราณ และเมืองโบราณ(3)

อาร์ตแกลเลอรี่ อาร์ตแกลเลอรี่(19)

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ

พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา(4)

ห้องสมุด ห้องสมุด(4)

มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์

วัด วัด(72/430)

โบสถ์ โบสถ์(2)

มัสยิด มัสยิด(67)

สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(8)

โครงการในพระราชดำริ โครงการในพระราชดำริ

โครงการหลวง โครงการหลวง(1)

วิถีชีวิต วิถีชีวิต

หมู่บ้าน ชุมชน หมู่บ้าน ชุมชน(5)

ตลาดท้องถิ่น ตลาดท้องถิ่น(9)

ตลาดน้ำ ตลาดน้ำ(2)

ธรรมชาติ และสัตว์ป่า ธรรมชาติ และสัตว์ป่า

แม่น้ำลำคลอง แม่น้ำลำคลอง(4)

อ่าว และชายหาด อ่าว และชายหาด(1)

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(1)

บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(4)

แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์ แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(6)

สนามกีฬา สนามกีฬา(9)

ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(20)

สวนสนุก สวนสนุก(4)

สวนน้ำ สวนน้ำ(1)

โรงละคร โรงละคร(8)

โรงภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์(1)

ช้อปปิ้ง ช้อปปิ้ง

ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(21)

ห้างสรรพสินค้า ห้างสรรพสินค้า(7)

สปาเพื่อสุขภาพ สปาเพื่อสุขภาพ

สปาเพื่อสุขภาพ สปาเพื่อสุขภาพ(2)

ร้านอาหาร ร้านอาหาร

มิชลินสตาร์ มิชลินสตาร์(5)

ที่พัก ที่พัก

โรงแรม โรงแรม(3)

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว(1)

บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร

รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร(6)

ขนมไทยชาววัง, ขนมโบราณ, สูตรขนมไทย ขนมไทยชาววัง, ขนมโบราณ, สูตรขนมไทย(53)