หน้าหลัก > ภาคกลาง > จ.กรุงเทพมหานคร > อ.พระนคร > ต.พระบรมมหาราชวัง > ขนมชั้น วิธีทำขนมไทยชาววัง สูตรขนมโบราณ


กรุงเทพมหานคร

ขนมชั้น วิธีทำขนมไทยชาววัง สูตรขนมโบราณ

ขนมชั้น วิธีทำขนมไทยชาววัง สูตรขนมโบราณ

Rating: 3.5/5 (4 votes)

ขนมชั้น ขนมไทยชาววัง ขนมโบราณ มีรสชาติหวานละมุนลิ้น และมีกลิ่นหอมใบเตย เป็นขนมชาววังจัดเป็นขนมมงคลที่นิยมใช้ตามงานมงคลต่าง ๆ คนโบราณมีความเชื่อว่า หากสามารถทำได้ถึง 9 ชั้น ก็จะทำให้มีสิริมงคลก้าวหน้า และเจริญรุ่งเรืองในตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าภาพผู้จัดงาน หรืองานมงคลสมรสบ่าวสาว ปัจจุบันมีการนำมาดัดแปลงประดิษฐ์เป็นช่อดอกกุหลาบ หรือช่อดอกไม้ต่างๆตามสมัยนิยมและมีความสวยงามไม่แพ้ขนมชนิดอื่นเลย
 
ขนมชั้น ขนมหวานสีสันสวยงาม เนื้อขนมจะทั้งเหนียวนุ่ม เป็นขนมไทยเคี้ยวเพลินอีกชนิดสำหรั โดยสีสันสวยงามของขนมชั้นที่เห็นนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะอันตรายต่อร่างกาย เพราะว่าเป็นสีที่ได้มาจากธรรมชาติ คือ ใบเตย และอัญชันนั่นเอง ส่วนสีชมพูนั้นได้มาจากสีผสมอาหาร เราจะพบขนมชั้นได้ในประเทศต่าง ๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย 
 
ขนมชั้น เป็นขนมหวานที่กินมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความเป็นเด็กก็ชอบจะกินทีละชั้น เวลาเคี้ยวให้ความรุ้สึกหนุบหนับอร่อยไม่รู้ลืม ขนมชั้นที่คลาสสิคที่สุดก็คือขนมชั้นใบเตย ชั้นสีเขียวสลับกับชั้นสีขาว ทำมาจากสีธรรมชาติ ขนมไทยทำแล้วเพลิน ๆ แต่ต้องใช้ความอดทนรอความสุกของแต่ละชั้น
 
ขนมไทย ขนมโบราณ ขนมหวานไทย นั้นมีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทย คือ จะมีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน โดยมีสีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีที่ประณีตบรรจง ขนมไทยดั้งเดิม ขนมโบราณ นั้นจะมีส่วนผสมคือ แป้ง, กะทิ และน้ำตาล เท่านั้น
 
โดยในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่า งานทำบุญ งานแต่ง เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร โดยส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาสวยงาม และมีความประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม
 
วิธีทำขนมไทย ส่วนผสมของขนมส่วนใหญ่จะเป็นกะทิ และน้ำตาล แป้ง 3 - 4 ชนิด แล้วแต่สูตรและความชอบเนื้อขนมในแต่ละแบบ ซึ่งแป้งในแต่ละอย่างก็จะมีคุณสมบัติทำให้ขนมมีเนื้อต่างกัน โดยแบ่งได้ดังนี้
- แป้งมัน จะทำให้เนื้อขนมเนียน, นุ่ม, เหนียว, หนืด และดูใสเป็นมัน
 
- แป้งข้าวเจ้า จะทำให้เนื้อขนมแข็ง และอยู่ตัว
 
- แป้งถั่วเขียว จะทำให้ขนมอยู่ตัว ไม่เหนียวมากเกินไป
 
- แป้งท้าว จะทำให้เนื้อขนมเนียน เหนียว แข็ง แต่จะใสน้อยกว่าแป้งมัน
 
ส่วนผสมน้ำเชื่อม 
- หางกะทิ 900 กรัม
- น้ำตาลทราย 950 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
 
วิธีทำ
เทน้ำตาลทรายลงกระทะทองเหลือง ตามด้วยเกลือ และหางกะทิ คนให้ส่วนผสมผสมละลายเข้ากัน จากนั้นนำขึ้นตั้งบนเตา ให้ไฟกลาง เคี่ยวส่วนผสมให้เป็นน้ำเชื่อม ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักไว้
 
ส่วนผสมแป้ง
- แป้งมันสำปะหลัง 480 กรัม 
- แป้งเท้ายายม่อม 150 กรัม 
- แป้งข้าวเจ้า 30 กรัม 
- หัวกะทิ 900 กรัม 
- เทียนอบขนม
- น้ำใบเตยเข้าข้น 100 กรัม 
- น้ำลอยดอกมะลิ 100 กรัม
- น้ำมันขี้โล้
 
วิธีทำขนมชั้น (สูตรขนมไทย, สูตรขนมชั้น)
1. เทแป้งเท้ายายม่อม ลงอ่างผสม ตามด้วยแป้งมัน และแป้งข้าวเจ้า คลุกเคล้าให้แป้งทั้ง 3 ชนิดเข้ากันดี จากนั้นนำไปอบควันเทียนนาน 1 คืน
 
2. จากนั้นค่อย ๆ เทหัวกะทิลงนวดแป้งในส่วนผสมข้อที่ 1 ให้เหนียวเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ล่อนไม่ติดภาชนะ แล้วจึงคลายแป้งด้วยหัวกะทิ คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน จากนั้นเติมน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ คนให้ส่วนผสมเข้กันดี
 
3. แป้งส่วนผสมที่ 2 ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 เติมน้ำลอยดอกมะลิ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบาง พักไว้ ส่วนที่ 2 เติมน้ำใบเตยเข้มข้นคนให้ส่วนผสมเข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบาง พักไว้
 
4. จากนั้นตั้งหม้อนึ่ง ให้ไฟกลาง ใส่น้ำลงในหม้อ กะปริมาณให้ขนมสุก ขณะเดียวกันเตรียมถาด โดยนำน้ำมันขี้โล้ทาถาดให้ทั่ว นำถาดไปนึ่งก่อนประมาณ 5 นาที จากนั้นเทเนื้อขนมส่วนสีเขียวลงนึ่ง ประมาณ 5 นาที แล้วจึงเทส่วนสีขาวลงตามนึ่งอีก 5 นาที ทำสลับกันแบบนี้ชั้นที่1-5 ใช้เวลานึ่งชั้นละ 5 นาที ส่วนชั้นที่ 6-8 ใช้เวลานึ่งชั้นละ 1 นาที และชั้นที่ 9 ใช้เวลานึ่ง 10 นาที เมื่อขนมสุกดี นำออกจากหม้อนึ่ง ตัดเป็นชิ้นตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ พร้อมรับประทาน

 

บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร หมวดหมู่: บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร

ขนมไทยชาววัง, ขนมโบราณ, สูตรขนมไทย กลุ่ม: ขนมไทยชาววัง, ขนมโบราณ, สูตรขนมไทย

ปรับปรุงล่าสุด : 7 เดือนที่แล้ว

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(3)

แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(23)

พระราชวัง พระราชวัง(13)

ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(20/21)

พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์(57)

บ้านโบราณ และเมืองโบราณ บ้านโบราณ และเมืองโบราณ(3)

อาร์ตแกลเลอรี่ อาร์ตแกลเลอรี่(19)

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ

พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา(4)

ห้องสมุด ห้องสมุด(4)

มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์

วัด วัด(72/430)

โบสถ์ โบสถ์(2)

มัสยิด มัสยิด(67)

สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(8)

โครงการในพระราชดำริ โครงการในพระราชดำริ

โครงการหลวง โครงการหลวง(1)

วิถีชีวิต วิถีชีวิต

หมู่บ้าน ชุมชน หมู่บ้าน ชุมชน(5)

ตลาดท้องถิ่น ตลาดท้องถิ่น(9)

ตลาดน้ำ ตลาดน้ำ(2)

ธรรมชาติ และสัตว์ป่า ธรรมชาติ และสัตว์ป่า

แม่น้ำลำคลอง แม่น้ำลำคลอง(4)

อ่าว และชายหาด อ่าว และชายหาด(1)

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(1)

บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(4)

แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์ แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(6)

สนามกีฬา สนามกีฬา(9)

ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(20)

สวนสนุก สวนสนุก(4)

สวนน้ำ สวนน้ำ(1)

โรงละคร โรงละคร(8)

โรงภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์(1)

ช้อปปิ้ง ช้อปปิ้ง

ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(21)

ห้างสรรพสินค้า ห้างสรรพสินค้า(7)

สปาเพื่อสุขภาพ สปาเพื่อสุขภาพ

สปาเพื่อสุขภาพ สปาเพื่อสุขภาพ(2)

ร้านอาหาร ร้านอาหาร

มิชลินสตาร์ มิชลินสตาร์(5)

ที่พัก ที่พัก

โรงแรม โรงแรม(3)

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว(1)

บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร

รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร(6)

ขนมไทยชาววัง, ขนมโบราณ, สูตรขนมไทย ขนมไทยชาววัง, ขนมโบราณ, สูตรขนมไทย(53)