Rating: 3.4/5 (5 votes)
มัสยิดหลวงโกชาอิศหาก
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
มัสยิดวัดเกาะ อยู่ริมฝั่งเจ้าพระยาด้านตะวันออกใกล้กับวัดเกาะ(วัดสัมพันธวงศ์) เป็นมัสยิดที่สร้างบนพื้นที่ของหลวงโกชาอิศหาก โดยบ้านของท่านอยู่ริมฝั่งเจ้าพระยาด้านตรงข้าม คือ บริเวณคลองสาน ในประมาณรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว นายหวัน มูซาพ่อค้าจากไทรบุรี เดินทางเข้ามาค้าขาย และตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองธนบุรี ท่านหวัน มูซาเป็นบิดาของหลวงโกชา แต่งงานกับนางสาวเลี๊ยบ
ซึ่งเป็นลูกสาวชาวจีนย่านสวนมะลิ ที่ดินของหลวงโกชา อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฟาก ฝั่งคลองสานมีที่ดินประมาณ 12 ไร่ มีพวกข้าทาสทำสวนผลไม้จนถึง เลิกทาส เมื่อมีการตัดถนนเจริญนครในสมัยรัชกาลที่ 7 ที่ดินบริเวณดังกล่าวจึงถูกแบ่งเป็น 2 ฝาก โดยที่ดินส่วนใหญ่อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน หลวงโกชาอิศหาก มีบุตร ธิดาหลายคน แต่เป็นชาย 3 คน คือ พระโกชาอิศหาก (หมัด) พระยาสมันตรัฐบุรินทร์ (ตุ๋ย บินอับดุลลา)
และขุนกาญจนประศาสน์ อนึ่ง “บินอับดุลลา” คือ นามสกุลพระยาสมันตรัฐฯ ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว หลวงโกชาอิศหาก รับราชการอยู่ 4 แผ่นดิน ตั้งแต่รัชกาลที่ 5 โดยทำหน้าที่เป็นล่ามและรับเครื่องราชบรรณาการ ดอกไม้เงินดอกไม้ทอง ดังนั้นเวลาชาวต่างชาตินำเครื่องราชบรรณาการมาก็มาพักกันที่บ้านนี้ ซึ่งคุณปู่จะทำหน้าที่ถวายเครื่องราชบรรณาการต่อไป สำหรับที่ดินฝั่งตรงข้ามซึ่งเยื้องกับที่บ้านใช้เป็นที่เก็บสินค้า เป็นคลังสินค้า เพราะท่านเป็นพ่อค้าติดต่อค้าขาย ที่ดินแปลงนี้มีถนนทรงวาดตัดผ่าน เมื่อเลิกจากคลังสินค้า ที่ดินส่วนหนึ่งขายไป คงเหลืออยู่ประมาณ 2 ไร่เศษซึ่งเป็นบริเวณที่คุณปู่เกณฑ์ลูกหลานช่วยกันสร้างสุเหร่าไว้เป็นที่ละหมาดรวมกัน
เนื่องจากสุเหร่านี้อยู่ใกล้วัดเกาะจึงเรียกกันว่า สุเหร่าวัดเกาะ และส่วนหนึ่งของพื้นที่ทำเป็นกุโบรฺคือ ที่ฝังศพ ศพของคุณปู่และคุณเติมศักดิ์ สมันตรัฐ ก็ฝังที่นั่น (อิ่ม สมันตรัฐ, สัมภาษณ์ : 26 เมษายน 2540, น้อมจิต สมันตรัฐ, สัมภาษณ์ : 13 พฤษภาคม 2540) คุณเสรี สมันตรัฐ (สัมภาษณ์ 13 พฤษภาคม 2540) เล่าว่า สุเหร่านี้ไม่ได้จดทะเบียน เลยไม่มีชื่อเป็นทางการ เรียกกันติดปากว่า สุเหร่าวัดเกาะ
และไม่มีคณะกรรมการมัสยิดเหมือนสุเหร่าหรือมัสยิดที่จดทะเบียน พวกเราสืบสานการปกครองดูแลกันมาตลอด โดยใช้เงินรายได้จากการให้เช่าที่และอาคารรอบมัสยิดเป็นทุน แต่ก็เป็นมัสยิดเปิด คือ ใครมาใช้ก็ได้ แต่ละศุกร์ก็มีมุสลิมเข้ามาละหมาดประมาณ 100 คน เป็นมุสลิมที่ทำงานหรือมีบ้านเรือนบริเวณนั้น ที่กุโบรฺก็เป็นที่สาธารณะเช่นกัน
มัสยิดหลวงโกชาอิศหาก เป็นสุเหร่าสวนบุคคล แต่เปิดให้ละหมาดแก่สาธารณชน เป็นมัสยิดที่ตัั้งอยู่ใจกลาง china town อย่างกลมกลืน ลักษณะมัสยิด เป็นอาคารสไตล์ยุโรป มีกุโบร์สำหรับฝังพี่น้องมุสลิม ผู้ดูแลมัสยิดเป็นคนวงในของตระกูล ที่ดูแลสืบทอดกันมา ชื่อมัสยิด เป็นชื่อแบบไทย ที่แสดงให้ลูกหลานและผู้เข้ามาละหมาด ได้ทราบถึงรากประวัติของบุคคลที่เริ่มก่อสร้าง และได้แสดงย้ำถึงความเป็นคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม ที่อยู่ท่ามกลางวัฒนธรรมชาวจีนอย่างสมานฉันท์และกลมเกลียว อันเป็นลักษณะเฉพาะของคนไทยที่มีความรัก สามัคคี ไม่มีความแตกต่างในเรือง เชื่อชาติ ศาสนา ความเป็นอยู่
หมวดหมู่: สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
กลุ่ม: มัสยิด
ปรับปรุงล่าสุด : 9 ปีที่แล้ว