งานบุญลอยเรือสะเดาะเคราะห์ชาวมอญที่สังขละบุรี

 
งานบุญลอยเรือสะเดาะเคราะห์ชาวมอญที่สังขละบุรี 26 กันยายน 2558 - 28 กันยายน 2558 ณ บริเวณลานหน้าเจดีย์พุทธคยา วัดวังก์วิเวการาม  ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
 
ประวัติความเป็นมาของประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ของคนมอญ ว่ากันว่าเกิดขึ้นเมื่อครั้งพระเจ้าธรรมเจดีย์ขึ้นครองราชย์ปกครองอาณาจักรมอญ เมืองหงสาวดี พระองค์ทรงเห็นพระภิกษุสามเณรในเมืองมอญหงสาวดี มีความประพฤติย่อหย่อนต่อพระธรรมวินัย พระพุทธศาสนาในเมืองมอญเกิดมลทินด่างพร้อยมากมาย
 
จึงมีพระราชประสงค์จะสังคายนาพระพุทธศาสนาในเมืองมอญเสียใหม่ เพื่อชำระหมู่พระภิกษุสงฆ์ให้มีความบริสุทธิ์ จึงมีพระราชโองการรับสั่งให้พระภิกษุสามเณรในเมืองมอญลาสิกขาเสียทั้งหมดทั้งประเทศ แล้วทรงส่งปะขาวถือศีล ๘ คณะหนึ่ง ซึ่งก็คืออดีตพระเถระผู้ทรงพระไตรปิฎก ทรงความรู้ ตั้งมั่นในศีล ที่พระองค์มีคำสั่งให้ลาสิกขามาถือศีล ๘ เป็นปะขาวนั่นเอง ออกเดินทางไปยังประเทศศรีลังกา
 
เพื่อให้ไปถือการอุปสมบทเป็นพระภิกษุมาใหม่จากคณะสงฆ์ในประเทศศรีลังกา เสร็จแล้วให้เดินทางกลับมาเป็นอุปัชฌาย์อาจารย์ บวชให้แก่คนมอญในเมืองมอญเสียใหม่ คณะของปะขาวนี้ เมื่อเดินทางถึงประเทศศรีลังกาได้รับการอุปสมบทแล้วก็เดินทางกลับ
 
ในระหว่างทางที่เดินทางกลับนั้น เรือสำเภาลำหนึ่งในจำนวนสองลำโดนพายุพัดให้หลงทิศไป ส่วนอีกลำหนึ่งเดินทางมาถึงเมืองหงสาวดีโดยปลอดภัย เมื่อทราบถึงพระกรรณของพระเจ้าธรรมเจดีย์  พระองค์จึงมีรับสั่งให้ทำเรือจำลองขึ้นมา ข้างในบรรจุด้วยของเซ่นไหว้บูชาเหล่าเทวดาทุกหมู่เหล่า ด้วยเครื่องเซ่นไหว้นั้น
 
ให้เหล่าเทวดาทั้งหลาย ที่ดูแลพื้นดินก็ดี ที่ดูแลพื้นน้ำก็ดี ที่ดูแลพื้นอากาศก็ดี ได้มาช่วยปัดเป่าให้เรือสำเภาที่หลงทิศไปนั้น ได้เดินทางกลับมาโดยปลอดภัย  หลังจากที่พระองค์ทรงทำพิธีสะเดาะเคราะห์แล้วไม่กี่วัน เรือที่หลงทิศนั้นก็เดินทางกลับมาถึงเมืองหงสาวดีโดยปลอดภัย  ชาวมอญจึงถือเอาเหตุการณ์นี้ทำพิธีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ในช่วงกลางเดือน ๑๐ ของทุก ๆ ปี สืบต่อกันมาตราบจนปัจจุบันนี้
 
สำหรับพิธีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ของชาวมอญที่ยังทำกันอยู่มีการเตรียมงานดังนี้ ก่อนวันพิธี ชาวบ้านจะร่วมมือร่วมใจกันเตรียมทำธง ร่ม และจัดเครื่องบูชาต่าง ๆ เพื่อถวายวัด โดยมีการแบ่งงานให้หัวหน้าคุ้มต่าง ๆ รับไปให้ลูกบ้านช่วยทำ แล้วนำมาส่งที่วัด ผู้ชายส่วนหนึ่งจะมารวมกันที่วัดวังก์วิเวการาม เพื่อร่วมกันสร้างเรือจากลำไม้ไผ่ ประดับตกแต่งด้วยกระดาษสี ในยามหัวค่ำ
 
จนถึงเช้ามืดของวันขึ้น ๑๕ ค่ำ ชาวบ้านต่างทยอยพากันนำธง ตุง ร่มกระดาษ มาประดับตกแต่งเรือ และบริเวณปะรำพิธีอย่างเนืองแน่น พร้อมนำเครื่องเซ่น เช่น กล้วย อ้อย ขนม ข้าว ดอกไม้ ไปวางไว้ในลำเรือ จุดเทียนอธิษฐานให้สิ่งไม่ดี และเคราะห์ร้ายต่าง ๆ ไปให้พ้นจากชีวิตตน จากนั้นรับฟังบทสวดอิติปิโส ๑๐๘ จบ
 
และบทสวดสะเดาะเคราะห์จากภิกษุสงฆ์ และเมื่อถึงเช้าวันแรม ๑ ค่ำ ชาวบ้านทั้งหมดก็จะมารวมตัวกันตั้งขบวนแห่ มีการละเล่นร้องรำประกอบดนตรี และการปล่อยโคมลอยขนาดใหญ่ จากนั้นชาวบ้านทั้งหมดจะช่วยกันลากเรือไปปล่อยกลางน้ำ